27 พฤศจิกายน 2549 08:48 น.

สภากาแฟ

กวีปกรณ์

กรุ่นกาแฟฟุ้งกลิ่นกล่อมอากาศ
แต่งรสชาดตามชอบตอบประสงค์
ขมนิดหน่อยค่อยลิ้มละเลียดลง
อยู่ในวงสังสรรค์จำนรรจา

สนทนาประสาคนเคยคุ้น
ช่วยปะชุนเรื่องเก่าคอยเล่าว่า...
อุ่นอารมณ์เพื่อนพ้องผองสภา
ลืมเวลาค่อยเคลื่อนเหมือนไม่มี

สานสัมพันธ์ผูกมิตรยิ่งชิดใกล้
ร้อยเรื่องราวรินใส่แก้วหลากสี
เจือรสขมผสมหวานนานนานที
คล้ายชีวีหลากรสประสบการณ์

ต่างรสชาดต่างคนต่างความคิด
แต่งชีวิตกลมกล่อมปนหอมหวาน
ต่างตักเตือนแต่งความตามชำนาญ
เติมขมทานสอนตน...ต่างคนชิม				
25 พฤศจิกายน 2549 05:07 น.

เรื่องชีวิต

กวีปกรณ์

          ชีวิตมีร้อยเรื่อง...............หลากพัน
เจ้าจักเรียนรู้มัน.......................เมื่อพร้อม
บางสิ่งอาจคอยวัน....................ปรากฏ
หากจิตยังนอบน้อม..................ชีพนี้ศรัทธา

         จงอย่าหลีกหลบเร้น........พรางกาย
มันจักคลี่เงื่อนคลาย.................สุดแล้ว
มีต้นย่อมมีปลาย......................ที่รัก
ข้าอยู่มิคลาดแคล้ว...................แห่งนั้นมั่นเสมอ			

         เพียงเจ้าจงจับจ้อง...........สองเนตร 
มีหนึ่งสถานวิเศษ.....................มากล้ำ
ค้นหาสิสังเกต.........................ให้พบ
ก้าวย่างอย่าเพลี่ยงพล้ำ...........เท่านั้นเป็นดี

         ทุกสิ่งจักเปลี่ยนเจ้า........เปลี่ยนแปลง
อาจแปลกสื่งซึ่งแสดง...............ประจักษ์ได้
อย่าหวั่นไม่ร้ายแรง.................หากพบ
จงแกร่งอย่ากลัวไซร้.................ชีพเจ้าเติบโต

         บางช่วงชีวิตคล้าย..........เดินทาง
บางแห่งอาจเลือนลาง..............สว่างแจ้ง
บางวันหมอกหม่นจาง..............ขวางจิต
บางสิ่งอุปสรรคแสร้ง................แกร่งกล้าฝ่าฟัน

         เข้าใจและรับรู้................ความหมาย
ทุกสิ่งย่อมกลับกลาย................สิ่งแท้
มีเกิดแก่เจ็บตาย......................สลายดับ
เปล่าใช่เราพ่ายแพ้..................แต่ต้องเข้าใจ			

         ใช่ทุกสิ่งเปลี่ยนเจ้า.........สหายเอย
ตั้งสติสิทรามเชย.....................อาจแก้
ทบทวนเมื่อแรกเปรย...............ทวนทบ
หากมั่นประมาทแม้..................อาจแพ้ภัยพาล				
24 พฤศจิกายน 2549 07:41 น.

มั่นรัก

กวีปกรณ์

มาเถิดที่รัก
หากเหน็ดเหนื่อยนัก.....เพียงพักค่อยคิด
จับจูงมือฉัน..................คงมั่นแน่นสนิท
เรื่องร้ายคลายฤทธิ์.......ทุกทิศห่างหาย

หนึ่งน้อยหน่อยนิด
เพียงลองมองพิศ..........ใครคิดกล้ำกราย
ในอ้อมอกอุ่น...............ละมุนกรุ่นกาย
มิมีสิ้นสลาย..................แม้ตายจากกัน

