20 กุมภาพันธ์ 2549 02:11 น.
กวีปกรณ์
สิ้นรักรส...มดนี้ยังหนีสิ้น
แม้นอ้อยตาลหวานลิ้นยังขื่นขม
เมื่อรักจากถากใจให้ตรอมตรม
พิษชำแรกแทรกอารมณ์ระทมนาน
น้ำต้มผักอันหวานเหมือนตาลอ้อย
รสอร่อยกร่อยจางห่างรสหวาน
จะทนฝืนกลืนกี่ครั้งชั่งทรมาน
ขมลิ้นปานบอระเพ็ดจำเข็ดไกล
ไม่นานนักรักกลับปลอมทำหอมหวาน
มายั่วยวนชวนสะท้านเกินต้านไหว
จากกำหลาบฝังจิตสนิทใจ
ก็ขวักไขว่ไล่คว้าหาลิ้มลอง
อีกครั้งแล้วแก้วกมลหลงกลรัก
โดนศรพิษฤทธิ์หนักปักเป็นหนอง
เจ็บไม่จำซ้ำรอยเดิมเริ่มพุพอง
น้ำตานองร้องไห้ใจระบม
ยามสมานจนคลายหายอักเสบ
กลับขอพรวอนเทพแสร้งเสพสม
เนรมิตลิขิตคู่ชู้อารมณ์
ลืมรอยร้าวคราวระทมอันตรมตรอม
สร้างบาดแผลแก่ใจไม่รู้จบ
เป็นรอยลึกมิอาจลบบำรุงซ่อม
เล่ห์รักร้ายอย่าเผลอตัวไปมัวมอม
จงอดออมถนอมใจให้เพียงรัก(แท้)
18 กุมภาพันธ์ 2549 13:53 น.
กวีปกรณ์
อดีตวันผันผ่านจนกาลนี้
ทุกราตรีมีเพียงเจ้าเฝ้าจิตฝัน
ยิ่งคืนงามอร่ามแจ้งแจ่มแสงจันทร์
กมลครั้นกระสันหาวัลย์ดารา
เพียงแลเหลียวดวงเนตรสังเกตพักตร์
พลันนึกรักภักติสิเน่หา
ทึกในจินต์นางคงหลงลงนภา
อัปสราแห่งสวรรค์จากชั้นใด
อยากสัมผัสปรางเจ้าเยาวมาลย์
แม่นงคราญมานพี่ยากจักทานไหว
แย้มสรวลนิดน้อยหน่อยเป็นไร
ช่วยหทัยพี่ชื่นรื่นฤดี
ส่งสวรรค์อันระส่ำดำฤษณา
จนอุษาพาสว่างบ่ห่างหนี
หมายอิงแอบแนบอุรายอดมาลี
มอบให้พี่นี้ได้รัก...จักเป็นบุญ
พี่จักคอยบอกคำดำรัสชอบ
และหมั่นมอบอ้อมอกกกกอดอุ่น
กระซิบรัก...ถักสายใยละไมละมุน
ยื่นลำแขนแทนนุ่นให้หนุนนอน
ร่วมเคียงมิตรชิดใกล้ไม่ไกลห่าง
จักพานางต่างสวรรค์บรรจถรณ์
ให้สมดั่งจากทิพคคนัมพร
สู่โลกหล้าเพียงบังอรนาครพิเชียร
15 กุมภาพันธ์ 2549 21:42 น.
กวีปกรณ์
วันหนึ่ง คืนหนึ่ง ชั่วขณะ
ความฝันกำลังจะมาสู่
หนึ่งก้าว หนึ่งพลั้ง ยังสู้
หมายมุ่งบูรพาหาประจิม
ข้ามผืนแผ่นดินสินธุ์ชล
พานพบบ่วงกลปนลิ่ม
ฝ่าฟันผันผ่านลานดิน
จารจินต์จดไว้ในกมล
ไร้วันคืนใจจะยอมแพ้
ทอนใจให้อ่อนแอแม้สักหน
ธงใดไหนเลยจะเผยพ้น
เหนือศีรษะตน...ไม่มี
วันหนึ่ง คืนหนึ่ง ชั่วขณะ
หนึ่งฝันไร้วันขยำขยี้
หนึ่งก้าว หนึ่งพลั้งที่มี
คือบทเรียนให้ใจนี้ก้าวไป
นี่คือทางแห่งชีวิต
รอยฝันลิขิตพิสมัย
ตามล่าคว้าร่างทางไกล
เพื่อใกล้เส้นชัยสักวัน
7 กุมภาพันธ์ 2549 06:12 น.
กวีปกรณ์
เพราะเหตุใดไยจินต์ถวิลหา
คอยไขว่คว้ารักไว้ในความฝัน
อยู่ร่วมเรียงเคียงใกล้ในวารวัน
แท้จริงนั้นจากกันไปไกลลิบตา
เพราะไม่อาจยอมรับกับความเศร้า
ความหงอยเหงาเปล่าไร้ใจเจียนบ้า
จึงเฝ้าเพ้อเผลอสร้างร่างมายา
คอยจินตาวาดฝันถึงวันวาน
ขอนิทราตราบฟ้าดินสลาย
ไม่เขยื้อนเคลื่อนกายหมายสถาน
ขอหลับอยู่เพียงฝันอนันต์กาล
นานเท่านานไม่ขอตื่นฟื้นความจริง
โอบกระชับกับหมอนที่นอนข้าง
กับหทัยดวงร้างช่างเปล่ายิ่ง
ขาดสักคนเคียงแนบคอยแอบอิง
จึงขอเพียงนอนนิ่งดิ่งนิทรา
1 กุมภาพันธ์ 2549 16:33 น.
กวีปกรณ์
เสี้ยวแห่งรสจุมพิตยังติดปาก
เสี้ยวแห่งรักเธอฝากยังถวิล
ยังคงมั่นเว้าวอนเกินถอนจินต์
อยากอยู่เคียงเพียงสิ้นดินมลาย
เสี้ยววิญญาณ์พาใจให้ไหวเคลิ้ม
อยากหมั่นเติมเพิ่มจุมรักไม่หักหาย
เพียงอิงแอบแนบชิดสนิทกาย
กมลคล้ายเคลิ้มฝันนิรันดร์กาล
โสตยังก้องถ้อยบรรเลงเพลงดนตรี
ถ้อยวจีวานแผ่วยังแว่วหวาน
เพียงเธอก้าวเข้าใกล้อีกไม่หลีกนาน
ให้ทุกวารปานโลกไร้โศกคลาย
ศิลา...อันแข็งแกร่งกว่าใจ
ยังลับไปเพียงดินสิ้นสลาย
รัก...หากมากเล่ห์เพทุบาย
ขอยอมตายหมายเพียงได้เคียงเธอ