20 เมษายน 2552 02:48 น.

ตัวตนที่หล่นหาย

กวีปกรณ์

ฉันทำตัวตนตกหล่นหาย
มีเพียงร่างกายคลับคล้ายหุ่น
จิตวิญญาณที่เหลือคือเงินทุน
จับจ่ายวัตถุตุนมาเติมใจ

หลากเสื้อผ้าแฟชั่นพันห่อหุ้ม
เครื่องประดับกลัดดุมตามยุคสมัย
เพื่อบ่งบอกจากที่เห็น "ฉันเป็นใคร"
เพื่อบดบังภายในช่างใสกลวง

ฉันงุนงงสับสนสายสัมพันธ์
หว่างสังคมกับฉันครั้งผ่านล่วง
สิ่งโยงใยกันไว้เพียงภาพลวง
ความจริงใจควานล้วงอาจได้เจอ

สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่คือแสดง
เพียงปรับแปลงตามแต่สังคมเสนอ
หรือจากสายตาผองเพื่อนเกลอ
ให้ฉันเผลอรับบทเล่นไม่เต็มใจ

วันนี้ฉันถามไถ่ในตัวฉัน
คือใครกันที่เป็นอยู่อย่างสงสัย
ยิ่งนับวันร่องรอยยิ่งจางไป
จนวันนี้ฉันคือใคร...ไม่อาจรู้				
18 มีนาคม 2552 02:16 น.

นักท่องสนธยา

กวีปกรณ์

บางคืนค่ำคล้ายดาวเจ้าร้างฟ้า
แสงนีออนหม่นพร่าคร่ำคร่าบ้าง
สำหรับเธอจงมุ่งมั่นสู่ปลายทาง
หวังถนนจักสว่างด้วยอาทิตย์

บางคืนค่ำคล้ายดาวตกจากฟ้า
แสงนีออนวิบวับตาบ้างมืดสนิท
อาจจักยากหาเหตุผลแห่งชีวิต
อาจรู้เห็นเพียงนิดจากแสงนั้น

เธอไขว่คว้าแสงนั้นแม้ลางสลัว
อาจลึกลับน่ากลัวจนหวาดหวั่น
นั่นเป็นเพียงปรากฏการณ์ก่อนสิ้นวัน
อาจคืนนี้ที่จันทร์เจ้าจะมา

เธอเหนื่อยล้าเรี่ยวแรงแทบแล้งสิ้น
พักกายบนผืนดินอันแข็งกล้า
หวังชีวิตจะมั่นคงได้สักครา
เหมือนพรุ่งนี้ที่ขอบฟ้าจ้าด้วยตะวัน				
9 มกราคม 2552 01:31 น.

ยามเยาว์

กวีปกรณ์

ตื่นแต่เช้าชมอาทิตย์พิชิตเช้า
เติมความหวังของเราจากเปล่าว่าง
อาบน้ำแต่งตัวเตรียมเดินทาง
คว้าขวดนมขนมอย่างสร้างกำลัง

กระเป๋าหนักเหนื่อยแบกแลกความรู้
สวัสดีคุณครู ผู้สอนสั่ง
ส่งการบ้านเรียบร้อยเฝ้าคอยฟัง
กระดิ่งดังระฆังร้องก้องโรงเรียน

"ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย"
รู้รักษ์ชาติเพียงใจใฝ่อ่านเขียน
รู้หน้าที่ของตนต้องพากเพียร
สามัคคีอาจเปลี่ยนชาติพัฒนา

แล้วสวดมนต์มอบใจไหว้คุณพระ
ทุกศาสน์สอนทางชนะแก่ผู้กล้า
หวังเด็กน้อยเติบใหญ่ไม่ชั่วช้า
สิ่งใดเท่าวิชชาหาไม่มี

ตื่นแต่เช้าชมอาทิตย์พิชิตเช้า
สาดแสงสางเขม่าเมฆหม่นสี
หวนรำลึกยามเยาว์อีกสักที
ร้อง  "เด็กเอ๋ยเด็กดี..." บ้างเป็นไร				
17 ตุลาคม 2551 04:14 น.

อีกกี่คืนนะ

กวีปกรณ์

รักแรกสิ้นลงแล้วเหลือเพียงโศก
น้ำตาโชกช้ำเศร้าบรรเทาบ้าง
ด้วยดวงจินต์เจ้ารั้นยังเดินทาง
กาลเวลาจึงล้างความหมางคลาย

ตื่นเช้าชมแสงทองของอาทิตย์
ปลุกเงาขึ้นเป็นมิตรไม่ห่างหาย
ขจัดเหงาลงบ้างเงาข้างกาย
หลอกตัวเองง่ายง่ายระหว่างวัน

ลบเรื่องรักครั้งแรกแทรกเรื่องเหงา
อยู่กับตัวของเราอีกเงาฉัน
คอยหัวเราะร้องไห้ไปด้วยกัน
สานสัมพันธ์ก่อนพรากหากจันทร์จาง

รอยรักเศร้าสิ้นลงแต่คงเหงา
เหลือเพียงเราเดียวดายไร้ใครข้าง
ไม่เหลือแม้แต่เงาเจ้าร่วมทาง
อีกกี่คืนจึงสว่างบ้างนะจันทร์				
30 กันยายน 2551 01:44 น.

โมงยาม

กวีปกรณ์

โมงยาม
ชีวิตฉันคล้อยตามเท่าไหร่แล้ว
ห้วงมหรรณพ์หาฝั่งยังไร้แวว
ลอยคว้างยากแคล้วทุกคน

กี่ย่างก้าวเท้าเจ็บจนยากฝืน
กี่วันคืนไม่เห็นเลยสักหน
ฤา โมงยามเย้าเล่นกับชีพชนม์
มรณานั้นคนยากนิยาม

เพราะไม่รู้วันใดจึงใกล้ฝั่ง
แม้บางครั้งเคลิ้มไปลืมไถ่ถาม
สลับแสงส่องสวรรค์สรรค์เสียงาม
พอค่ำลงครั่นคร้ามความอาลัย

โมงยาม
ชีวิตฉันยากสุดสิ้นสงสัย
ห้วงมหรรณพ์หาฝั่งยังอีกไกล
ฤๅ สิ้นลมหายใจใกล้เพียงนั้น				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์