26 ธันวาคม 2550 08:52 น.
กวีปกรณ์
ดวงจินต์เจ้าสิ้นไร้ในความหวัง
ดอกโศกบานสะพรั่งยากยั้งไหว
หากรื้อถอนถากถางจนร้างไป
เกรงดอกรักบานใหม่ใจจะชา
เพลิงดอกไม้สว่างหว่างสวรรค์
เพียงราตรีเท่านั้นตามสรรหา
พออาทิตย์ทักทายปลายนภา
ก็โรยราเลือนแสงแข่งสุรีย์
ดวงจินต์เจ้าหวามไหวไปเท่านั้น
ทุกข์เท่าใดทนกลั้นอย่าหวั่นหนี
หลับลงพักผ่อนบ้างหว่างราตรี
อาจพรุ่งนี้สุขสันต์อย่าหวั่นไป
เพลิงดอกไม้สว่างหว่างสวรรค์
เพื่อฉลองเหมันต์อีกวันใหม่
ดอกโศกบานสะพรั่งบนฝั่งใจ
เพื่อต้อนรับสุขใดได้ผลิบาน
ดวงจินต์เจ้าสิ้นไร้ในความหวัง
จงตรองฟังเสียงใจที่ไหวหวาน
ไม่มีหรอกรัตใดอนันตกาล
ไม่มีดอกโศกบานได้นานวัน
22 ธันวาคม 2550 17:28 น.
กวีปกรณ์
เงาจันทร์เจ้าจางหายจากสายน้ำ
แต่คืนค่ำฝั่งคลองคะนองอยู่
ลิเกรำร่ำร้องเหลียวรอดู
จอมโจรโฉดชายชู้เชือดพระจันทฯ (โครพ)
ศาลาไม้ริมฝั่งฝืนพังผุ
เรือหางยาวเสียงดุกระหึ่มลั่น
สร้างคลื่นคลั่งถั่งโถมกระแทกทั้น
เจ้ายังหยัดยืนยันทั้งสั่นคลอน
จันทร์เคยสวยด้วยแต้มตัวกระต่าย
บทเห่กล่อมกลืนหายไปหลายท่อน
"จันทร์เอ๋ยจันทร์จ้าว" กล่อมเจ้านอน
ลืมหมดแล้วบทตอนกลอนนิทาน
ยายหยิบพายแจวหาจันทราหวน
เสียงเครื่องเรือร้องกวนแม้พ้นผ่าน
เงียบสงบจำทิ้งไว้ในวันวาน
คลื่นคลั่งคลานคว่ำเรือลับลงวารี
เสียงละครหลังข่าวยังฉาวฉาย
ลูกหลานยายยังเยาะยิ้มหัวทิ่มเก้าอี้
บทเห่กล่อม "จันทร์เอ๋ย..." ครั้งเคยมี
สิ้นชีวีคนร้องกล่อมท้องน้ำ
ลานลิเกกว้างขวางกลับว่างเปล่า
ดูเงียบเหงากว่าก่อนแม้ตอนค่ำ
ยังมีหลายยายตามาประจำ
ยิ่งนับวันยิ่งช้ำไร้คนชม
ลูกหลานยายยังนิ่งไม่ติงไหว
ด้วยจอแก้วตรึงใจให้สุขสม
ทิ้งนิทานลานลิเกครั้งนิยม
หลงรื่นรมย์ของใหม่ไฮสมาร์ท
ประกาศคั่น ข่าวเด่นประเด็นด่วน
อาร์มสตรองออกป่วนอวกาศ
อพอลโลร่อนรี่เวรี่ฟาสต์
ช่างรุ่งโรจน์เรืองอำนาจมะริกัน
จันทร์จ้าวเอ๋ยเคยแต้มตัวกระต่าย
จนบัดนี้หนีหายจากปลายฝัน
กระต่ายเต้นตื่นตูมตรอมชีวัน
ตามชีวิตวานวันริมฝั่งคลอง