20 ตุลาคม 2551 08:25 น.
KIRATI
กรรมโศก แสนจะสุด เศร้า วิญญาณ
นครา จะมิบริบาล เติบกล้า
ด้วยจตุรงคทิศเทศ พร้อม ป่วยเศร้า
ผองเพื่อนพร้องเรา หน่ายแหน่ง นรดี
มิยลมิยอมซับ ควันฟืน ไฟ ไขจิต
จะด้วยเหตุการณ์กล ใดคิด เพียงกล่อม
ควันโขมง โหมกระพือ ขึ้นแล้ว บ่เหน
ยังหน่ายเปน เพียงภาพซ้อน หลอนลวง
พันธุ์ณรงค์ องค์กร เห็นควัน เตรียมเหตุ
ปกประเทศ ด้วยแขนขา ประชาสูญฯ
หทัยแม่........... จะขาดแล้ว....... บ่ ยล
ยังสื่อ กล บ่ ยอมรับ ขับ รัฐนาวา
มิเห็นไฟ บรรลัยร้อน บ่ ยอมจิต
จำ....เพราะเหตุ ถูกปิด วิสัยเหน
ธรรมชน มิอาจนิ่ง อาสา เข้าปรก
ยังจะควร มิตระหนก อีก ฤา ประชา
17 ตุลาคม 2551 14:34 น.
KIRATI
จรัสแสง สุรีย์ฉาย เฉดรุ้ง เรืองรอง
สุริยะ ส่องแสง ต้องละออง หยาดฝน
สว่าง เรืองรอง เป็นริ้วงาม ณ เบื้องบน
ดุจดั่งเพชร เกล็ดฝน ฉายเฉด รุ้งลาย
วาววาบ หวามไหว ชมโค้ง ลายเส้น
ตัดแสง สว่าง พลันเด่น เป็นสาย
เจ็ดสี เจ็ดแสง เจ็ดเส้น เด่นพราย
แรงแสง ทักทอไซร้ เป็นสาย รุ้งงาม
17 ตุลาคม 2551 13:11 น.
KIRATI
VCD แผ่นหนึ่ง ซึ่งบอกเล่า
เป็นภาพเงา คนของรัฐฯ จัดการหมาย
อำนาจรัฐฯ จัดการคน จนต้องตาย
เพียงเพื่อหมาย สลายชน คนลุกฮือ
ที่เขาเพียง พบพาล ความอุบาทว์
แล้วมิอาจ ปล่อยผ่าน กระนั้นหรือ
ที่เขามา คัดค้าน นั้นหรือคือ
สิ่งที่ถือ เป็นความชอบ เลยต้องยิง
แค่แถลง นโยบาย ใช้เงินชาติ
ต้องเด็ดขาด ฟาดฟัน แม้ผู้หญิง
ทั้งผู้เฒ่า เด็กเล็ก ไม่ประวิง
ใครสั่งยิง แม้ผู้หญิง ช่างเลวทราม
เขาคือไทย คุณคือใคร ก็ไทยเหมือน
คุณกลบเกลื่อน ลบเลือนผิด จิตเฝ้าถาม
คำสั่งคุณ ช่างทารุณ ควรประณาม
ทุกคำถาม ตอบได้ทราม ทุกคำไป
การสลาย ฝูงชน จนพินาศ
ด้วยอำนาจ แก๊สน้ำตา พาสงสัย
ระเบิดควัน มันก็ต่าง กันมากมาย
เขาไว้ใช้ หยุดการร้าย ในสากล
การรวมตัว คัดค้าน ใช่เรื่องผิด
มันเป็นสิทธิ์ ให้ไว้เผื่อ เมื่อฉงน
ผิดมากหรือ ถึงต้องฆ่า ประชาชน
ด้วยผองคน ที่เรียกร้อง ความชอบธรรม
การดาหน้า กระหน่ำยิง ก็ยิ่งแปลก
บางก็แหก ปากร้อง อย่างสุขสันต์
ยิงเข้าไป กระหน่ำซัด สะใจมัน
เหมือนมันทำ ไปด้วยความ คึกคะนอง
เหมือนไม่มี ความเข้าใจ ในระบบ
แม้เรียนจบ เรื่องอำนาจ ศาสตร์สนอง
ปวงประชา เป็นดั่งนาย ตามครรลอง
นี่มันมอง ผองประชา เป็นศัตรู
ผู้อำนวย การยิง อยู่ที่ไหน
จัดหมู่ตอน อย่างไร ก็ไม่รู้
เห็นแต่คน อยู่ตรงหน้า เข้าตากู
กูก็ดู ว่าศัตรู กูก็ยิง
กู คือคน ที่ใจ สัตว์ สวมเครื่องแบบ
หรือว่าแอบ ปลอมปน เข้ามาสิง
จิตวิญญาณ เลยต่ำทราม เสียจริงๆ
ฤามาสิง ตามใบสั่ง ดั่งต้องการ
สร้างเหตุการณ์ ให้ลุกลาม เอาเป็นเหตุ
อ้างประเทศ บอบช้ำ จากไฟผลาญ
เพราะผองชน คนกล้า มารุกราน
โทษกล่าวกัน พันธมิตร ผิดซะเอง
สร้างวาทะ สร้างคารม จนเป็นต่อ
เที่ยวหลอกล่อ NBT ช่วยข่มเหง
ก็อย่างเงี้ ยะ..... มันถึงไม่ เคยย่ำเกรง
ยังบรรเลง ว่ากูถูก กับผู้คน....
