7 กุมภาพันธ์ 2549 06:12 น.
กวีปกรณ์
เพราะเหตุใดไยจินต์ถวิลหา
คอยไขว่คว้ารักไว้ในความฝัน
อยู่ร่วมเรียงเคียงใกล้ในวารวัน
แท้จริงนั้นจากกันไปไกลลิบตา
เพราะไม่อาจยอมรับกับความเศร้า
ความหงอยเหงาเปล่าไร้ใจเจียนบ้า
จึงเฝ้าเพ้อเผลอสร้างร่างมายา
คอยจินตาวาดฝันถึงวันวาน
ขอนิทราตราบฟ้าดินสลาย
ไม่เขยื้อนเคลื่อนกายหมายสถาน
ขอหลับอยู่เพียงฝันอนันต์กาล
นานเท่านานไม่ขอตื่นฟื้นความจริง
โอบกระชับกับหมอนที่นอนข้าง
กับหทัยดวงร้างช่างเปล่ายิ่ง
ขาดสักคนเคียงแนบคอยแอบอิง
จึงขอเพียงนอนนิ่งดิ่งนิทรา
1 กุมภาพันธ์ 2549 16:33 น.
กวีปกรณ์
เสี้ยวแห่งรสจุมพิตยังติดปาก
เสี้ยวแห่งรักเธอฝากยังถวิล
ยังคงมั่นเว้าวอนเกินถอนจินต์
อยากอยู่เคียงเพียงสิ้นดินมลาย
เสี้ยววิญญาณ์พาใจให้ไหวเคลิ้ม
อยากหมั่นเติมเพิ่มจุมรักไม่หักหาย
เพียงอิงแอบแนบชิดสนิทกาย
กมลคล้ายเคลิ้มฝันนิรันดร์กาล
โสตยังก้องถ้อยบรรเลงเพลงดนตรี
ถ้อยวจีวานแผ่วยังแว่วหวาน
เพียงเธอก้าวเข้าใกล้อีกไม่หลีกนาน
ให้ทุกวารปานโลกไร้โศกคลาย
ศิลา...อันแข็งแกร่งกว่าใจ
ยังลับไปเพียงดินสิ้นสลาย
รัก...หากมากเล่ห์เพทุบาย
ขอยอมตายหมายเพียงได้เคียงเธอ
1 กุมภาพันธ์ 2549 00:06 น.
กวีปกรณ์
ตื่น...สักกี่หลับกลับไม่รู้
นี่หลับอยู่หรือตื่นในคืนฝัน
จะหลับใหลไปสักกี่ตื่นกัน
ยังงงงันไร้คำชอบมาตอบใจ
ยามนี้...หรือฉันนั้นยังตื่น
คือกลางวันหรือกลางคืน...ยากตอบได้
แสงแห่งฟ้าพร่าสลัวมัวมืดไป
คล้ายสิ้นกลการณ์ใดมาไขความ
ค่อยขยับเขยื้อนกายหมายจะเดิน
กลับบินเหินลอยลู่สู่เวหา
ปีกจากไหนสยายว่ายนภา
นี่หรือว่า...จินตาพาฝันไป
ตกลงแล้ว...เราคือนกที่หกเหิน
หรือเพียงแค่คนเดิน...ชักสงสัย
ไม่รู้เลยว่าลืมตาอีกคราใด
จะเป็นนกอีกไหมหรือเพียงคน