18 ตุลาคม 2555 17:40 น.
กวีปกรณ์
ตั้งคำถามทบทวนชวนสงสัย
ความจริงเป็นเช่นไรไยสับสน
สิ่งที่ทำที่เห็นเพียงเล่นกล
ยากสัมผัสตัวตนของคนใด
แล้วจึงลองตรองตรึกสำนึกตัว
สรรพสิ่งหลอมมอมมัวเมื่อหวั่นไหว
เพ่งอัตตามองตนว่าเป็นใคร
กลับปรุงแต่งตนใหม่ให้อัตตา
อ้างตนเป็นเช่นนั้นฉันคนนี้
ยึดถือสิ่งที่มีที่ค้นหา
เพียงวูบหนึ่งสิ่งเร้าโรมรันมา
ใจก็ไหวไปว่าน่าจะเป็น
สิ่งที่เคยคิดทำอีกคำพูด
เปรียบดังหวูดรถไฟของเด็กเล่น
อ้างเหตุผลกลใดไม่ละเว้น
แล้วบีบเค้นตัวตนทนทำตาม
ความมุ่งมาดปรารถนาแห่งชีวิต
ความสำเร็จวิจิตรใดเฝ้าใฝ่ถาม
คือเปลวเพลิงร้อนใจในทุกยาม
จนกว่าตนครั่นคร้ามจึงห้ามใจ
จริงแท้เป็นเช่นไรไม่อาจตอบ
ทุกเหตุผลมีกรอบอันบางใส
ลบอัตตาแล้วตรองมองว่าใคร
ตอบแต่สิ่งสะท้อนใดที่ได้มอง
18 ตุลาคม 2555 02:07 น.
กวีปกรณ์
หากความรักแท้ยังอยู่มี
หากจันทร์คืนนี้ยังสว่าง
หากทางเท้าบางใครคอยร่วมทาง
หากฟ้ายังสางด้วยแสงตะวัน
หากนกขับขานบทกวี
หากจานสียังเปี่ยมความฝัน
หากดินสอที่เขียนนั้นหดสั้น
กลับบันทึกเล่มนั้นหนาเพิ่มพูน
อยากให้รักแท้ยังอยู่มี
ยินดีประคองไว้ไม่ให้สูญ
อาจฟังฝันหวานปานการ์ตูน
สีสันเปียกปูนก็ยินดี
แม้ต้องรอความรักสักเท่าไหร่
สิ่งที่ไขว่ที่คว้าคล้ายหลบหนี
ยังคงตื่นรอด้วยไมตรี
สิ่งที่เคยพลาดแค่คลาดไป
อาจเหงาไปบ้างบางอารมณ์
เนื้อเพลงขื่นขมคนอ่อนไหว
ละครซาบซึ้งสะเทือนใจ
อย่างไรเล่าหนอยังรอรัก
15 ตุลาคม 2555 01:23 น.
กวีปกรณ์
เริ่มต้นแต่ฟ้ากว้างสว่างแสง
จากมืดดับกลับแจ้งสว่างไสว
ตระเตรียมพาหนะประจำใจ
ต้อนรับมิตรใกล้ไกลในบ้านกลอน
อักษรศิลป์สื่อสานสัมพันธ์รัก
หยาดน้ำคำน้ำหมึกชวนพักผ่อน
ทริปสิบสี่ตุลาจะพาจร
อัลมิตราพาตะลอนชลบุรี
เที่ยวทั่วชลคงไม่ไหวพอสังเขป
จากกรุงเทพ-พัทยาเมืองแสงสี
แม้กลางวันไร้แสงแห่งราตรี
สัตหีบกลับมีแสงดาวศรัทธา
กวีปกรณ์อีกคนในพื้นที่
ขอนัดพบพี่พี่ได้เปล่าหนา
แก้วประภัสสรยิ้มพิมพ์อักษรา
กุ้งหนามแดงตื่นเต้นว่ายินดี
เพียงพลิ้วยืนปลิวลมรอพลขับ
ร้อยฝันรอแทบหลับคนต่างที่
จากชัยภูมิเพื่อพบเพื่อนครานี้
มิตรภาพไม่มีคำว่าไกล
แปดโมงสามสิบนาฬิกา
ก่องกิกนำพาท่องแดนใหม่
พิพิธภัณฑ์ภาพพาตื่นใจ
ศิลปะหลอกให้เห็นภาพลวง
แท้ที่จริงศิลป์ใดได้ลวงหลอก
เพียงจิตเราเย้าหยอกในบางช่วง
ความจริงใจเห็นได้ใช่เปล่ากลวง
คือน้ำใสอีกห้วงแห่งสัมพันธ์
บันทึกภาพประทับใจในทรงจำ
มากมายกิจกรรมร่วมสังสรรค์
