24 เมษายน 2555 10:10 น.
กวีปกรณ์
เรียบเรียงร้อยเรื่องราวรอยน้ำตา
เค้นความทุกข์ขึ้นมาขีดเขียน
คำให้การของแม่หม้ายใช่นั่งเทียน
ฟุ้งเฟื่องฝันมาเพียรเพียงจินตนา
ท่านทุกคนเข้าใจความเป็นแม่
ลูกย่ำแย่ยากเยียวย้ำรักษา
อยากยื้อยุดฉุดชีพลูกขึ้นมา
กลับได้เพียงกองน้ำตาว่า "น้ำพุ"
เพราะยังชีพอยู่ในวรรณอักษร
ภาพทรงจำยังจรเศร้าพังผุ
จะวัยเด็กวัยรุ่นเพียงอายุ
หากจิตใจยังครุด้วยบาดแผล
การบำบัดเพียงกายให้หายอยาก
ส่วนใจหากที่สำคัญไม่งั้นแย่
ปมปัญหาควรได้รับการดูแล
เพียงไถ่ถามลูกของแม่ "เป็นอย่างไร"
วัยรุ่นเรื่องมากมายหลากหลายปม
ร้อยแปดพันปัญหาถมโถมเข้าใส่
อยากเล่าเรื่องสารพันอันเป็นไร
เพียงเปิดรับและเข้าใจใช้บำบัด
เพราะ "น้ำพุ" ยังสวยได้ด้วยแต่ง
สวนทรงจำซ่อมแปลงเสริมไม้จัด
เอาดอกพันธุ์แสนงามเข้าถามทัด
บนใบหูลูกรัก ใช่ทำร้าย
เพราะ "น้ำพุ" ยังอยู่ในมุมมืด
กับหัวใจจืดชืดไร้จุดหมาย
รอเพียงวันมอดดับของร่างกาย
ตามหัวใจที่วายไปนานแล้ว
23 กันยายน 2554 22:59 น.
กวีปกรณ์
คงได้ยินเรื่องราวเธอที่รัก
ยังชื่นสุขทุกข์หนักรับรู้เสมอ
กับรักใหม่ไม่นานที่พบพบเจอ
เฝ้ายินดีกับเธอทุกคืนวัน
เมื่อได้พานได้พบคนที่ใช่
เขาที่มอบสิ่งใดได้ดั่งฝัน
ชายคนนี้มีเพียงรักให้กัน
เพราะรักนั้นใช่ทุกสิ่งฉันเข้าใจ
ที่รัก
อย่าคิดหนักเรื่องเราดีกว่าไหม
พบเจอกันทักทายบ้างเป็นไร
สองเรานั้นห่างไกลเพียงสัมพันธ์
ส่วนตัวฉันตอนนี้ดีเหมือนเดิม
อาจมีเพิ่มความเหงาเข้าข่มขวัญ
กว่าผ่านพ้นคืนว้างอย่างบางวัน
ดุจดังฉันดั่งดาวหนาวค่ำคืน
ขอยอมรับตามตรงว่าคิดถึง
ความคำนึงมีให้ไม่อาจฝืน
มอบยิ้มให้แต่ใจน้ำตารื้น
บ่อน้ำตาตันตื้นแต้มทรวงใน
เพราะเธอคือคนที่ใช่สำหรับฉัน
เพราะเธอคือคนปลอบขวัญวันอ่อนไหว
เพราะเธอคือความคิดถึงยามห่างไกล
เพราะเธอคือความห่วงใยในทุกยาม
แล้วคำเธอที่บอกล้วนเป็นจริง
รักไม่ใช่ทุกสิ่งที่ไถ่ถาม
ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน ทุกผู้นาม
รักไม่ใช่ทุกความนามารมณ์
รักของฉัน ของเธอ ไม่เหมือนกัน
เราต่างคนต่างปั้นตามใจสม
สร้างสรรค์รักสวยงามแล้วชื่นชม
แต่งเติมตามความนิยมในยามนั้น
จนถึงวันที่เธอจากฉันไป
น้ำตานองร้องไห้หัวใจสั่น
ด้วยยอมรับและเข้าใจไม่โกรธกัน
รักไม่ใช่ เธอ-ฉัน ไม่ยั่งยืน
ยังรับรู้เรื่องราวข่าวของเธอ
สุขและทุกข์ที่เจอปลุกเราตื่น
รักไม่ใช่ความฝันยามค่ำคืน
รักอาจเป็นเพียงฟืนช่วยเติมใจ
10 ตุลาคม 2553 20:12 น.
