13 กรกฎาคม 2555 23:51 น.
กวีปกรณ์
สายฝนหยุดแล้วเหลือเพียงฟ้า
กับเมฆครึ้มบางตาในยามค่ำ
ความมืดนั้นเดินทางมาประจำ
อาจยังมีบางคนช้ำเป็นธรรมดา
บนทางเท้านีออนสว่างฉาย
หญ้าริมทางโยกย้ายซ้ายไปขวา
ป้ายรถเมล์ผู้โดยสารเหลือบางตา
ตู้จดหมายไร้ค่ากว่าวานวัน
คนช่างฝันอ่านนิยายริมชายคา
สองหนุ่มสาวสนทนาเพียงสั้นสั้น
รถประจำทางจอดเพราะออดลั่น
ถึงเวลาจากกันแล้วขวัญใจ
เสียงสัญญาณขานเรียกร้องเป็นเพลง
ความคิดถึงบรรเลงสัมผัสได้
หนึ่งบรรทัดข้อความที่ฝากไว้
ปลายทางตอบกลับไปในทันที
ความเงียบเข้าครอบงำประจำทาง
ใครบางคนอ้างว้างไร้แบตเตอรี่
บทเพลงเศร้าท่อนสุดท้ายจบพอดี
ปาดน้ำตาเร็วรี่แล้วลุกยืน
กระเป๋ารถจ่ายตั๋วเมื่อจ่ายตังค์
เบาะข้างข้างมานั่ง-เขาคนอื่น
ยิ้มทักทายทั้งรับและส่งคืน
รถเทียบป้ายน้ำตารื้นเป็นประจำ
เปิดห้องพักเอนกายหมายพักผ่อน
บนจานข้าวเคยร้อนเมื่อก่อนค่ำ
กลับเย็นชืดจืดรสคล้ายฝนพรำ
จึงสะสางความช้ำแล้วเข้านอน
พรุ่งนี้ฉันจะตื่นตามตะวัน
ทิ้งแสงจันทร์เงินงามไว้กับหมอน
ทิ้งความเงียบไว้ท่ามกลางจราจร
ทิ้งเพลงเศร้าบางท่อนในกลอนกานท์
13 กรกฎาคม 2555 03:58 น.
กวีปกรณ์
สายฝนฝากความเสียใจไว้กับฟ้า
เพียงสายลมพัดมา-น้ำตาไหล
พายุฝากความกล้ำกลืนสะอื้นใจ
เพียงแปร่บปราบคราใดดังครืนครืน
ฉันขับรถฝ่าสายฝนถนนหลวง
บังคับใจไม่เป็นห่วง-เขาคนอื่น
วิทยุฉันปรับฟังเพลงบางคลื่น
ถนนลื่นบางครั้งต้องตั้งใจ
จุดหมายคือห้องหับที่ดับมืด
อากาศหนาวเย็นชืด-ชอบร้องไห้
จุดเทียนหอมห้องกลับสว่างไฟ
ผ้าเช็ดตัวหยิบใช้เพียงเช็ดตัว
นั่งอยู่ริมหน้าต่างข้างเตาผิง
แผ่นหลังอิงอุ่นกายไปจนทั่ว
กลิ่นกาแฟหอมจางลอยจากครัว
อีกหนึ่งความหมองมัวระหว่างวัน
อ่านกวีนิพนธ์ของคนเศร้า
เปียกปอนความเหงา-คนช่างฝัน
สายฝนยังโปรยจางอยู่อย่างนั้น
โทรทัศน์ประกาศพลันฝนหยุดแล้ว!
11 กรกฎาคม 2555 12:37 น.
