1 กุมภาพันธ์ 2549 00:06 น.
กวีปกรณ์
ตื่น...สักกี่หลับกลับไม่รู้
นี่หลับอยู่หรือตื่นในคืนฝัน
จะหลับใหลไปสักกี่ตื่นกัน
ยังงงงันไร้คำชอบมาตอบใจ
ยามนี้...หรือฉันนั้นยังตื่น
คือกลางวันหรือกลางคืน...ยากตอบได้
แสงแห่งฟ้าพร่าสลัวมัวมืดไป
คล้ายสิ้นกลการณ์ใดมาไขความ
ค่อยขยับเขยื้อนกายหมายจะเดิน
กลับบินเหินลอยลู่สู่เวหา
ปีกจากไหนสยายว่ายนภา
นี่หรือว่า...จินตาพาฝันไป
ตกลงแล้ว...เราคือนกที่หกเหิน
หรือเพียงแค่คนเดิน...ชักสงสัย
ไม่รู้เลยว่าลืมตาอีกคราใด
จะเป็นนกอีกไหมหรือเพียงคน
29 มกราคม 2549 16:31 น.
กวีปกรณ์
เรือนหทัย...เราสองเคยปองหมาย
กลับสลายพ่ายพรากจากจิตฝัน
เมื่อเจ้าจากร้างไกลไร้สัมพันธ์
ขาดดวงจิตคิดมั่น...ฝันจึงไกล
เจ้ากลับเดินเพลินบนหนทางอื่น
แสร้งแช่มชื่นเร้นขื่นขมระทมไห้
โอ้เจ้าเอ๋ย...ไฉนเลยปิดกั้นใจ
แล้วหลงใหลในทรัพย์สินดินมณี
คอยครวญหานภาลัยอันใสสด
กลับสลดหมดหนทางพรางริบหรี่
หมายหยุดพักรักษ์กายาพาเปรมปรีดิ์
หทัยนี้กลับหมองหม่นไม่สนใจ
บางครั้งคราวราวสมองตรองตริดี
แต่กลับมีความผิดพลาดให้หวาดได้
จะย้อนทวนหวนเวลาคืนกลับไป
เพื่อแก้ไข...กลับไกลเกินจักเดินทาง
ปรารถนาแห่งหทัยอยู่ไหนหรือ
สิ่งนั้นคือความรัก...ที่หวังสร้าง
ฉะนั้นจงคงไว้อย่าให้ลาง
ดูแลบ้างดวงมานอย่ารานรอน
อาจเส้นทางห่างไกลอย่าไหวหวั่น
สร้างสัมพันธ์พันจิตอย่าคิดถอน
เป็นเรือนใจให้กมลคอยหนุนนอน
เป็นเพลงกลอนผ่อนเศร้าดับเหงาคลาย
สร้างคุณค่าล้างมายาแห่งชีวิต
สร้างดวงจิตมิตรคู่รู้ความหมาย
แห่งความรักหักชีวันอันเดียวดาย
สร้างสุดท้ายปลายทางพร่างแสงดาว
28 มกราคม 2549 01:33 น.
กวีปกรณ์
แล้วก็เป็นเช่นคำเธอพร่ำกล่าว
ชีวิตฉันนั้นก้าวอย่างเรียบง่าย
ในหลายคราเปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย
เกิดขึ้นได้มากมายหลายเวลา
แล้วรักเราจึงเป็นได้แค่นั้น
เพียงเรื่องราวแสนสั้นอันไร้ค่า
ไร้ความรักไร้เกียรติไร้เวลา
ไร้ผู้กล้าบนขอบฝันอันห่างไกล
แล้วจึงเป็นเช่นนั้นอันควรเป็น
คำเธอกล่าวจึงเห็นปรากฏได้
เราลืมมันดังสายลมพรมพลิ้วไป
รักง่ายดายกลับไร้ค่าควรจำ
แล้วรักนั้นจึงเป็นได้เช่นนั้น
เพียงน้ำอันเย็นเยือกเราเกลือกกล้ำ
เสียงถอดถอนทอนใจไห้ระส่ำ
เมื่อทวนย้ำทานคิดไร้มิตรหทัย
แล้วฉันเคยเผยวาจาอย่างนั้นหรือ
ว่าเธอคือคนที่ฉันมิอยากใกล้
ฉันเคยเอ่ยเปรยคำย้ำหรือไร
ว่าจะจากร้างไปไม่หวนคืน
เพราะ...
ไม่อาจเสาะสายตาหาใครอื่น
ฉันไม่กล้ามองใครหากใจฝืน
ยังมีเธออยู่ทุกคืนแม้นฝันไป
ยังมีเธออยู่ในทุกขณะจิต
ชั่วชีวิตคิดเลือนลบยากจบได้
ฉันเพิ่งรู้ยามกายนี้นั้นมีใคร
ทั้งหัวใจดวงนี้มีเพียงเธอ
24 มกราคม 2549 00:32 น.
กวีปกรณ์
กาลเวลาค่อยผ่านไปในชีวิต
ความหวั่นกลัวถูกพิชิตจิตไสว
เรื่องที่ผ่านรานลิดปลิดจากใจ
ล้างหทัยไร้อดีตอันซีดจาง
ควานสัมผัสวิญญาณ์โหยหาเธอ
กลับพบเจอกำลังใจในความว่าง
ความโง่เขลาเหงาดวงแดแลเลือนลาง
จึงปล่อยวางพลางหยุดพักรักษ์หทัย
ความรักมักมาเยือนและเลือนร้าง
บนเส้นทางหว่างจิต...คิดหวั่นไหว
พลังรักเปลี่ยนชีวิตผิดแผกไป
เมื่อยอมรับและเข้าใจ....ไม่กลัว
คล้ายคล้ายฉันค้นพบหนทาง
ซึ่งเรียบง่าย...กลายสว่างทางสลัว
แม้คืนนี้มีเพียงฉันนั้นเคียงตัว
กลับสุขใจไม่กลัว...ฉันยังหายใจ
18 มกราคม 2549 17:48 น.
กวีปกรณ์
ใครเลยจะล่วงรู้...
ถนนสายนั้นจักทอดสู่แห่งไหน
วันคืนที่ล่วงผ่านสิ้นสุดกาลเมื่อไร
สิ่งเดียวตอบได้ ...เพียงเวลา
ใครเล่าจะเอ่ย...
หากต้นรักงอกเงยเผยต้นกล้า
จะเติบใหญ่ดั่งใจได้เลือกมา
เพียงเวลา...ผ่านเลยจึงเผยความ
ใครหนอจะตอบได้...
เมื่อความรักบินไปให้วาบหวาม
เหตุใดใจโหยไห้ใคร่ติดตาม
เพียงโมงยาม...หมุนวนจึงค้นเจอ
ใครหรือจะเผยวจี...
เมื่อถนนสายนี้มีรักมาเสนอ
แล้วรักนั้น...จะเป็นเช่นไรในใจเธอ
จะคงมั่นเสมอ...หรือไม่ในกมล
ใครเล่าจะล่วงรู้...
ยามใดสุริยาทอแสงอยู่จะหลับใหล
แล้วปล่อยรัตติกาลระรานหัวใจ
ทั่วทั้งหทัยอยู่ภายใต้เงาราตรีกาล
ใครเลยจะล่วงรู้...เพียงเวลา
ใครรู้...
...เพียงเวลา
สิ่งเดียวเท่านั้น...เพียงเวลา