30 มิถุนายน 2555 02:36 น.
กวีปกรณ์
พลิกนิยายเล่มโปรดมาเปิดอ่าน
เวลาผ่านค่อยค่อยทยอยเคลื่อน
น้ำตาไหลนองหน้ามาย้ำเตือน
นิยายเลื่อนลงปิดแล้วปลอบใจ
เปิดหน้าต่างให้กว้างกว่าที่เคย
สายลมพัดเอื้อนเอ่ยเผยหวั่นไหว
พาต้นโศกโบกพัดพลิกปลิดใบ
ท่วงทำนองเพลงไหนยากเทียมทัน
จัดข้าวของรกเก็บเป็นระเบียบ
พื้นที่ใจเหลือเพียบไว้เพาะฝัน
แต่ยามนี้อย่างไรไม่รู้กัน
รื้อแล้วจัดอยู่อย่างนั้นในลานจินต์
เพลงก็เปิดกล่อมใจไว้คลายเหงา
ดีเจเปิดเพลงเศร้าแทบดับดิ้น
เรื่องราวเก่ารื้ออ่านผ่านอนุทิน
เมื่อไหร่เศร้าจะสิ้นหรือชินชา
จุดเทียนหอมห้องหับกลับว้าเหว่
บนจานเปลมื้อเด็ดตอนทุ่มกว่า
พยายามเติมชีวิตด้วยชีวา
บ่อน้ำตาเติมหน้าเต็มหัวใจ
ชีวิตควรจะสุขกันเสียบ้าง
เพียงรักร้างกลับเศร้าเสียจับไข้
ธรรมดาชีวิตคิดมากทำไม
ทำเป็นลืมบ้างก็ได้สะใจดี
หยิบนิยายเล่มโปรดมาเปิดอ่าน
ตัวอักษรเพ่นพ่านตรงนั้นนี้
เรื่องน้ำเน่าเศร้ากว่าเรื่องที่มี
คั่นเอาไว้หน้าที่ทำเสียใจ
11 มิถุนายน 2555 20:01 น.
กวีปกรณ์
ต่างคนต่างใครต่างใจคิด
ต่างเหตุผลต่างผิดต่างถูกได้
ต่างแตกเพราะแตกต่างหรืออย่างไร
ต่างหวังว่าจะต่างไปจากวันนี้
ต่างฝ่ายต่างเจ็บจากเล่ห์กล
ต่างฝ่ายต่างผจญความป่นปี้
ต่างสาดคำสาดโคลนใครเหลือดี
ต่างสวมเสื้อคนละสีแยกดีชั่ว
ต่างหยิบยกประเด็นเด่นต่างต่าง
ต่างวิธีกล่าวอ้างต่างยกยั่ว
ต่างบิดพลิ้วต่างซ่อนเรื่องร้อนตัว
ต่างเมามัวโมหะปะทะประทุษ
ต่าง "ไทยล้วนหมายรักสามัคคี"
ต่างรู้ดีเดือดดับได้ใจหมายหยุด
ต่างรับชอบรับผิดปลิดอาวุธ
ต่างรุ่งริ่งเร่งรุดร้อยรอยร้าว
ต่างคนต่างใครต่างใจคิด
ต่างอ้างถูกอ้างผิดต่างคนกล่าว
ต่างตื้นเติมต่อประเด็นเล่นเสียยาว
ต่างปวดร้าวแล้วใครจะไชโย
10 มิถุนายน 2555 06:04 น.
กวีปกรณ์
กลับไปอ่านเรื่องสั้นครั้งเคยเขียน
พบคำคนแวะเวียนมาเขียนอ่าน
เรื่อง "ดอกไม้ของแม่" แต่งมานาน
กลับพบงาน "ภาพของแม่" มาแทรกซ้อน
อ่านแต่ต้นจนจบเรื่องเธอเล่า
เรื่องเก่าเก่ายังจำครั้งก่อนก่อน
เล่าเรียบง่ายแตกต่างจากกานท์กลอน
แทรกทรงจำคำสอนแม่สั่งเสีย
เธออ้างบ่นเบื่อบ้างอาหารถุง
ตามวิธีคนกรุง...เฮ่อ...ละเหี่ย!!