กวีปกรณ์
ท่วงทำนองความรักเรียบเรียงใหม่
ความเปลี่ยนแปลงแปรไปจนไหวหวาม
ยามยินแสนเศร้าใจในทุกยาม
ผลงานงามเธอสร้างสาแก่ใจ
ก่อนเคยร่วมร้อยเรียงแต่เพียงสุข
เป็นแรงปลุก/ปลอบขวัญคราร้องไห้
คำว่ารักแม้ไม่คัดเขียนลงไป
ก็ดังก้องทรวงในให้ได้ยิน
จนค่ำหนึ่งถึงเช้าครั้งเราห่าง
คำเธออ้าง-เหตุใด-เชื่อใจสิ้น
ในค่ำคืนหมื่นฝนโรยร่วงริน
ฉันบอกรักโบยบินจนสิ้นคืน
และภายในค่ำคืนที่ตื่นรอ
ฉันร้องไห้จนท้อ-จำทนฝืน
จิบกาแฟหอมกรุ่นอย่างกล้ำกลืน
บางครั้งยืนคอยรับเธอกลับมา
ภายในค่ำคืนเดียวกันนี้เอง
ฉันได้เขียนบทเพลงถวิลหา
ความคิดถึงถ่ายทอดด้วยอักษรา
ล้านหยดหมึกน้ำตาในคราเดียว
ทำนองเพลงฉันใช้ทำนองเดิม
แค่เขียนคำรักเพิ่มอย่างเปล่าเปลี่ยว
บันทึกภาพจันทร์ฉายคลับคล้ายเคียว
ทุกตึกร้าง/ทางเลี้ยวเที่ยวหาเธอ
10 กรกฎาคม 2555 09:12 น.
กวีปกรณ์
ฉันผู้มีความรักเต็มหัวใจ
จะเคียงข้าง/ห่างไกลใช่อุปสรรค
แม้นกี่หมื่นปีแสงไกลยังใกล้นัก
ฉันจึงปล่อยให้รักได้เดินทาง
เพราะความรักนั้นอยู่เต็มหัวใจ
คืนจะมืดเพียงไหนยังใสสว่าง
ดาวจะยังสวยงามท่ามฟ้ากว้าง
ถึงแม้ความอ้างว้างมาเยือนใจ
ดังนั้นฉันจึงได้เรียนรู้
ดาวสวยงามมีอยู่เกินนับได้
และความรักมากมีค่าเพียงใด
เมื่อความรักเดินทางไกลไปจากทรวง
ถึงเธอผู้จากไปอย่างไร้รัก
และถอดทิ้งแหวนสลักถ้อยบางท่วง-
คำสัญญาไร้ค่าเพียงคำลวง
สิ้นไร้ซึ่งความหวงห่วงอาทร
นิรันดร์กาลรานไปเพียงใจห่าง
ดุจสายลมโชยบางนั้นจางผ่อน
ความชิดใกล้เผาใจจนรุ่มร้อน
เธอจึงถอนคำมั่นในสัญญา
ดังนั้นเธอจึงจรจากไป
กลับแปรเป็นคนใหม่กลายแปลกหน้า
จะกี่คำฉุดยื้อซื้อเวลา
เพียงรอกาลเทียบท่าพาเธอไกล
8 กรกฎาคม 2555 05:19 น.
กวีปกรณ์
ใต้ต้นไม้ต้นนั้นในวันวาน
ดอกผลิแบ่งกลีบบานบนลานกว้าง
เขียวใบบังแดดโดนลมบาง
ก็เอนไหวไปบ้างในบางที
ดอกรักเคยชูช่อชื่นหอมกลิ่น
แม้โรยดอกร่วงดินทุกถิ่นที่
บางดอกร่วงหล่นไปในวารี
โชยลมหอมชีวีช่างหวานนัก
ใต้ต้นไม้ต้นนั้นในวันนี้
ต้องลมแต่ละทีก็รานหัก
ดอกเอยเคยชวนดอมดมดอกรัก
ก็ร่วงหนักราวฝนใต้ต้นเดิม
นกเขาคู่เคยคูขันขับขาน
กล่อมกลิ่นรักวันวานให้หวานเพิ่ม
ปีกปอนฝนเดียวดายกายสั่นเทิ้ม
หยาดน้ำตารินเติมต่างเพลงรัก