16 มกราคม 2549 18:23 น.
กวีปกรณ์
๐ ชีวิตมีหนึ่งครั้ง..................เวียนวน
เฉกเช่นฤดูฝน....................หล่นฟ้า
คิดถึงหนึ่งบุคคล..................ไกลห่าง
ฝนอ่อยใจเหว่ว้า..................อ่อนล้าจิตใจ
๐ แม้นผ่านหยดสุดท้าย........สายฝน
ยังบ่ได้เชยคน.....................หนึ่งนั้น
เฝ้ารออยู่จวนจน.................ฝนหลั่ง อีกครา
คล้ายดั่งสายฝนกั้น..............ก่อนนั้นวนเวียน
๐ จนเพลาย่างเข้า................สายหมอก
แว่วแผ่วเสียงลมหยอก........ดอกไม้
จิตเศร้ากับคำหลอก.............เขาบอก ไว้เฮย
คำหนึ่งสัญญาไว้..................ก่อนนั้นจดจำ
๐ คะนิ้งเกาะใบอ่อนหญ้า......เหน็บหนาว
แพรวพร่างพรรลายพราว.....เพริศแพร้ว
มวลไอหมอกยามเช้า............หนาวจิต
เมื่อไหร่ใจจะแคล้ว..............ผ่านพ้นมันไป
๐ ซุกตัวในอ้อมกอด.............ตนเอง
กอดเข่าฟังบทเพลง..............บทช้ำ
คอยย้ำพร่ำตนเอง...............รอก่อน เถิดนา
คำบอกแสนหวานล้ำ............จักได้เป็นจริง
๐ จนลมพัดผ่านพ้น..............เหมันต์
อากาศอบอุ่นพลัน.................แดดจ้า
นกขันกู่คู่กัน........................ชวนชื่น
เหลือแต่ใจของข้า.................โศกเศร้าเพียงยิน
๐ สายฝนแดดหมอกเฝ้า.......หมุนวน
ข้ากลับไร้บางคน...................คู่สร้าง
เพียงฤดูหนึ่งคอยดล.............ใจชุ่ม ชลเฮย
ฤดูแห่งความเหงาร้าง............เปล่าว้างกลางใจ
12 มกราคม 2549 03:08 น.
กวีปกรณ์
สุริยันปันแสงแจ้งนภา
ส่องแผ่นหล้าผืนน้ำข้ามทิวเขา
กระทบเมฆเสกผิวเป็นริ้วเงา
ฉาบบางเบาเคล้าดินอีกสินธุ์ธาร
เกิดความต่างระหว่างเงากับแสง
ความขัดแย้งแจ้งเกิดกำเนิดสาร
ความมืดมิดจิตหม่น อนธการ
เมื่อแสงผ่านกระจ่างแจ้งแสดงชัด
ความเร่าร้อนผ่อนเบาเมื่อเงาเกิด
แสงสกาวพราวเพริศเจิดจรัส
สองสิ่งต่างสร้างสมดุลขึ้นทานทัด
คุณสมบัติขัดแย้งจัดแบ่งภาร
สว่างแจงแจ้งจริงยิ่งประจักษ์
มืดเก็บกักยักยอกหลอกทุกด้าน
เงากำบังพลังร้อนรอนแสงพาล
ทุกประการงานจำแนกแตกต่างกัน
28 ธันวาคม 2548 23:10 น.
