14 กุมภาพันธ์ 2551 07:06 น.
กวีปกรณ์
หลากความหมายล้นหลามนิยามรัก
ตามประจักษ์แจ้งจินต์ถวิลหา
จึงกลั่นถ้อยกรองคำพร่ำพรรณนา
หลายหลากคนค้นหามาเติมใจ
เกิดคำถามกลายปัญหาเกินกว่าตอบ
บ้างอาจชมบ้างอาจชอบบ้างอาจใช่
บางคำตอบเติมตามความเป็นไป
ที่หวั่นไหวเหว่ว้าตามอารมณ์
ยากจับต้องมองหาด้วยตาเห็น
เช้าจรดเย็นอุ่นใจคล้ายหุ้มห่ม
แม้คืนหนาวน้ำค้างคลายระทม
ได้ชื่นชมด้วยจินต์อีกวิญญาณ์
แม้ไม่รู้นิยามรักอย่างเที่ยงแท้
กลับงดงามแก่ใจใคร่เสน่หา
หนึ่งชีวิตหากได้รักเพียงสักครา
ช่างมากค่าควรร้อยสร้อยสัมพันธ์
ในนามแห่งความรักหากเรียนรู้
ความรักรายรอบอยู่อย่าปิดกั้น
รักใช่ยากเรียนเล่าให้เท่าทัน
รักใช่เคยหลอกกันอย่าพรั่นกลัว
หากนิยามความรัก-รักคือรัก
จึงประจักษ์แจ้งจินต์สิ้นสลัว
รักนั้นไร้รูปร่างร้างหมองมัว
เฉกคนรักมองตัว? ใช่มองใจ
หากเกิดดับนั้นถือคือชีวิต
จงพินิจความรักยากวรรคได้
ชีพแห่งรักใช่เส้นทางที่ห่างไกล
คือความห่างแห่งใครในสัมพันธ์
หลากความหมายล้นหลามนิยามรัก
เกิดประจักษ์แจ้งจินต์จึงสร้างสรรค์
จึงสร้างสร้อยอักษรศิลป์สุวรรณ
จักเลิศรสหรือไม่นั้นเชิญพิจารณ์
8 กุมภาพันธ์ 2551 21:00 น.
กวีปกรณ์
ประมวลถ้อยร้อยพจน์รจนา
เทอดคุณครูบา
เฉกฉบังฉบับประดับมาลย์
ศิรวาทศิรคณาจารย์
คณาคุณูปการ
เสมอเสมือนบุพการี
ศิษย์น้อมรำลึกคุณความดี
กรุณาปรานี
สั่งสอนสั่งสมบ่มปัญญา
ฝึกฝนทักษะหลักภาษา
สุนทรวาจา
วิจักษ์ห์วิจารณ์วรรณกรรม
ร้อยกรองร้อยแก้วร้อยคำ
ร้อยความงามงำ
ฉันทรสฉันทลักษณ์ประจักษ์จินต์
สรรพสารสรรพศาสตร์สรรพศิลป์
มากมายไม่สิ้น
ส่งเสริมสืบหาคว้าเติม
จารีตจริยาแทรกเพิ่ม
ศีลธรรมนำเจิม
ขัดเกลาดวงจินต์และวิญญาณ์
กาลนี้ศิษย์กรานกราบลา
ผิดพลั้งขอขมา
ขอพรพร้อมนำกระทำตาม
แสงประทีปท่านให้ช่างงดงาม
รองเรืองอร่าม
ประยุกต์หยิบใช้ในชีวี
ขอเดชกตัญญูกตเวที
ให้ศิษย์สวัสดี
สำเร็จเป็นบัณฑิตเทอญ