31 กรกฎาคม 2549 20:53 น.
กวีปกรณ์
สายฝนหล่นล่วงเลยเหมือนเคยผ่าน
ตลอดวานม่านเมฆเสกฟ้าหม่น
จากชุ่มฉ่ำกลายชื้นแฉะและมืดมน
หนาวเกินทนสะท้านกายคล้ายแกล้งกัน
ตลอดคืนคร่ำครวญใจป่วนแปลก
เหงาซึมแทรกแหวกจิตคิดไหวหวั่น
ต้องทนเหน็บหนาวหนักสักกี่วัน
สายฝนครั้นค่อยซาเหว่ว้าคลาย
คลี่ผ้าหุ้มคลุมร่างพลางกอดหมอน
เพิ่งผ่านค่อนคืนช้ำย้ำใจหาย
ทุกนาทีที่พ้นทนวุ่นวาย
แต่สุดท้ายสายฝนยังหล่นริน
อุ่นเพียงกายหมายใจได้อุ่นด้วย
ใครจักช่วยคลี่คลายหายโศกสิ้น
หมุนเวลาพาผ่านพ้นฝนเมฆิน
คลายครึ้มจินต์ครึ้มใจไกลกังวล
ข่มตาหลับกลับยิ่งได้ยินเสียง
ครืนครืนเปรี้ยงกระหน่ำซ้ำแทรกฝน
กายก็สั่นจิตยิ่งหวั่นพรั่นในอนธ์
โปรดเถิดฟ้าพาพ้นคืนหม่นใจ
29 กรกฎาคม 2549 23:18 น.
กวีปกรณ์
สงบ พบว่าข้าสะอื้น สงบ ข้าจึงรู้ใจข้า
เงียบ ยามคืนค่ำข้าหวั่นไหว เงียบ แม้เหว่ว้าทนได้
มิรู้ว่า น้ำตาข้านั้นสะท้อนอะไร หลั่งน้ำตา หลั่งมาล้างใจ
ข้าจึงอ่อนไหว หรือเพราะข้าอ่อนแอ อย่าอ่อนไหว จนใครว่าอ่อนแอ
เงียบ เฉียบ คมดั่งมีด เงียบ เฉียบ คมความคิด
ทิ่ม แทง กรีดจนใจเกิดแผล คง มั่น จิตตั้งชีวิตแน่วแน่
เสียงเอยเสียง ได้โปรด กลับมาดูแล เสียงเอยเสียง อย่าเสี่ยง รังแก
ข้าคืนคน คนแพ้ ข้าคือคน คนไม่แพ้
ผู้พ่ายแพ้เสียงที่ไม่ได้ยิน ไม่แพ้เสียงที่ไม่ได้ยิน
18 กรกฎาคม 2549 03:00 น.
กวีปกรณ์
ความเปล่าว้างพรางใจให้ห่อเหี่ยว
เธอคนเดียวแบกโลกสุดโศกเศร้า
ขอเวลานิดหน่อยค่อยบรรเทา
เวลาจักแบ่งเบาความเหงาคลาย
กำแพงกว้างขวางกั้นตะวันส่อง
ความมืดครองดวงใจให้แพ้พ่าย
สักครั้งเถิดเปิดม่านหาญทำลาย
เพียงทลายหมอกหนาฝ่ากำแพง
มอบความรักร้อยหมื่นรื่นร้อยรัก
ยามทุกข์ใดแน่นหนักเหนื่อยหน่ายแหนง
รักคอยโอบอุ้มใจไม่อ่อนแรง
หยดน้ำตาจักแห้งเพียงรอยริน
จึงตะวันสาดแสงแฝงไออุ่น
หอมละมุนกรุ่นละไมไม่สูญสิ้น
ขับข่มเหงาทุกข์ใดจนไกลจินต์
ทั่วทุกถิ่นสดสวยก็ด้วยรัก
11 กรกฎาคม 2549 15:25 น.
กวีปกรณ์
ยามจับจ้องมองเจ้าที่เคล้าเคลีย
ถ้อยรักใดไม่อาจเจียจารจับจิต
เพื่อแทนใจส่วนลึกถึงมิ่งมิตร
แม้เพียงนิดนึงน้อยเกินถ้อยคำ
เมื่อคำนึงถึงรักมักคิดถึงเจ้า
ทุกเรื่องราวเรื่องเล่าครั้งเก่าคร่ำ
มีเพียงเจ้าในจินต์ที่จดจำ
ทั้งยามช้ำยามชื่นรื่นรวงใจ
เพราะเจ้าเติมเต็มจิตชีวิตนี้
ทั้งชีวีมิอาจจำขาดได้
จึงมีเจ้าเสมอชิดสนิทใจ
ถ้อยรักใดไม่พอเอ่ยเลย ที่รัก
11 กรกฎาคม 2549 02:17 น.
กวีปกรณ์
แต่งแต้มเติมต่อถักถอเส้นสาย
ขีดเขียนระบายปลายไม้ตวัด
หยดหนึ่งสีน้ำย้ำวาดเห็นชัด
ค่อยฝึกค่อยหัดพัฒนาการ
ปุยเมฆลอยล่องเที่ยวท่องน้ำฟ้า
ขาวข้องขุ่นตากลับมาประสาน
กลายกลืนกลมก้อนปลิวว่อนร่อนผ่าน
คล้ายสายลมพาลพัดพลิ้วผืนภาพ
มือน้อยลากเล่นกลายเส้นงานศิลป์
ชุ่มชื่นชีวินปันยิ้มซึ้งซาบ
เด็กน้อยพลอยยิ้มพิมพ์ใจดวงหยาบ
คล้ายแต้มดาวทาบแผ่นภาพมนมืด