คงอยู่คู่มาน
ทุกทิศทั่วสถาน..............แม้กาลจักกั้น
เธอยังคงอยู่...................ยอดชู้ชีวัน
นับจากนี้นั้น...................ยืนยันมั่นรัก

เธอคือดวงใจ
มิว่าอย่างไร	..................หรือใครเตือนตัก
มิมีแปรเปลี่ยน................จิตเจียนสลัก
มั่นคงจงภักดิ์.................แน่นหนักรักเธอ

แม้มิมีใคร
ขาดเขาเข้าใจ................ถามไถ่เพ้อเจ้อ
กล่าวหาว่าต่าง..............ไร้ทางพบเจอ
ช่างเขากล่าวเพ้อ............มองเหม่อเพียงกาย

คำอาจบาดคม
อุปสรรคถักปม...............จักบ่มทำลาย
เพียงเรามีเรา.................อย่าเฝ้าฟูมฟาย
ให้รักอธิบาย...................คลายทุกข์สุขสันต์

เมื่อพรหมท่านเพรียก
รักเราร้องเรียก...............สำเหนียกเสียงนั้น
ศรัทธากล้ารัก................อุปสรรคจักบั่น
ทานทนมนมั่น................ใครกัน...กั้นรัก
				
18 พฤศจิกายน 2549 18:01 น.

เหมันต์ธันวาฯ

กวีปกรณ์

กระดิ่งยังไหวไกวเสียง
	ครวญคร่ำสำเนียง
	ยังยินยามจินต์ถวิลหา

	หลากค่ำข้ายากข่มตา
	มนมาดปรารถนา
	คำนึงถึงนางห่างหวน

	เหมันต์ธันวาฯมาจวน 
	อกหวั่นเรรวน
	ลมหนาวคราวนี้มิไกล

	กริ๊งกริ๊งยิ่งดังกังวานใส 
	สะท้อนหัวใจ
	สะท้านอารมณ์คมบาง

	หนาวเนื้อเหลือทนจนคราง 
	แนบเนื้อนวลนาง
	หนาวนี้หนาวน้อย...น้อยลง

	แต่รักไร้ความยืนยง	
	รักมิมั่นคง
	มีรักมักพรากจากลา

	ลมหนาวร้าวใจจนชา	
	เหมันต์ธันวาฯ
	อกข้าเหว่ว้าเหลือทน

	ใกล้แล้วลมหวนจวนจน 
	วารวันผันวน
	ตามกฏเกณฑ์กาลฤดู

	กระดิ่งแว่วหวามวาบหู	
	แลดาวเดือนธนู
	ลมโถมโหมพัดกวัดไกว

	พฤศจิฯสิ้นแล้วหรือไร	
	มิทันเตรียมใจ
	ลมหนาวเหมันต์พลันมา
	
	
	๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
	"เพียงคิดถึงเสี้ยวหนึ่งของความคำนึง
วูบหนึ่งแห่งเหมันต์ธันวาฯครานั้นหัวใจก็ร้าวเหลือทน"				
10 พฤศจิกายน 2549 09:15 น.

ไผ่

กวีปกรณ์

มนต์มารุตร่ายบรรเลงบทเพลงไผ่
กิ่งก้านไกวเสียดเสนาะเพราะผสาน
ว่าหวีดหวิวพลิ้วพรมอารมณ์สราญ
เกิดกวีกลอนกานท์ล้านทำนอง

บ้างเอนไหวโยกย้ายคล้ายระบำ
บ้างกระแทกกระทบทำจังหวะก้อง
ยามปลิดใบลานเหลืองเรืองดั่งทอง
ช่างชวนมองม่านงามตามลมปลิว

หลายหลากใบร่วงหล่นบนผืนน้ำ
คล้ายหลากลำเรือน้อยลอยพื้นผิว
จัดขบวนยุตยาตรวาดแถวทิว
ละแล่นลิ่วล่องไหลในธารา

จึงจารภาพพร้อมเสียงสำเนียงศิลป์
ครั้งเคยยินชมชื่นรื่นหนักหนา
ตราตรึงร้อยถ้อยคำพร่ำพรรณา
เพื่อรักษาสืบไว้ในรอยจำ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์