23 กรกฎาคม 2555 22:54 น.

ฉันเดินทางกว่าร้อยไมล์เพื่อให้ลืม

กวีปกรณ์

ฉันเดินทางกว่าร้อยไมล์เพื่อให้ลืม
ขวดต่อขวดดวดดื่มกล่อมแดดิ้น
เพลงต่อเพลงจนสุดท้ายที่ได้ยิน
น้ำตารินร้องไห้ระหว่างทาง

จากจุดเริ่มน้ำตาบ้าอย่างฝน
กระหน่ำท่วมถั่งท้นจนฟ้าสาง
มาสคาร่าแต้มไว้ละลายจาง
เป็นรอยเปื้อนเปรอะบ้างยามสร่างเมา

แสงนีออนบางบ้านยังฉานแสง
บนแผนที่แสดงตำแหน่งเศร้า
มองจุดนั้น-จุดนี้ที่แรเงา
เต็มไปด้วยความเหงาตามเรามา

เติมน้ำมันเพิ่มแรงข้าวแกงเผ็ด
น้ำตาเล็ด-ร้องไห้หัวเราะร่า
จึงแย้มยิ้มกับตัวเองทั้งน้ำตา
รักตัวเองดีกว่าต้องเสียใจ

พบผู้คนแปลกหน้ากว่าจะคุ้น
ผลัดเล่าเรื่องฉัน-คุณผูกมิตรใหม่
บ้างช่วยชุนปะติดชีวิตใคร
ความทรงจำลืมไปบ้างก็มี

ทำงานเช้าจรดเย็นเล่นซ่อนหา
กับความช้ำที่ผ่านมาพาใจหนี
กลับพบกับความเหงาเฝ้าราวี
ถามตัวเองวันนี้ฉันหนีใคร

ฉันเดินทางกว่าร้อยไมล์เพื่อให้ลืม
ขวดต่อขวดดวดดื่มหากดื่มไหว
เพลงบางเพลงเปิดเวียนบ้างเปลี่ยนไป
น้ำตารินร้องไห้...ไม่เคยลืม
				
22 กรกฎาคม 2555 13:04 น.

ขำกลิ้ง ลิง กะ นก ^^

กวีปกรณ์

นกแน่นิ่งน้อยเนื้อนั้นเหลือลาย
นางลิงล้อนกหน่ายนายนกหนี
ลิงลองเล่นนกหนาอย่าลาลี
นกลอยลี้หนีหน้านั้นลาลับ

ลิงนองนอยนกน้อยนั้นลอยไหน
แล้วเล็งไล่แลนกเหนื่อยหลบหลับ
นกนิ่งนิ่งน่าหน่ายหลายนางนับ
ล้อมหนุบหนับนางนก นกหลอกลิง!				
22 กรกฎาคม 2555 03:35 น.

...จนกว่า...

กวีปกรณ์

ย้อนนึกภาพทรงจำยังแจ่มชัด
แม้สายลมแห่งกาลพัดพังกัดกร่อน
สองเรายังเยาว์นักลองนับย้อน
ทั้งยังอ่อนเดียงสาเวลานั้น

ครั้งเคยเคียงข้างกันในวันก่อน
ทุกบทตอนสนทนาภาษาฝัน
จะร่วมรักภักดีมีต่อกัน
อุปสรรคคร้ามครั่นอย่าหวั่นไป

หนทางอาจยาวไกลหรือใกล้นั้น
จะหมายมั่นมุ่งคว้าจนกว่าได้
หากนับหนึ่งด้วยรักตระหนักไว้
ปลายธงเริ่มกวัดไกวไสวปลิว

แม้ภาพแห่งทรงจำเจ็บช้ำบ้าง
อาจเพราะทางเถื่อนร้ายบาดกายผิว
อีกเหนื่อยข้ามภูดอยกี่ร้อยทิว
ยังเกี่ยวนิ้วรักษาสัญญารัก

ก้าวต่อก้าวมั่นมุ่งพยุงกอด
บางค่ำคืนไฟมอดมืดหนาวหนัก
เพียงดวงหนึ่งดาราว่าไกลนัก
ยังประจักษ์อุ่นแสงแจ้งส่องทาง

รวงดอกรักโรยกลิ่นประทิ่นทั่ว
ล้อมรอบรั้วเรือนหอเคยรอสร้าง
ซุ้มดอกไม้หลายกอแบ่งกลีบบาง
สุดทางร้างสร้างหอรอเพียงเนา

ด้วยสองใจนับหนึ่งจนถึงรัก
คำสัญญายังแน่นหนักเป็นหลักเสา
มวลดอกไม้ยังหอมหวานลานเรือนเรา
ไปจนกว่าสองผู้เฒ่าร่วมเฝ้าเรือน				
21 กรกฎาคม 2555 23:36 น.

