13 ธันวาคม 2548 03:12 น.
กวีปกรณ์
คอยเตือนจิตตอกใจไม่ให้รัก
อยากหยุดพักหยุดคิดปิดไม่ไหว
โอ้...อารมณ์บ่มบ่วงมาลวงใจ
มาจุดเชื้อเจือไฟให้อุ่นทรวง
มาคอยล้อยอหยอกมาหลอกล่อ
มางอนง้อพะเน้าพะนอทำห่วงหวง
มาบอกรักวางกับดักด้วยกลลวง
มายอเย้าเคล้าควงดวงหทัย
พอเผลอใจไม่นานพาลห่างเหิน
ทำมองเมินเสียจนคนสงสัย
จักยื้อหยุดฉุดดึงมาตรึงใจ
จักถอยลับกลับไปก็ไกลเกิน
รุนแรงไปกลัวใจจักบอบช้ำ
กระชากซ้ำย้ำลงไปใช่ผิวเผิน
เลือดแดงชาดอาจไหลใจเผชิญ
อกสะเทิ้นเดินเลี่ยงเบี่ยงทางใด
ได้แต่นั่งกลัดกลุ้มกุมขมับ
ไยขาดยับยั้งจิตคิดครวญใคร่
จำต้องยอมตรอมตรมซมทรวงใน
น้ำตาไหลเพราะ...หัวใจไม่ระวัง
10 ธันวาคม 2548 22:39 น.
กวีปกรณ์
ดวงจันทร์เจ้าเหงาไหมในคืนหนาว
หรือเพราะมีดวงดาวคอยเป็นเพื่อน
รู้หรือเปล่าข้าเหงามาแรมเดือน
ก็คงเหมือนคืนเจ้าไร้ดาวเคียง
ดวงจันทร์เจ้าเหงาไหมในคืนนี้
หรือเพราะมีลมพัดผ่านขับขานเสียง
ร้องเพลงกล่อมปนด้วยรักในสำเนียง
แต่คืนนี้ข้ามีเพียง....เสียงลมหายใจ
ดวงจันทร์เจ้าหนาวไหมในคืนเหงา
หรือเพราะมีแสงดาวคอยอุ่นให้
รู้หรือเปล่าข้าหนาวไม่มีใคร
หนาวจนเหน็บเจ็บใจไร้คนเคียง
ดวงจันทร์เจ้าเคยหนาวบ้างหรือเปล่า
หรือยามหนาวลมเขาคอยพัดเบี่ยง
พัดเบาเบาให้เจ้าเย็นพอเพียง
แต่ทางเลี่ยงเรียงโดนข้าชาทั้งใจ
ไม่ใช่ข้าอิจฉาจันทราดอก
เพียงอยากบอกระบายความอ่อนไหว
ความเงียบเหงาหนาวเหน็บเจ็บทรวงใน
ยากจะต้านทานไหวทุกข้ามคืน
เพียงอยากมีใครบ้างเคียงใจมั่น
ร่วมสร้างฝันปันรักให้ใจสดชื่น
ไม่ทนเหงาทนหนาวใจทนกล้ำกลืน
ไม่ต้องฝืนมองเดือนเปื้อนน้ำตา
โอ้...จันทร์เอ๋ย จันทร์เอย จันทราจ้าว
ไม่ขอข้าวขอแกงแบ่งให้ข้า
ไม่ขอข้าวของอื่น...ให้เสียเวลา
หรือขอช้างขอม้าเหมือนใครใคร
จันทร์ก็รู้เจ้าเฝ้าดูข้าโดดเดี่ยว
ข้ามีคนเคียงอย่างเจ้าที่ไหน
หากเจ้าอยากช่วยเหลือข้าอย่างใด
ขอเพียงพรเจ้าได้ไหมหนึ่งประการ
ขอเพียงหนึ่งคนเคียงขอเพียงหนึ่ง
ให้ข้าซึ้งตรึงในรักอันสุดหวาน
แม้นจักขมระทมใจให้ร้าวราน
แต่...สร้างสีสันอันตระการบนลานใจ
1 ธันวาคม 2548 12:04 น.
กวีปกรณ์
คิมหันต์ผันวนจนพ้นผ่าน
ตามกฎแห่งฤดูกาลไม่แปรเปลี่ยน
สร้างความต่างกรายย่างเข้าเยี่ยมเยียน
ใจคิดย้ำวนเวียนคิดเยียนเรือน
อาจบางทีมีหมู่ชนคนหมื่นแสน
กลับแร้นแค้นนคนผูกมิตรคิดเป็นเพื่อน
ยังคงเหงาเปล่าว้างร้างแรมเดือน
อยากไปเยือนหย่อมเหย้า ,โปรดเข้าใจ ฯ
ข้าพากเพียรเขียนไถ่ถามความคิดถึง
ได้แค่เพียงบรรทัดหนึ่งหรือเพียงสอง
ยังสุขกายไม่คลายรักแม่เนื้อทอง
แล้วเรื่องน้องลองเล่าให้เหงาคลาย
ใจอยากส่งแต่คงไม่, เพราะใจรู้
ความมีอยู่ไม่ครบความตามมุ่งหมาย
ทุกคำข้าเปลี่ยวหนาวเศร้าเดียวดาย
แม่เนื้อทรายเจ้าสูงค่ากว่าถ้อยคำ
หลากยานยนต์ทะยานผ่านน่านฟ้า
สุริยาสาดแสงแรงร้อนร่ำ
แม้นชะตายังดีได้ไร้เคราะห์กรรม
ใจกลับย้ำยังขาดเคหาสน์หทัย
โปรดปลดปล่อยเปลื้องถวิลในจินต์ข้า
โบยบินกล้าสู่เสรีที่เคลื่อนไหว
วอนคำพรพระองค์เอื้อเกื้อทางไป
สู่สถานเรือนไกลใกล้กมล
คล้ายสักคนลิขิตชีวิตข้า
ยากยิ่งกว่าเก็บทั่งเอามาฝน
ได้ดั่งใจไยยากยิ่งนะชีพคน
กลั้นอดทนตามทางอย่างที่เป็น
ข้าเพิ่งรู้เหตุใดใยจึงจาก
เจ้าจึงพรากไม่ร่วมทางสร้างทุกข์เข็ญ
เพราะไม่ใช่ในฝันจึงต้องเว้น
แม่เนื้อเย็นเชื่อเสมอเธออาลัย
กลั้นใจจวบเหมันต์มาผันผ่าน
หนาวเนิ่นนานวานหยุดลงได้ไหม
เหน็บเยียบเย็นเจ็บทรวงห่วงฤทัย
มีไหมใครช่วยข้าล้าเหลือที
คนมากมายรายล้อมอยู่ทุกทิศ
แต่ไร้มิตรมิ่งขวัญหวั่นทุกที่
สักครั้งเถิดพรหมลิขิตผู้แสนดี
ขีดชีวาข้านี้ให้มีเธอ
ข้าจะปลดพันธนาการชีวิต
ปลดดวงจิตที่รักมั่นเสมอ
ยอดชีวันฉันจะรีบไปพบเจอ
ทุกย่างก้าวนี้เพื่อเธอแม่เรือนใจ
โปรดปลดปล่อยความถวิลในจินต์ข้า
แม้ถูกพร่าชีวิตปลิดตักษัย
ยามตะวันลาลับดับแสงไฟ
ข้ากำลังกลับไปสู่ใจเธอ