29 พฤศจิกายน 2548 10:27 น.
กวีปกรณ์
คำ...รัก...หลากหลายนิยาม
หากตีความตามหัวใจของฉัน
รักเป็นเพียงดอกไม้มอบให้กัน
เป็นของขวัญแทนรักสื่อความนัย
อาจมีใครมากมายเขาคิดต่าง
เพราะความคิดนั้นช่างกว้างอย่าสงสัย
เพียงเพราะเขาตีความตามหัวใจ
รักของใครก็ให้เขานิยาม
วันนั้นในมือมีดอกไม้
ส่งไปให้ซึ่งเธอเคยทวงถาม
สิ่งใดหนอที่ฉันนั้นสื่อความ
อยากให้เธอนิยามตามหัวใจ
และวันนี้ยังคงหอบดอกไม้มา
ใจหวังว่าเธอคงจักตีความได้
เก็บด้วยมือถือถนอมมาด้วยใจ
ขอเพียงเธอยิ้มรับไว้ดอกไม้งาม
หรือรักเธอนั้นคือรอยยิ้ม
เพราะเธอให้ใจฉันลิ้มยิ้มวาบหวาม
ยากเหลือเกินที่ฉันจะตีความ
เพราะนิยามของฉันบานเต็มหัวใจ
.รักฉันเป็นเพียงแค่ดอกไม้....
28 พฤศจิกายน 2548 06:47 น.
กวีปกรณ์
ความห่างไกลใจไม่เลยจะเคยห่าง
คอยคิดถึงในยามว่างแม้หลับฝัน
คอยเป็นห่วงในตอนตื่นทุกคืนวัน
ความผูกพันไม่เคยลดหดน้อยลง
ฤดูหนาวหนาวลมห่มผ้าหนา
ยังเฝ้าคอยเธอกลับมาสมประสงค์
จะรักษารักเราให้มั่นคง
ให้ยืนยงแน่วแน่แท้ดวงใจ
ในครานี้ที่รักทำอะไรบ้าง
ในยามว่างช่วยตอบกลับความสงสัย
ให้สองเราไม่รู้สึกถึงความห่างไกล
ให้รักเรานั้นไร้ระยะทาง
มีหรือเปล่าเคยเหงาเศร้าบ้างไหม
ทำอย่างไรหัวใจจึงคลายหมาง
ไม่เคยกลัวเลยว่ารักจักจืดจาง
แต่มีบ้างที่ครวญครางถึงคนไกล
สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี
แต่หัวใจนี่ซีเริ่มอ่อนไหว
เป็นหรือเปล่าเล่ากันบ้างเรื่องของใจ
อยากให้รู้ว่าห่วงใยไม่ต่างกัน
จำต้องสิ้นเนื้อความลงเพียงนี้
อย่าลืมนะคนดีอย่าลืมฉัน
แนบหัวใจครึ่งหนึ่งให้รักษามัน
ส่วนใจเธอนั้นอย่าปันไปให้ใคร
ปล. ได้ยินว่าอากาศที่นั่นหนาวมาก
รักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะ
คิดถึงทุกเวลา
...รัก...
27 พฤศจิกายน 2548 05:18 น.
กวีปกรณ์
กระดาษขาวว่างเปล่าจึงวาดเขียน
บรรจงเพียรลากเส้น...เข้ม..บาง..หนา
จึงเกิดภาพบนพื้นว่างจากจินตา
สร้างชีวิตมีชีวางดงามใจ
คนเพียงชมความหนักเบาแรงกดวาด
แต่กลับพลาดไม่ชมความโปร่งใส
ของที่ว่างไร้การคิดตีกรอบใจ
ซึ่งบังคับเราไว้เพียงภาพงาม
ปรัชญ์งานศิลป์คือการเล่นเว้นพื้นที่
จัดตรงนั้นวางตรงนี้มิผลีผลาม
เฉกเช่นคำล้ำค่า..บทกวีความ
ฤา..ในยามละเล่นเสียงเรียงดนตรี
เพียงรู้จักจัดวางที่ว่างเว้น
ด้วยคิดเป็นเล่นเหมาะสมบนพื้นที่
ความสงบควรกลบเสียงหรือไม่มี
เว้นจังหวะสรรค์กวีด้วยสรรคำ
เพียงค่อยคิดจิตสงบให้ใจว่าง
คือการสร้างงานศิลป์ซึ่งเลิศล้ำ
ความงามเกิดเกิดที่ใจในมโนกรรม
จักเข้าซึ้งถึงธรรมนำจิตงาม
24 พฤศจิกายน 2548 00:56 น.
กวีปกรณ์
คืนหล้าฟ้าล้อมดาว
คืนหนาวไร้แสงจันทร์
คืนนี้มีเพียงฉัน
คืนนั้นเรากอดเกี่ยว
คืนนั้นน้ำค้างพราวหญ้า
คืนนี้ธารน้ำตาเชี่ยว
คืนหนาวนอนคนเดียว
คืนแสนเปลี่ยวไร้แสงดาว
คืนสุขให้สักที
คืนนี้ไม่อาจทนหนาว
คืนใจให้อุ่นสักคราว
คืนเหงาไม่อาจทน
คืนค่ำมาฮัมเพลง
คืนเสียงบรรเลงแห่งรักสักหน
คืนใครให้สักคน
คืนหม่นจะฝ่าไป
คืนรักมาโอบอุ้ม
คืนชุ่มให้ชื่นใจ
คืนหนาวไม่เปล่าไร้
คืนไฟให้อุ่นทรวง
23 พฤศจิกายน 2548 19:42 น.
กวีปกรณ์
โลกหมุนรอบตัวเอง
สร้างบทเพลงผ่านสายลม
ตะวันสาดแสงน่าชม
ส่องโลกกลมเป็นสีทอง
คืนค่ำจันทราฉาย
ดารารายในคืนหมอง
กลิ่นป่าผกากรอง
กาสะลองล่องลอยลม
สายน้ำไหลทุกวาร
สายฝนธารหยาดลงพรม
สดชื่นรื่นอารมณ์
มัจฉาคงสมชมชื่นใจ
ดอกไม้เริ่มผลิบาน
แม่นงคราญยิ้มละไม
คอยเก็บร้อยมาลัย
ถวายในพุทธบูชา
เด็กน้อยไล่แมลง
หิ่งห้อยแข่งเปล่งแสงจ้า
คล้ายดาวคล้อยต่ำมา
ยามทิวาลาเมฆิน
เพียงโลกหมุนรอบตน
หลากเรื่องยลและให้ยิน
เพียงใจอย่าชาชิน
โลกไม่สิ้นกลิ่นเรื่องราว