เหตุเพราะหยาดฝนยังโปรยปราย

กวีปกรณ์

เหตุเพราะสายฝนยังโปรยปราย
ดินอมน้ำมากมายจึงคายบ้าง
กบอึ่งระบึงร้องกึกก้องบาง
พอรุ่งสางไก่ขันทั้งสั่นเทา

ความชุ่มฉ่ำแฉะชื้นในคืนฝน
ดอกราตรีร่วงหล่นบนความเหงา
ในบ้านเรือนรั้วกั้นคั่นเขา-เรา
แบ่งพื้นที่ความเศร้าเท่าเท่ากัน

แม้มีลมพัดบ้างในบางช่วง
หวังบางใครคอยห่วงแม้เพียงฝัน
เหตุเพราะฝนปรอยจางอยู่อย่างนั้น
เพราะฉะนั้นฉันจึงเหงาอยู่อย่างนี้

เหตุเพราะสายฝนหลั่งถั่งท้นท้วม
พารั้วกั้นกองรวมเป็นบางที่
แต่ละเรือนแต่ละร่างต่างรู้ดี
แต่ละคนต่างพาทีและพึ่งพา

อาจเป็นเพราะสายฝนยังโปรยปราย
และแม่น้ำทุกสายจึงไหลบ่า
รั้วเคยกั้นเขา-เราตลอดมา
จึงเสียท่าล้มทั้งเคยยั่งยืน

ศักดินาความเหงาเขา-เราแบ่ง
เส้นความเศร้ารุ้งแวงพ่ายแรงคลื่น
ต่างเคยแบ่งกันเหงา-เศร้าบางคืน
ผลัดกันร้องร่ำสะอื้นคืนเดียวกัน

เหตุเพราะสายฝนยังโปรยปราย
แต่ตะวันยังส่องฉายฝ่าเมฆกั้น
แม้แม่น้ำท่วมบ่ากว่าหลายวัน
มิตรภาพเธอ-ฉันกลับบรรเทา
				
21 กรกฎาคม 2555 01:57 น.

ไร้สาระ!

กวีปกรณ์

โปรดอย่าไถ่ถามหาความ/เหตุ
ขึ้นแท่นเทศนาสาระใส่
ความจริงแท้คือสิ่งที่เป็นไป
ตามแต่ใจจะตอบด้วยชอบธรรม

นึกขันเสียทุกครั้งพลั้งไถ่ถาม
เมื่อมิตรแท้หวั่นหวามในยามค่ำ
"คิดสิ่งใดอยู่ในมโนกรรม?"
"เปล่า!!" ตอบคำ "ไม่คิดอะไร"

 นั่นคือการโป้ปดสุดมดเท็จ
หลอกกันมิสำเร็จหรอก-ตรองใหม่
ชีวิตช่างอ้างว้างเชียวหรือไง
จึงปล่อยใจลอยคว้างทางอารมณ์

บ้างบางคราบางใครเค้าไหวหวาม
ครั้งลิ้มรสรักงามยามสุขสม
คล้ายหัวใจหลงลืมความตรอมตรม
เต็มไปด้วยความชื่นชมนิยมยินดี

จะเอื้อนเอ่ยอ้างวจีกี่จำนรรจ์
ถ้อยทำนองความนั้นเพราะทุกที่
ไหนคุณ/ท่านลองตรองดูสักที
อ้างเหตุผลนั้นนี้?! เพราะมีรัก?!

จงตรองตรึกนึกใหม่ใช้สำนึก-
อิสระ ความรู้สึก แล้วตระหนัก
ชีวิต-เกิด-เจ็บ-ตาย วุ่ยวายนัก
ลองเว้นวรรคพักบ้างก่อนวางวาย

"คิดสิ่งใดอยู่ในมโนกรรม?"
ตั้งสติโดยธรรมกิจทั้งหลาย
แล้วเติมตอบตนจนคลี่คลาย
จงอย่าคิดว่าง่าย-ไร้สาระ!				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์