5 ตุลาคม 2555 10:26 น.
กวีปกรณ์
ฉันกำลังเดินทางไปให้ไกลห่าง
โลกใบกว้างแสนเศร้าเขม่าไอเสีย
จัดกระเป๋าเดินทางอย่างอ่อนเพลีย
คว้าขวดเบียร์ดื่มยกกระดกกิน
กุญแจรถบิดสตาร์ท ปาดน้ำตา
กางแผนที่นำพาคนพลัดถิ่น
อพยพปลีกใจให้โบยบิน
หลีกผู้คนให้สิ้นอย่างยินดี
สุดถนนเกินกว่าพารถเคลื่อน
ขยับปลายเท้าเขยื้อนเหมือนหลบหนี
ทิ้งเรื่องราวความหลังครั้งยังมี
จุดไฟเผาไดอารี่เพื่อส่องทาง
ในความมืดผืนป่าพาใจหวั่น
กางเตนท์พลันหยุดพอรอสว่าง
เรื่องความหลังเผาไฟอุ่นใจพลาง
กอดตัวเองอย่างอ้างว้างกลางวนา
จั๊กจั่นร่ำน้ำค้างอย่างสุนทรีย์
นกกลางคืนร่ำกวีไร้ภาษา
หิ่งห้อยหายไปไม่พบหน้า
ดอกพุดช่างหอมกว่าคราค่ำคืน
ในความมืดแห่งราตรียังตื่นอยู่
กางแผนที่ออกดูแล้วสะอื้น
จากจุดเริ่มจนจุดนี้ที่กล้ำกลืน
ความเดียวดายนับหมื่นยังอยู่มี
ฉันจึงเผาแผนที่ที่กางนั่น
จะหลงทางช่างมันในวันนี้
หากดวงดาวดวงใดใคร่ปราณี
บอกหนทางฉันทีให้หนีไป
แดดเช้ากำลังอุ่นโอบสายหมอก
นกกลางวันย้อหยอกอย่างแจ่มใส
ไม่อาจรู้เลยว่าเวลาใด
ฉันพลัดหลงอยู่ไหนในเวลา
ยังเห็นรอยย่ำอยู่เมื่อครู่เดิน
ตัดสินใจเผชิญแม้ปวดปร่า
เพราะอดีตยังคอยตามเรามา
จึงพบว่าหลงทางมาตั้งไกล
ท่ามปัญหามายมายไร้ทางออก
ฉันขยอกกลืนแต่ความสงสัย
แล้วทับถมความทุกข์ท้นทรวงนัย
ลืมต้องแก้ปัญหาไปในทันที
แต่ละก้าวที่ย่างอย่างทบทวน
บางปัญหาคร่ำครวญก็ใช่ที่
เพียงวูบหนึ่งอารมณ์สร้างก็มี
จนใจนี้เหนื่อยหนักไม่พักวาง
บิดกุญแจสตาร์ทผงาดสู้
กลับรถอย่างรอบรู้ยามสว่าง
ทุกพื้นที่ที่พ้นพบรอยยาง
พาตัวเองสะสางล้างหัวใจ
1 ตุลาคม 2555 00:08 น.
กวีปกรณ์
ฝนตกหนักราวน้ำลายหกกระเด็น
ยามนินทาเป็นว่าเล่นเรื่องชาวบ้าน
น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งเลยชื่นบาน
ลอยโหลงเหลงทั่วทุกย่านร้านของชำ
พ่อค้าแม่ค้าสะดวกขาย
แต่คนซื้องงแทบตายอยากจะขำ
ข้าวของวางตรงไหนใครจะจำ
หากไม่ใช่ขาประจำเพียงขาจร
ผู้ประกอบการค้าร้านโชว์ห่วย
มิตรไมตรีร่ำรวยหน้าสลอน
การจัดวางสินค้าไร้ขั้นตอน
วาทศิลป์มาก่อนไว้ชอนไช
ขอขอบคุณทุกท่านที่อุดหนุน
ทุกเรื่องราวของคุณการุณให้
ค่ะ/หรือครับ อย่างว่าอย่าพูดไป
สำนวนใช้คุ้นหูที่รู้กัน
อนิจจาร้านค้าว่าโชว์ห่วย
มิตรภาพร่ำรวยให้กล่าวขวัญ
แต่กลับพ่ายสะดวกซื้อหากประชัน
เพราะของชำร้านนั้นเลอะน้ำลาย