19 เมษายน 2550 17:46 น.
กวีปกรณ์
คลื่นคารมข่มขวัญจนหวั่นท้อ
ชีวิตหนอเหนื่อยเหน็ดอีกเหน็บหนาว
เคยคิดไว้วันหน้าจักคว้าดาว
กลับยิ่งก้าวยิ่งไกลมิใกล้เลย
อุตส่าห์สร้างสะพานไว้สานฝัน
ด้วยมุ่งมั่นกลับพังภินเสียสิ้นเฉย
ยังตัดพ้อเราะร่าว่าเยอะเย้ย
ทั้งที่คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น
กำลังใจหยิบยื่นให้ไม่เห็นยาก
หรือน้ำใจแห้งผากหมดแล้วนั่น
ใช่อยากยิน เยินยอ หยอกล้อกัน
คงไม่ต้องเค้นคั้นกว่าลั่นคำ
หรือมาร่วมลงเรือเพื่อช่วยพาย
จนเทียบท่าจุดหมาย จุ้มจ้วงจ้ำ
ท่องถึงทางที่หวังตั้งใจทำ
มิตรภาพมากล้ำกำลังใจ
18 เมษายน 2550 06:22 น.
กวีปกรณ์
(๑) ...ยังเยาว์...
เคยคิดค้นคำตอบเติมคำถาม
พยายามบ่อยครั้งค่อยครวญหา
เกี่ยวกับใครคนหนึ่ง นานผ่านมา
เกี่ยวกับรักร้างลาจนล้าใจ
เพราะเหมือนตายทั้งเป็นเช่นวันนี้
สิ่งใดที่ส่งผลรักหรือไม่
หรือเพียงคนเคียงข้างมาห่างไกล
เพราะเหตุผลกลใดไม่รู้เลย
(๒) ...เติบโต...
จวบจนวันผันผ่าน
คำตอบแห่งวันวานได้เปิดเผย
ที่ขาดใครเคียงข้างเหมือนอย่างเคย
กาลนี้กลับเฉยเฉยใช่ปวดร้าว
นั่นเป็นเพียงเพราะรักนั้นยังอยู่
หากห่างรักเพียงครู่ครั้นเหน็บหนาว
ครั้งคิดขาดความรักแม้สักคราว
แทบสิ้นไร้แรงก้าวเมื่อขาดรัก
จะเจ็บจนเจียนตายให้ดายดิ้น
ก็ยากปลิดรักสิ้น จึงตระหนัก
ที่แท้เห็นจะเป็นเพราะรัก
อันมีผลยิ่งนักกับชีวิต
15 เมษายน 2550 23:21 น.
กวีปกรณ์
สนามแข่งแห่งชีวิตว่ายากนัก
ช่างมากด้วยอุปสรรคเบาหนักแกล้ง
รอจนกว่าดวงจินต์เราสิ้นแรง
แล้วทิ่มแทงเท่าที่ยังหายใจ
บนอานแห่งชีวิต ใช่เราควบ
อยู่อย่างนั้นจนจวบชีพหาไม่
อย่าหยุดฝันเมื่อสุดจุดเส้นชัย
ต้องก้าวไกลกว่าจุดหมายตะกายดาว
บางครั้งพลั้งพลาดกว่าผ่านพ้น
วิ่งอยู่ในวังวนท่ามฝนหนาว
ล้มลุกแล้วเหลือหลายจนกายร้าว
เกือบสิ้นแรงลากก้าวในคราวนั้น
ด้วยศรัทธาแห่งฝันโอบพันกาย
จึงขยับปีกสยายสู่ปลายฝัน
ขึ้นเหินหาวห้วงฟ้าเอื้อมคว้าจันทร์์
ล้อมด้วยดาวพราวพันอันแพรวพราย
แม้จักล้มยังลุกไม่คลุกดิน
ที่โบยบินใช่ฝันบ้าล่าจุดหมาย
แค่เร้ารุกปลุกใจไร้สิ้นลาย
เพื่อพักกายก่อนสู้ไม่รู้แพ้
7 เมษายน 2550 00:20 น.
กวีปกรณ์
แบ่งบานบนลานจินต์มิสิ้นสูญ
งอกงามด้วยอาดูรอาวรณ์ไหว
รากเลื้อยแทรกซอนมุ่งชอนไช
สร้างริ้วรอยร้าวใจยากเยียวยา
รวยรินกลิ่นเศร้าเสียทั่วถ้วน
หอมเอยหอมโศกชวนปรารถนา
ยวลเย้าเคล้าจินต์จนอ่อนล้า
จากนั้นเจ้าจึงคร่าไร้อาทร
รอเกสรสุขผสมมาบ่มเพาะ
กลายเมล็ดเม็ดเหมาะปลูกต้นอ่อน
ผลิดอกออกใบในวงจร
สู่โศกงามยากถอนรอนให้ตาย
ด้วยเกรงใจจักเหงาไร้พงศ์เผ่า-
พันธุ์พืชแห่งความเศร้าเคยห่มหาย
ไร้รู้สึกสุขทุกข์ท้นจนเสียดาย
แม้โศกนั้นจักร้ายหมายยอมทน