กวีปกรณ์
จากวันล่วงผ่านนานขวบเดือน
ความรู้สึกย้ำเตือนเหมือนเพียงผ่าน
พริบตาแรกพบกันในวันวาน
ราวรักนั้นเนิ่นนานกว่านานนัก
จับปากกาจดคำคล้องสัมผัส
เขียนทีละบรรทัดลงน้ำหนัก
เส้นอักษรร้อยสายลายยึกยัก
เรียบเรียงรักสื่อสารผ่านกวี
แต่ละบทบรรทัดไม่อาจซ่อน
คำว่ารักแทรกซ้อนเสียทุกที่
แต่ละบาทแต่ละบทปรากฏมี
ดุจดวงดาวค่ำนี้กี่หมื่นพัน
จันทร์คืนนี้คืนนั้นคือจันทร์เดิม
แสงเงินจันทร์ยังเติมแต่งฟากฝัน
ใจดวงนั้นดวงนี้ดวงเดียวกัน
รักเพียงเธอเท่านั้นที่เติมใจ
24 มิถุนายน 2553 02:27 น.
กวีปกรณ์
บางใครบอกเธอนั้นเข้าใจยาก
ฉันรู้จักเธอมากกว่าคนไหน
เขาบอกเธอตัวปัญหาอย่าสนใจ
ฉันว่าเธอสดใสในแบบเธอ
อย่ากังวลอะไรใจฉันรู้
สิ่งที่เธอทำอยู่อย่าพลาดเผลอ
ตั้งใจก้าวต่อไปให้พบเจอ
หลังฝนมีรุ้งเสมอบนฟ้าไกล
หัวใจเธอทนทานกว่าถ่านหิน
เพลิงคำเผาไหม้จินต์เป็นผลึกใส
ต้องแสงจ้าเจิดระยับเล่นกับไฟ
เกิดเป็นเพชรเม็ดใหม่ฝึกใจทน
ใครบางคนบอกเธอช่างเสแสร้ง
"ชีวิตคือการแสดง" อย่าสับสน
เขาต่างเล่น เราก็เล่น ชีวิตคน
อาจต่างเรื่องต่างตนบทแสดง
ถ้อยคำใดตำหนิอาจติเตือน
อย่าหยิบเอามาเฉือนตะพายแล่ง
เพลิงคำคอยแผดเราเผาเพิ่มแรง
ทานทนเถิดจักแกร่งกว่าแรงใด
แล้วสายรุ้งจะพาดผ่านฟากฟ้า
ฝันที่ไกลจะมาพร้อมฝันใหม่
ก้าวต่อเถิด ชีวิตก้าวต่อไป
หากทดท้อคราใด...ยังมีฉัน
15 พฤษภาคม 2553 04:10 น.
กวีปกรณ์
บรรลัยแล้วหรือไรน้ำใจคน
โลภโกรธหลงเสียจนทนไม่ไหว
ความแตกต่างมีมากโปรดเข้าใจ
จะสวมเสื้อสีไร...ยังไงก็คน
จะตัดพ้อต่อว่ากันทำไม
หยิบปืนมากราดใส่ไปทุกหน
เลือดก็มีสีเดียวทุกผู้พล
ถอยกันบ้างสักหนบ้างเป็นไร
โกรธกันอยู่ก็ไม่ต้องเจรจา
สงบโกรธปัญญามากว่าไหม
ที่ป่นปี้ไม่ใช่เพียงสังคมไทย
แต่คือร่างอันไร้ซึ่งวิญญา
หากพรุ่งนี้แดดส่องบนกองเลือด
จากดาลเดือดจะร่ำระไห้หา
ประเทศที่รักสงบตลอดมา
หยดน้ำตาล้างเลือดยังเหลือรอย
แต่ละคนล้วนแต่จะบอบช้ำ
วางปืนวางตนต่างคนถอย
ทางสันติด้วยปัญญามีกว่าร้อย
ถึงช้าหน่อยดีกว่าพาวอดวาย
ค่อยนับหนึ่งให้ถึงเพื่อนร่วมชาติ
เพื่อลบ "อยาก" ลงบ้างให้จางหาย
แล้วเติม "ให้" ทั่วบ้าง "ทุกร่างทุกกาย"
หลากเม็ดทรายจะผนึกแน่นเป็นแผ่นดิน