29 สิงหาคม 2550 13:18 น.
กวีปกรณ์
จินตนาการกล่อมโลกร้างโศกเศร้า
อุดมการณ์แผดเผาเสียจนสิ้น
อย่าเอียงซ้ายเอียงขวาให้ข้ายิน
ปลดปล่อยใจโบยบินอย่างเป็นไป
นั่นนางฟ้าฟ้อนร่ายอยู่ปลายฝัน
จากสวรรค์แวมวาวหมื่นดาวใส
ฤๅ หลุดลี้หนีงานนิทานใคร
ถึงเที่ยวท่องทั่วใจในนิทรา
ก้องกระหึ่มโหดร้ายปลายกระบอก
นกกระจอกจิบสั่นขวัญผวา
ตระหนกตื่นขมขื่นขึ้นลืมตา
เสียงสงครามเข่นคร่าอุราราน
เจ้านางไม้พรายน้ำหลบหนีหาย
สรรพสัตว์ซ่อนกายย้ายถิ่นฐาน
สิ้นสำเนียงทักทายคล้ายวันวาน
กลายกระซิบส่งสารผ่านสายลม
มวลหมู่เมฆฟูฟ่องล่องลอยฟ้า
กลายเป็นม้าเหินบินจินต์สุขสม
กลับวันนี้เพียงหมอกม่านทุกข์ตรม
ควันสงครามท่ามสังคมความรุนแรง
จนบัดนี้นางฟ้าข้าอยู่ไหน
ณ นิทานเรื่องใดได้โปรดแจ้ง
มากล่อมโลกหลับฝัน มาแสดง
ก่อนดวงใจจักแล้งจินตนาการ
22 สิงหาคม 2550 17:15 น.
กวีปกรณ์
ช่างเจ็บปวดรวดร้าวเหลือชีวิต
การกำเนิดนั้นวิจิตรกระนั้นหรือ
สิ่งใดเล่าเลือกคว้ามาเต็มมือ
ใช่ 'ว่างเปล่า' นั่นคือพันธนาการ
สุ้มสำเนียงนิยมแรกมองโลก
ท่วงทำนองแสนโศกสุดสงสาร
น้ำตาแรกล้างสิ้นดวงวิญญาณ
นิรันดรดั่งนิทานท่านหลอกลวง
กว่าก้าวแรกเริ่มได้ด้วยล้มลุก
ช่วงชีวิตช่างสนุกในทุกท่วง
เบิกบาน แย้มยิ้ม อิ่มเอมทรวง
ลืมโศกสิ้นทั้งปวงในช่วงนั้น
เพราะเผลอไผลพลาดพลั้งไม่ยั้งคิด
ลืมสนิทนึกสนุกเสพสุขสันต์
ไร้เดียงสากว่าเรียนรู้โลกเท่าทัน
ใช้ชีวิตนิจนิรันดร์ดังฝันไป
โรคร้ายวัยชราเร่งรานรุก
ท่วงทำนองท้นทุกข์โถมทับใส่
เคยคาดคิดชีวิตนี้อีกยาวไกล
ทั้งที่ใกล้เพียงก้าวใช่ยาวนาน
จากชื่นชมชีวิตกลับคิดต่าง
มากกับดักพันธะวางอย่างอ่อนหวาน
กว่ารับรู้ก็สายจนเกินกาล
ว่ายวังวนวัฎสงสาร... ยากผ่านพ้น