กวีปกรณ์
ศพอักษรนอนเกลื่อนเฝื่อนอารมณ์
ถ้อยขยะสวะสังคมโสมมจริต
นิยมสร้างร่างคำมิยั้งคิด
คงเพราะจิตผิดแผกชอบแดกดัน
นำอักษรรอนค่าวาจาสัตย์
เรียงบรรทัดคัดสวยงาม...ช่างน่าขัน
คิดว่าเพราะเสนาะโสตหรือไรกัน
หยิบภาษามาบั่นให้บรรลัย
วรรณศิลป์วิ่นขาดเพราะสาดโคลน
คำหยาบโลนโถมทับจับวางใส่
เพื่อสนองรองอารมณ์ให้สมใจ
ด้วยหทัยไร้คิดจิตสำนึก
คำประพันธ์นั้นพล่อยและด้อยค่า
เพราะประดาวาจาห่วยช่วยตรองตรึก
เพียงหัวใจใฝ่ลำพองคะนองคึก
บทร้อยกรองหมองสึกระลึกด้วย
ศิลปะจะสร้างสรรค์งามบรรเจิด
เพราะกำเนิดเกิดจากใจใสสดสวย
บริสุทธิ์สุจริตจิตอำนวย
ไม่หวังร้ายหมายใครม้วยด้วยอักษรา
กรุณาอย่าใช้ไว้ป้ายสี
ให้ระยำย่ำยีกวีเลขา
ของมีครูอย่าเหยียบยั่วหัวครูบา
(เป็น) พฤติกรรมต่ำช้าน่าละอาย
28 ธันวาคม 2548 16:42 น.
กวีปกรณ์
สวัสดีปีใหม่
ขอบคุณคำอวยพรของเพื่อน ๆ บ้านกลอน
และขอมอบคืนให้สุขใจทุกคนคับ
**
ร่วมรับความสุขครับ
หวังคุณรับความสุขด้วย
น้ำใจใสและสวย
เป็นสิ่งช่วยรวยอารมณ์
มามอบความสุขให้
หวังรับไปใจสุขสม
ดั่งน้ำพร่างลงพรม
จิตรื่นรมย์ชมชื่นใจ
มาแบ่งปันกันยิ้ม
รอยใจพริ้มปริ่มหทัย
สุขสันต์วันทุกข์ไร้
เริ่มปีใหม่ให้ยินดี
ปล่อยวานวันผ่านไป
เริ่มต้นใหม่ให้สุขี
เริงรื่นชื่นชีวี
พบเรื่องดีกลีอย่ากราย
หวังไว้ให้เริ่มทำ
ไม่เพียงย้ำพร่ำจุดหมาย
สำเร็จเสร็จทุกราย
สิ่งหวังได้ง่ายดายจริง
เพื่อนทุกข์เจือสุขให้
เขาสุขใจเราสุขยิ่ง
เผื่อไปในบางสิ่ง
อย่าประวิงสิ่งควรทำ
ร่วมกันบันเทิงใจ
อย่าปล่อยให้ใครระกำ
ศัตรูมิกรายกล้ำ
ขอมอบคำล้ำอวยพร
25 ธันวาคม 2548 20:11 น.
กวีปกรณ์
แม้ชีวาข้านั้นดีหรือเลวร้าย
ยังยิ้มได้ไม่สิ้นกลิ่นความหวัง
เมื่อตาวันยังทอแสงแห่งกำลัง
ข้าจึงยังไม่ท้อย่นย่อใจ
เมื่อท้องฟ้ายังคงเป็นสีฟ้า
เมื่อธารายังยงคงหลั่งไหล
เมื่อหิ่งห้อยยังแข่งเบ่งแสงไฟ
สู้ดวงดาวอำไพในราตรี
ข้ายังใคร่ก้าวไปในแดนนั้น
สู่วันฝันอันใกล้ไม่ห่างหนี
ไปด้วยแรงแห่งความเชื่อที่ยังมี
ด้วยชีวีอันกล้าหาญฝ่าฟัน
แม้หลายถ้อยคำถ่อยให้ถอยล่า
บางเวลาน้ำตาเกินทนกลั้น
คอยเตือนใจเอาไว้ ไม่สนมัน
เจ้าของฝันคือเราใช่เขาเลย
รู้อย่างนั้นพลันก้าวสาวฝันต่อ
สู่ปลายทางซึ่งรอต่อการเผย
เอื้อมคว้าดาวดวงนั้นมาชมเชย
แด่ครั้งหนึ่งซึ่งเคยลงมือทำ
"there's no time to lose, I here her say
Catch your dream before they slip away.
---------------------------------------------------------------- DREAMER
รูปจาก http://www.rikkertkoppes.com/images/80_dreamer_800%20x%20470_Jan%202003.jpg