19 ธันวาคม 2551 13:01 น.

เจ้า"ฉางน้อย"ไปไหน

KIRATI


ธันวานี้....ฉางน้อย            หายไป
เหมือนจำศีล....หลบใน     หลืบถ้ำ
ฤา...วิวาห์ คู่ใจ                  ฉลอง เพลินสุข
ฤา...อกหัก...เพราะรักช้ำ   เลยไร้ จิตฮา.....

จิตสืบพา ใคร่รู้                  ความจริง
เกรงจะไปแกล้งลิง             ดับแค้น
วานใครเห็น "ฉาง"หญิง    ไล่ยิง ลิงอยู่...
จงยินรู้....จิตแม้น              ฉางน้อย  แน่เฮย

ทะเลมีคลื่นแระ.....
				
17 ธันวาคม 2551 08:21 น.

ขยับ...องค์พระมาปิดทอง...

KIRATI


๑ แผ่นทองฉาบ อาบองค์ พระปฏิมา
สวยสง่า ทั้งหน้าแท่น และแผ่นหลัง
ศรัทธาสูง จูงให้จิต ปิดทั่วยัง
ทั้งองค์พลัน ทองพิลาส เปรียบชาติไทย

๒ อันว่าธรรม ตามครรลอง ครองหน้าที่
จริงอยู่ที่ มีศรัทธา พาจิตให้
ปฏิบัติ โดยศรัทธา พาชาติไทย
แม้เปรียบไป ได้แค่ครอง ทองหลังองค์

๓ ที่กล่าวการ พานชักชวน ให้หวนคิด
ถึงมุมปิด ที่ควรมอง ต้องประสงค์
สิ่งตอบแทน ที่แร้นแค้น แสนงวยงง
การดำรง คงน้อยคน ที่ชอบทำ

๔ เพราะนับวัน จะพลันคิด ว่าผิดเด่น
ทุกคนเน้น ว่าเป็นงาน พานถลำ
งานกระจอก ทั้งที่จริง สิ่งที่ทำ
ทุกล้วนนำ ค้ำสังคม แต่จมใจ

๕ เก็บขยะ กวาดถนน คนตัดหญ้า
มอบกายา พาสังคม สุขสมได้
หนักเหนื่อยล้า แม้ว่าท้อ ก็ล่อใจ
ด้วยแรงกาย กับค่าเหนื่อย ที่เมื่อยตรม

๖ งานเสี่ยงตาย ไม่ปลอดภัย ในชีวิต
ก็ล่อจิต ด้วยค่าฝ่าฯ พาชีพสม
มากด้วยสิทธิ์ คิดครอบครัว ไม่กลัวจม
เมื่อชีพล่ม พอสุขได้ ในโลกเรา

๗ เหตุนับเนื่อง เรื่องที่มอง ให้ปองจิต
ให้เน้นคิด ในสิทธิ์ชอบ ตอบแทนเขา
เพราะมองจาก ฟากสังคม ใช่ตนเรา
สังคมเก่า ไม่เฝ้ามอง อย่างเป็นธรรม

๘ มองคุณค่า มาจากงาน นั้นประเสริฐ
ล้วนเลอเลิศ เกิดคุณค่า พาจิตหนำ
ค่าของคน ผลที่งาน นั้นจิตจำ
แต่จิตผำ เห็นข้อด้อย น้อยคนมอง
 
๙ เลยมิมี ใครสอนบุตร ให้มุ่งโปรด
จงช่วงโชติ โรจน์รุ่งเรือง ในเมืองผอง
ให้ยึดรักษ์ อาชีพเร้น และเห็นปอง
สักวันต้อง สนองราช ศาสน์สังคม

๑๐ เอาแต่เงิน เพลินหน้างาน นั่งการเน้น
เหมือนเล่นๆ เน้นกำไร มากสุขสม
สมดุลถ่วง เรื่องหน่วงจิต สิทธิ์สังคม
เริ่มถล่ม ล้มคุณค่า นั้นด้วยเงิน

๑๑ เหตุที่เล่า อยากให้รัฐ สร้างสังคม
ที่ชวนชม สมงามงาน พานสรรเสริญ
เริ่มสร้างสรรค์ ค่านิยม สังคมเดิน
ใช่ปล่อยเพลิน ตามวิถี ที่หลงมอง

๑๒ แล้วทีนี้ ที่ปิดทอง หลังองค์พระ
จะสวยสะ สมสุกใส ไร้จิตหมอง
ขยับองค์ ออกห่างฝา มาชวนปอง
ได้ฉลอง ปิดทองตรง หลังพระไทย
				
17 ธันวาคม 2551 08:10 น.

