22 พฤศจิกายน 2555 00:54 น.

สมรภูมิ

กวีปกรณ์

ท่ามกลางสมรภูมิเลือด
ศีลธรรมแทบเหือดแห้งหาย
ตึกรามอาคารร้างว้างวอดวาย
หมาแมวต่างหนีตายหมายรอดตัว

วัดวาวังเวงแม้เพลงสวด
สถานีไร้ตำรวจออกตรวจทั่ว
อาชญากรสงครามไม่คร้ามกลัว
ท่ามราตรีมืดมัวทั่วแสงเพลิง

ดอกไม้แห้งตายกลายเพียงซาก
สันติภาพแห้งผากยากเถลิง
เสียงจังหวะปืนก้องร้องระเริง
ขวัญเอยขวัญกระเจิงบันเทิงใจ

เหลียวหน้าแลหลังพรั่งศัตรู
บ้านเมืองถิ่นกูให้อยู่ไหน
อนาคตหมดสิ้นเสียเท่าไร
กอดคอกันร้องไห้แค่ไหนพอ

แบ่งชาติแบ่งเชื้อความเชื่อต่าง
เคยสังคมกลายสงครามน่าหัวร่อ
ประวัติศาสตร์เขียนไว้เป็นหลักตอ
แสร้งตัดพ้อเห็นค่ายังฆ่าฟัน

หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองหากกองรวม
เฉกธารใสไหลร่วมกลายเลือดพรั่น
สามัคคีเข่นคร่าบูชายัญ
ชาติอาสัญเสียหายกลายเพียงนาม
				
21 พฤศจิกายน 2555 19:48 น.

เรา

กวีปกรณ์

เรายังเป็นเช่นเราดังเก่าก่อน
เกิดเจ็บตายล้มนอนใต้ก้อนหิน
ความโศกศัลย์สำราญบนลานจินต์
หวังสักวันร้างสิ้นอจินไตย

เรายังเยาว์สุขเศร้าอย่างเขลาโง่
กว่าเติบโตอ่อนแอแลร้องไห้
ทุกเรื่องราวผ่านพ้นทุกข์ทนใด
จึงเรียนรู้ควรละไว้และเว้นวาง

เรายังเกิดเจ็บตายว่ายวังวน
ต่างสับสนทนทุกข์หวังสุขสร้าง
บ้างบ้าใบอับจนหมดหนทาง
ความเชื่อถูกล้มล้างจางจากจินต์

ยามทุกข์เศร้าเสียใจด้วยไหวหวั่น
หวังสักวันสุขศานต์รานทุกข์สิ้น
หลงในรักรสรูปยามสูบกิน
กว่ารู้ตื่นก็ดับดิ้นสิ้นสำราญ

เรายังเกิดคนเดียวตายคนเดียว
ยังชีพด้วยเก็บเกี่ยวการณ์ที่ผ่าน
สอนตนให้รู้ตื่นรู้เบิกบาน
รอดพ้นจากภัยพาลแม้กาลใด

เรายังเชื่อยังหวังยังศรัทธา
จนกว่าแสงแววตาจะหาไม่
เมื่อเธอทุกข์จงทุกข์อย่างสุขใจ
ครั้นเมื่อสุขคราใดด้วยปัญญา

เรายังเป็นเช่นเราดังเก่าก่อน
เรารุ่มร้อนด้วยไฟปรารถนา
เราคิดเห็นคิดต่างบ้างบางครา
เราพลาดพลั้งสักกี่คราอย่าปราชัย
				
18 พฤศจิกายน 2555 21:47 น.