ตำรวจไทย หลายนาย ที่มีจิต
เข้าใจสิทธิ์ ก็เสียใจ รวมข่มเหง
ประชาชน เพราะไม่นึก ว่าตนเอง
ต้องละเลง หยาดเลือด ประชาชน
ที่พร้อมนำทำตามเพราะคำสั่ง
ไม่คิดคาด วาดฝันจนฉงน
นี่เราหรือคือผู้ฆ่าประชาชน
เพียงเพราะคน ใจทราม สั่งลงมา
คนเอยคน ต้องดิ้นรน ใต้ระบอบ
ภายใต้กรอบ กฎเหมือนกด กลางหว่างขา
เงยก็ขื่น ก้มก็ขม ตรมอุรา
ฮือขึ้นมา มันก็บ้า มาฆ่าเอา
จึงใช้สิทธิ์ จะผิดถูก ก็มีสิทธิ์
เพราะมีสิทธิ์ จะคิดไล่ คนโฉดเขลา
เราคือโจทก์ ยืนตามสิทธิ์ ที่คิดเอา
รัฐฯควรเล่า ถ้อยแถลง แจงจนเคลียร์
ก็เท่านั้น รัฐฯดันเงียบ เป็นเป่าสาก
สาวความมาก ลากความยาว กลัวได้เสีย
รึยังไง เป็นอย่างนั้น เลยไม่เคลียร์
เพราะกลัวเสีย ที่นั่ง ในสภา
อย่างนั้นหรือ ที่ท่านถือ จึงอยู่เฉย
พูดจริงๆ รัฐฯไม่เคย เฉลยว่า
ทุกๆอย่าง ที่รัฐฯทำ เพราะนำพา
ที่กล่าวหา มันเลื่อนลอย ไม่มีมูล
ต้องเห็นใจ ประชาชน ที่ต้องคิด
เพราะรูปการ มันผิด จนจิตสูญ
มันเหมือนว่า สิ่งที่รัก และเทิดทูน
จักสิ้นสูญ เพราะมีเหตุ ด้วยเภทภัย
แค่มีกลิ่น ไฟฟาง ยังต้องหา
นี่มันไหม้ ตั้งหลายครา รัฐฯดันเฉย
ประชาชน ยอมไม่ได้ รัฐฯเจ้าเอย..