กลางดง

KIRATI


ขอบฟ้าหม่น มืดลงแล้ว แก้วใจจ๋า
ดวงดารา พลันเริ่มพา มามองเห็น
พี่อยู่ดอน ณ แสนไกล ให้ลำเค็ญ
ความหนาวเย็น มาเยือนย่ำ เหมือนย้ำคืน

ค่ำอันแสน จะมืดมัว สลัวภาพ
กอดปืนนาบ แนบอกไว้ ให้ใจชื่น
สงัดเสียง หริ่งเรไร ในค่ำคืน
พี่ยังยืน ฝืนอยู่เวร เป็นภวังค์

ณ ที่ฐาน ที่ตั้งพราง กลางดงป่า
ได้ผลัดมา เพื่อพักผ่อน นอนท่านั่ง
ใจก็คิด ถึงพักตร์แม่.... แหม...น่าชัง
คิดถึงจัง แม้นั่งนอน ในดอนดง

ทิวารุ่ง ในพรุ่งนี้ ตอนฟ้าสาง
จะเดินทาง เพราะเสร็จงาน ตามประสงค์
ลาดตระเวน เพื่อเน้นตรวจ ได้งวดลง
กลับบ้านคง คอยมารับ กลับบ้านเรา

นั่งอมยิ้ม นอนปริ่มรอ พอเช้ารุ่ง
หมายจะมุ่ง กลับสู่ใจ ไปคลายเหงา
เสร็จหน้าที่ พิทักษ์ชาติ ของราชเรา
พิทักษ์เจ้า เป้าหมายใหม่ ให้พี่ทำ
				
15 ธันวาคม 2551 16:21 น.

สิ่งนำใจ

KIRATI


๑ ศรัทธา ขับเคลื่อนได้        แรงใจ 
กำหนดกาย ขยับไป              สรรสร้าง
บางคำ เสื่อมหลั่งไหล         รินราด จิตแล
จงจิตนำ คำเสื่อมอ้าง           จิตสู้ มิถอย

๒ ความสุขเสก พลอยสร้าง   จิตชม
ทุกทิวา ราตรี รมย์                       รื่นได้
ยามทุกข์ รอบระทม                ถมทับ ดับสุข
จิตพานปลุกศรัทธาไซร้     ครอบไว้ รอบใจ

๓ คติใด ไขข้อง                    จิตรา
จงประดับ ลับปัญญา                  คมกล้า
เพียรจำติด คติพา                   ประดับ จิตแล
จิตยึดนำ ธรรมแห่งฟ้า          สุข นั้น  มั่นคง

๔ จิตหยัดยง เย็นไว้               แม้ไฟ
แผดเปลว ลามลัดไป                 ทั่วหล้า
ศรัทธา จักก่อใจ                         สุขลาม ตามติด
เพียงใจมั่น คติกล้า                กอบเกื้อ เจือจุน

๕ วิชา พูน จนจิตกล้า          เลิศนำ
หาใช่ ปัญญาธรรม              เลิศอ้าง
วิชา เกิดจากจำ                    ความนอก สู่จิต
ปัญญาเกิด ดั่งจิตสร้าง        ตรองเข้ม เป็นธรรม

				
15 ธันวาคม 2551 16:11 น.

แมงปอ...

KIRATI


๑ หนาวปีก่อน แต่ก่อนกาล ผ่านหนาวไหน
ก่อนหนาวกาย มักพิศพราย หลังสายฝน
มองชะหม้าย ได้ยลเจ้า เฝ้าบินวน
มาส่งฝน รับลมหนาว เจ้าแมงปอ

๒ มาปีนี้ มิเห็นเลย เหมือนแต่ก่อน
แม้ฝนถอน รอนริบจำ ทำไมหนอ
เข้าหนาวแล้ว แพร้วเพ่งพิศ ด้วยจิตรอ
เจ้าแมงปอ ไม่วอแว แต่ก่อนเป็น