ฉันจะรักเธอให้นานกว่ากาลเวลา

กวีปกรณ์

แม้มิอาจคาดเดาหรือเข้าใจ
ชีวิตเป็นเช่นไรในวันหน้า
ทุกสรรพสิ่งใต้กฎกาลเวลา
ด้วยความเขื่อศรัทธาจะฝ่าไป

ผืนแผ่นฟ้าเพชรพร่างพราวราตรี
กำมะหยี่ห่มนอนยามอ่อนไหว
ห้วงอารมณ์สมสุขหรือทุกข์ใจ
อาจเพียงฝันยามหลับใหลในนิทรา

เสียงหัวใจไหวเต้นจนเล้นลับ
ยามโลกปรับเปลี่ยนไปในแสงจ้า
โปรดปลุกฉันให้ตื่นคืนกลับมา
เมื่อสิ้นแสงทิวาท่ามราตรี

โปรดอย่าหยุดรักฉันแม้วันใด
ความทุกข์ท้นท่วมใจไม่อาจหนี
ฉันจะอยู่อย่างไรเล่าคนดี
หากหัวใจดวงนี้นั้นสิ้นไป

ฉันจะรักให้นานกว่ากาลเวลา
วันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะมาไหม
ฉันขอยืนยันด้วยลมหายใจ
แม้ต้องตายจากไกลจะกลับมา
				
17 พฤศจิกายน 2555 11:37 น.

สิ่งที่เป็นไปได้

กวีปกรณ์

อีกไม่นานเกินกว่าจะมาถึง
อาจเพียงนาทีหนึ่งจึงพบว่า
ความเชื่อและความหวังดังศรัทธา
กำลังเดินทางมาเวลาใด

สรรพสิ่งสุขสันต์ที่ฝันหา
ส่องสะท้อนแววตาต้องสุกใส
ความสัมพันธ์สวยงามท่ามกลางใจ
หรือสายแสงแห่งวันใหม่ในอรุณ

ความทนทุกข์หวั่นใดที่ใจกลัว
คือเมฆครึ้มหม่นหลัวชวนว้าวุ่น
จุดคบไฟฟืนฝันนั้นเป็นทุน
แสงสว่างช่างอบอุ่นละมุนมาน

จงชื่นชมสรรพสิ่งแสงส่องทบ
พินิจภาพที่พบใช่เพียงผ่าน
ดวงดอกไม้นั้นอาจกำลังบาน
สายสินธุ์ธารไหลชื่นช่างรื่นรมย์

เป็นไปได้สายฝนช่วยคนร้อน
ดุจอาภรณ์ป้องผิวปลิวหุ้มห่ม
จงยินดีแด่มิตรอย่าคิดตรม
หลังเมฆฝนอาจสมด้วยแสงทอง

เพียงแค่รับปรับคิดชีวิตสุข
ปลดความทุกข์ทิ้งไกลอย่าให้หมอง
ทุกความฝันความหวังอย่ารวมกอง
ใช่จับจองจนฝังตนทั้งตัว

อาจบางทีความหวังกำลังมา
พร้อมตะวันส่องสว่างร้างสลัว
เปิดม่านรับแสงนั้นอย่ากลัว
เป็นไปได้มองให้ทั่วรอบตัวเอง
				
15 พฤศจิกายน 2555 18:43 น.

ร่ำรมย์

กวีปกรณ์

หอมหอมรื่นรมย์ร่ำสุรา
ชื่นชื่นชีวาเพลาค่ำ
กลืนกลืนกระดกดื่มคำ
กล้ำกล้ำแกล้มรสเมรัย

ดวงดวงแดดร้อนผ่อนแล้ว
แววแววระยับย้อยไหว
วาววาวดาวเด่นดวงไฟ
ใสใสสว่างพร่างคืน

ร่ำร่ำร้อยรสบทกวี
ร้องร้องสุขีข่มขื่น
ท่วงท่วงท่าเต้นโยกยืน
ท่าท่าทนฝืนจึงนอน

หวานหวานรสชื่นรื่นจิต
พิษพิษท่วมใจไหวอ่อน
แสร้งแสร้งสุขสันต์บั่นทอน
เสพเสพทุกข์ร้อนย้อมใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์