ไม่เฉลย หาความต่อ ก็บรรลัย
ที่แน่ๆ 7 ตุลา ใครจะผิด
มีสมอง ไม่ต้องคิด อย่าเฉไฉ
ลูกผู้ชาย ผู้อาสา กล้านำไทย
ผิดก็ได้ ยืดอกรับ อย่างผู้นำ
แล้วจู่ๆ ฮุนเซน มันก็บ้า
เกิดมา ท้ามาทาย ไทยให้ถลำ
ท้าต่อตี กะพี่ไทย ให้ตะงัน
งุนงงกัน มันจะบ้า รึอย่างไร
แต่คิดๆ ที่เภทภัย ประจวบเหมาะ
กลบคราวเคราะห์ รัฐบาล พาลสงสัย
เหมือนกลเกม ใครถนัด นักของไทย
คนแดนไกล เพื่อนฮุนเซน ด้วยนี่นา
ไม่เคยกล้า ก็มาท้า เอาดื้อๆ
เพียงแค่ถือ แต่ตัวสิทธิ์ พระวิหาร
ทำเป็นฮือ ให้ล่ำลือ จนรำคาญ
ดึงทหาร มาดักดาน ชายแดนไกล
อาจจะจบ ด้วยการทูต ต่างประเทศ
อาจเป็นเหตุ ให้ได้สิทธิ์ พระวิหาร
เกิดชอบธรรม เป็นผลพวง รัฐฯบาล
บริหาร บ้านเมืองต่อ ได้พอดี
ไม่ครับไม่ มันไม่จบ อย่างนี้แน่
ขอเพียงแต่ ให้ตื้อถาม เรื่องสลาย
การชุมนุม ที่ทารุณ คนมากมาย
มีคนตาย รัฐฯต้องออก เพียงอย่างเดียว
17 ตุลาคม 2551 09:41 น.
KIRATI
วงกตแห่งชีวิต
เริ่มลากเส้น........... แล้วโยงสาย....... ไปให้ถูก
เงื่อนไขผูก........... หาเส้นทาง........... สู่ที่หมาย
ทางลัดลด........... และคดเคี้ยว......... เลี้ยวมากมาย
ลากเส้นสาย........... ไปไม่ตัน........... พลันพบชัย
แก้เงื่อนไข........... ด้วยปัญญา.......... พาชวนคิด
ทางรอบติด........... เป็นร้อยพัน......... หันทางไหน
เดินไปผิด........... เซ็งชีวิต................ ปิดเกมไป
ต้องมั่นใจ........... ก่อนลงเล่น........... ลากเส้นลาย
ชีวิตเรา........... ก็เปรียบคล้าย........... เกมวงกต
ถูกกำหนด........... ด้วยกฎเกณฑ์....... มากเงื่อนไข
แต่ละคน........... ล้วนเริ่มต้น............. ต่างกันไป
ช่องเส้นชัย........... ต่างหวังไว้........... ก็ต่างกัน
อยู่ที่เรา........... เลือกเส้นทาง............ ไปทางถูก
อยู่ที่ผูก........... ลากเส้นลาย................ให้เป็นฝัน
อยู่ที่ใจ............. กล้าติดปีก................ หลบหลีกพลัน
ทางสู่ฝัน........... อยู่สุดสาย................. ที่ปลายทาง
17 ตุลาคม 2551 09:12 น.
KIRATI
ขวัญเอย.......เชยขวัญเรียง..... เคียงรับคืน ..... สู่ขวัญ
หอมกลิ่นกรุ่น...อุ่นอัน..... ขวัญพราก....จากห่างหาย
เชยแนบอุ่น...ไอแห่งรัก..... จากตัก..... มิรู้คลาย
ตักแทนหมอน....เพียงนอนหมาย... ว่าได้คืน.....สู่รัง
ลงเอนเพียง.....แนบอิง..... พิงหลัง....แตะพื้น
สัมผัสละมุน.... อุ่นคืน... สุขชื่น.... ดั่งความหลัง
สุดใดฤา.....จะอาจเปรียบ.... เทียบประดุจ.....ได้ดัง
รักของแม่.... ที่จีรัง.... ยั้งยืน.... ไปชั่วกาล
รักแม่..... เพราะแม่รัก....นั้นจริงแท้..... แน่สุด
เป็นรักอัน.... บริสุทธิ์.... ที่สุดแสน..... ไพศาล
ตั้งแต่ครรภ์...... จนลืมตา.... โตใหญ่มา.... จนวายปาน
รักของแม่.....จะยืนนาน.... ไม่มีสิ้น.....ไปจากใจ
ยามเมื่อไกล..... ไปจากบ้าน..... นานแสน.... สู้โลก
เผชิญทั้งสุข..... ทุกข์โศก..... ทั้งโชคดี... และร้าย
หวนกลับคืน... สู่หมอน.... นอนหนุนตัก แม่ผ่อนคลาย
เสมือนหนึ่ง..... ว่าได้หวน.... กลับคืน..... สู่อุทร....
///// รักแม่จังเลย//////