อยามชิมรสมือแม่แล่บลิ้นเลีย
น้ำลายสอมาเชีย...นี่คำชม
คืนนั้นนั่งใกล้แม่แค่เราสอง
อัลมิตราตรึกตรองตามเหมาะสม
แนบรูปเก่ากรอบเหลืองเนื่องนานนม
แต่อัดแน่นเน้นอารมณ์เตือนทรงจำ
แต่ละคำแม่บ่นพร้อมปรนเปรอ
แต่ละคำรักเธอนะงามขำ
แต่ละคำพร่ำสอนเตือนให้ทำ
แต่ละคนควรจำ "สามัคคี"
จะกี่คนจะกี่ใครคือลูกแม่
ช่วยดูแล แบ่งเบา บ้างน้องพี่
เกื้อกูลกันและกันนะคนดี
เฉกแม่นี้รักลูกแสนผูกพัน
แต่ละคำแม่บ่นพร้อมปรนเปรอ
รูปแม่หาไม่เจอเสียงอดกลั้น
สะอื้นซ่อนบางท่วงแทบไม่ทัน
ภาพเธอนั้นแนบกายกลับหายไป
ปลาสลิดแม่แกะเกือบติดคอ
ทำอ้อมแอ้มเออออ...เออยู่ไหน
เถิดแม่หนูช่วยหา ไม่เป็นไร
ตามโต๊ะตู้วางไว้เดี๋ยวคงเจอ
อ่านครั้งนั้นยังซึ้งถึงครั้งนี้
ผลงานเธออ่านซียามเสนอ
อัลมิตรา อีกครั้งค้นก็เจอ
มิตรภาพของเธอตราบสิ้นฟ้า
9 มิถุนายน 2555 00:56 น.
กวีปกรณ์
ตีปีกพรึบพรับจับรถเครื่อง
ไม่เปลืองน้ำมันบิดคันเร่ง
อาจเสียวบ้างบางโค้งนะตัวเอง
กอดเอวพี่ร้องเพลงคลายกังวล
ฝนตกต้องตามกาลก็หวานแหวว
กายเปียกปอนเป็นแมวแห่ขอฝน
แต่ลองเราได้เปียกกันสองคน
กอดกายกลับอุ่นจนลืมฝนริน
ถึงมอไซค์ไม่กันฝนแต่กันไกล
จับเอวพี่ชิดใกล้ปล่อยใจผิน
โผไปตามลมปะทะเข้ากับวิน
สักวันคงคุ้นชินชมลมเชย
ระยะทางบินนี้อีกหมื่นเลี้ยว
เกาะเอวพี่หากเสียวอย่านิ่งเฉย
รอจุดหมายได้ไหมไม่ไกลเลย
ไหนแหงนเงยจุดหมายปลายราดยาง
ผ่านลูกคลื่นล้อยกกระดกยก
สะเทือนท้านแทบตกหกลงล่าง
เถิด!! พี่วินอีกกี่ไกลเริ่มครวญคราง
ระยะทางบินนี้กี่หมื่นเลี้ยว?!!
8 มิถุนายน 2555 02:39 น.
กวีปกรณ์
แทนคุณแทยไท
ก็ "แล้วไง" ทำงงต่างรสศิลป์
ทำนองคุณหวานหูประตูดิน
หากใครยินย่อมหลงด้วยลมคำ
"แล้วทำไม"
ช่างตกใจบทบู๊ใช่ดูขำ
แทนที่ไทยจะตื่นจากโง่งำ
เชื่อเถอะ!! เป็นประจำเดี๋ยวก็ลืม
แทนคุณแทนไท
ขออ่านงานรสละไมได้ไหมหืมมม!?!
แหมบางบทบางคำทำเอาปลื้ม
มีหยิบยืมไปอ่านสานสัมพันธ์
ขออภัยคุณพี่ที่จาบจ้วง
ใช่ปีนเกลียวลาบล้วง แซวขำขำ
เพราะชื่นชมผลงานอ่านประจำ
อีกติดใจมุขหนำกุ้งหนามแดง
เตือน!! เพื่อนผองน้องพี่เหล่านักกลอน
หากกะวียังไม่นอนตอนใกล้แจ้ง
อาจปรากฏรายชื่อขึ้นแสดง
อีกผลงานนามแฝงแปลงเป็นกลอน