ศิลปะหล่อรวมเราด้วยกัน
บทกวียาวสั้นเราหมั่นกรอง
มื้อเที่ยงมุ่งหน้าร้านพอพุง
เปี่ยมน้ำใจป้าลุงช่างผุดผ่อง
ทั้งกุ้งปลาปูเป็นอิ่มเต็มท้อง
ขอให้ร้านทั้งสองขายร่ำรวย
ดาวศรัทธานำทัพหลังอิ่มท้อง
กราบเกียรติก้อง"กรมหลวงฯ" /ชมวิวสวย
ในฐานทัพทหารเอื้ออำนวย
สัตหีบเต็มไปด้วยยุทธนาวี
จากนั้นจึงกราบลาคุณลุงป้า
ผูกสัมพันธ์สัญญาอย่างเร็วรี่
ทหารเริ่มรำคาญนานเต็มที
ไม่เคลื่อนรถสักทีทำลีลา
จากนั้นมุ่งหน้าอารามหลวง
รำลึกคุณทั้งปวงแห่งศาสนา
พานดอกไม้เทียนธูปด้วยศรัทธา
กราบองค์ศาสดาตถาคต
แล้วพักเหนื่อยจิบน้ำองุ่นแดง
เพิ่มแรงท่องเที่ยวตามกำหนด
ระหว่างทางสนทนาอย่างออกรส
"การเก็บกลด" กลางซิลเวอร์เลก
ยังไม่พอขอเพิ่มตลาดน้ำ
ทุกคนพร้อมท่องตามไม่มีเบรก
เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข
คล้ายสุขสันต์สรรเสกเสริมเรี่ยวแรง
เพื่อนพี่น้องท่องเที่ยวตามประสา
บันทึกภาพงามตาทุกหนแห่ง
มิตรภาพล้ำค่าราคาแพง
ยามตะวันดับแสงจึงแจ้งลา
ขอบคุณทุกอักษรที่วาดสาย
ลวดลายท่วงทำนองศิลป์ภาษา
อีกน้ำใจในน้ำคำจำนรรจา
"มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า" สัญญาใจ
9 ตุลาคม 2555 20:35 น.
กวีปกรณ์
โลกไม่ใช่ของเรา
โลกหมุนรอบตัวเองเบาเบารู้สึกไหม
โลกไม่ใช่ของเราหรือของใคร
โลกโคจรดาวดวงไฟตรงใจกลาง
ฝันไม่ใช่ของเขา
ฝันของเราอาจถูกขโมยไปบ้าง
ฝันไม่มีเข็มทิศคอยนำทาง
ฝันไม่มีป้ายแขวนวางว่าของใคร
ไฟไม่เคยอุ่น
ไฟมักจุนชีวิตสว่างไสว
ไฟไม่เคยดับมืดในมืดใด
ไฟสว่างแต่กลับไม่เคยอุ่นพอ
กระจกไม่เคยใส
กระจกเงาฉายใจที่จดจ่อ
กระจกสะท้อนเพียงสิ่งที่เฝ้ารอ
กระจกจึงลวงล่อและหลอกเรา
เราไม่ใช่ใคร
เรามิอาจเข้าใจอะไรเขา
เราอาจสะท้อนส่วนหนึ่งดังเงา
เราจึงไม่ใช่เขา และเราไม่ใช่ใคร
7 ตุลาคม 2555 21:43 น.
กวีปกรณ์
หากเธอคิดฉันไกลปันใจห่าง
ฉันรักเธอเสียอย่างอย่าสงสัย
เถิดที่รักโปรดอย่าหมองเศร้าไป
จะห่างเธออย่างไรให้ไกลกัน
หากเธอนั้นชี้นกฉันว่านก
อย่าตระหนกรักแน่มิแปรผัน
หากเหน็บหนาวหัวใจอย่างไรกัน
จะมีฉันเคียงข้างไม่ห่างไกล
บนหนทางหวังไว้ดั่งใจฝัน
จงเชื่อมั่นหนักแน่นอย่าหวั่นไหว
หากเธอล้มพลาดพลั้งในครั้งใด
กลับมาหาฉันได้ในทันที
หรือพลัดหลงเผลอไผลในบางครา
ฉันจะออกตามหาเธอทุกที่
หากชอกช้ำปวดร้าวล้นฤดี
ฉันจะอยู่ตรงนี้ซับน้ำตา
ไม่มีหรอกวันใดปันใจห่าง
รู้เสียบ้างฉันรักเธอยิ่งกว่า
จะโอบกอดเธอไว้ทุกเวลา
คอยห่วงใยห่วงหาทุกคราไป