๓ ไม่สังเกต ในเหตุเคย คงเฉยจิต
เพราะเคยติด จนจิตจำ ซ้ำชอบเห็น
แมงปอมาก หลากสีเรือง เหลืองแดงเป็น
มาบินเล่น เป็นประจำ ย้ำฤดู

๔ หนาวที่คาด เลยขาดความ งามบางอย่าง
เหมือนเป็นลาง สังหรณ์ใจ ให้ชวนรู้
อาจคงเพราะ ดาวเคราะห์โลก โศกน่าดู
เตือนทุกผู้ อยู่ด้วยใจ ให้ช่วยกัน

๕ ความอาเพศ นิเวศน์เปลี่ยน มิเวียนเช่น
เหมือนกฎเด่น เส้นหนาวร้อน สอนเขตกั้น
เมืองเวนิช จิตแห่งคลอง ยังหมองพลัน
จีนโศกศัลย์ ไต้หวันเศร้า อิเหนาซวย

๖ไทยเรานั้น ก็พลันด้วย ซวยอุบัติ
โดนสาดซัด วิบัติป่น จนสิ้นสวย
มรสุม รุมมากมาย หมายอำนวย
ให้มอดม้วย ด้วยภัยพา วาตภัย

๗ วิชาการ งานวิจัย มาไขบอก
เหมือนมองออก แต่กลับจุด พลุไฉน
บุหรี่ม้วน ล้วนทำโลก โศกบรรลัย
อีกมากไป ให้ตรงข้าม ที่ห้ามเตือน


๘ เคยยินข่าว เล่ากันสู่ ภูเขายักษ์
ที่แบ่งหัก แล้วผลักแยก แตกเสมือน
อลังการ ธารน้ำแข็ง แบ่งมาเตือน
แยกตัวเลื่อน แล้วเคลื่อนคล้อย ลอยทะเล

๙ ภาพแผนที่ ที่ชี้บ่ง ส่งให้เห็น
ดินถูกเน้น เร้นหายวับ กลับสรวลเส
เชื่อมิเชื่อ แผ่นดินเหลือ เมื่อทะเล
ซัดระเน ระนาดสิน แผ่นดินไทย

๑๐ แมงปอเคย มาเชยว่อน ร่อนบินเล่น
กลับมิเห็น เด่นนภา ว่าไฉน
แมงปอหาย หากมิมอง สะท้อนใจ
รับความไว้ อาจอาลัย เมื่อภัยเยือน
				
Calendar
Lovings  KIRATI เลิฟ 71 คน

วฤก

โคลอน

เชษฐภัทร วิสัยจร

เพียงพลิ้ว

อัลมิตรา

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

ผู้หญิงไร้เงา

แทนคุณแทนไท

กุ้งหนามแดง

แมงกุ๊ดจี่

ประภัสสุทธ

รการต์

พฤหัส กฤษชยรักษ์

บินเดี่ยวหมื่นลี้

ร้อยฝัน

pigstation

หิ่งห้อยน้อยใจ

ลักษมณ์

มนต์กวี

สองตุลา

ท่องเมฆา

ก้าวที่...กล้า

กวีปกรณ์

ดอกบัว

เฌอมาลย์

ว.มหรรณวา

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

ครูพิม

คอนพูทน

สายธารน้ำใจ

ก่องกิก

คีตากะ

ขุนศรี

พิมญดา

ยาแก้ปวด

ทิพย์โนราห์ พันดาว

บนข.

กันนาเทวี

กิ่งโศก

ไหมแก้วสีฟ้าคราม

ครูกระดาษทราย

แก้วประภัสสร

KIRATI

จอมปราชญ์แดนอาคเนย์

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน

ห้าเจ้าจอม

**.. เช่นรวีโชติ..**

แกงเขียวหวาน

มวลภมร

ดาวศรัทธา

cicada

เปลวเพลิง

หญิงบ้า

เ ที ย น ห ย ด

din

เบยองจุน

สีเมจิก

นักสืบไร้ชื่อ

ชากร

บุญพร้อม

พาดกลอน

แย้ม ไกลวันเกิน

แม่น้ำในฟ้า

Arm

Jackie

ไผ่ลู่ลมม

ศรีปาด เฟสเก่าโดนระบบลบเฉยเลย

ศุทธิกมล

Prayad

Parinya

จิ๊กจ้า

  KIRATI
ไม่มีข้อความส่งถึงKIRATI