23 ธันวาคม 2548 05:10 น.
กวีปกรณ์
เมื่อเราชาตก็มาดรอดให้ปลอดภัย
หวังเพียงกายหายใจไม่ดับดิ้น
ร้องเมื่อกริ้วหิวกระยาต้องหากิน
เพื่อชีวินไม่สิ้นลับวิญญาณ
เพียงกำเนิดความตายก็หมายคร่า
ทุกเวลาตามใกล้แม้ไม่ขาน
คอยอยู่ติดชิดใกล้ในทุกกาล
ทุกสถานปานเงาตามเราไป
อันความตายคล้ายประตูอยู่รายรอบ
อาจรอดั่งถามตอบชอบบานไหน
หวังเพียงเราเลือกทางพลางก้าวไป
ชอบประตูบานใดใคร่เลือกเอา
อาจโทษโกรธว่าชะตาโชค
หรือโรค ความประมาทอันขลาดเขลา
มิย้อนคิดพิศดูที่ตัวเรา
มัวแต่เอาสนุกสุขสบาย
ติดอบายขายตัวเมามั่วร่าน
ไม่เกรงปราณวายลับดับสลาย
จนโรคเร้าเศร้าทุกข์สุขมลาย
แล้วฟูมฟายใคร่ครวญหวนเวลา
ดำเนินชีพประมาทขาดระวัง
น้ำตาหลั่งเมื่อสายคล้ายเป็นบ้า
ด้วยผลกรรมนำเราใช่ชะตา
จงรู้ว่าความตายไม่ไกลเกิน
21 ธันวาคม 2548 23:33 น.
กวีปกรณ์
เส้นทางรักหักร้างเราต่างจิต
จากเคยคิดผิดหวังไม่ดังหมาย
จักร่วมล่าคว้าฝันพลันมลาย
สิ้นสลายจุดหมายต่างต้องห่างกัน
เธอหนึ่งฝันฉันหนึ่งซึ่งคิดต่าง
คงต้องเดินคนละทางเพื่อสร้างฝัน
คำสัญญาว่าไว้ใช่สำคัญ
จะรักและผูกพันมั่นมิคลาย
คงต้องทิ้งเรื่องเราเอาไว้ก่อน
เรื่องรักร้อนผ่อนไว้คงไม่สาย
แม้ปมรักจักต้องคลี่เงื่อนคลาย
เพียงเพื่อนซี้มีจุดหมายปลายเดียวกัน
เมื่อเธอก้าวฉันก้าวทุกก้าวย่าง
เพียงเพื่อสร้างฝันของเธอและฉัน
ประสบการณ์วารพ้นเราค้นมัน
แล้วสานต่อสู่ฝันวันของเรา
ยังขอบใจในมิตรผู้ชิดใกล้
กำลังใจแบ่งไปไม่ให้เหงา
ความสัมพันธ์โยงใยใจบางเบา
ในวันเก่ายังไม่ห่างจางลืมเลือน
หากพรุ่งนี้คนดียังจะรัก
สานเรื่องพักลาร้างสร้างจากเพื่อน
ด้วยความหลังสัมพันธ์อันย้ำเตือน
และรอยเปื้อนน้ำตาครั้งอาลัย
เมื่อสองเราได้ย่างอย่างที่คิด
คืนวันอันมืดมิดกลับสดใส
ฉันยินดีหมุนวันคืนกลับไป
ยังไม่สายใช่ไหม...ที่จะรักกัน
20 ธันวาคม 2548 10:15 น.
กวีปกรณ์
สายลมพลิ้วลิ่วล้อยอดอกหญ้า
จากปลายฟ้ามาพรมชมความสวย
แล้วโอบอุ้มกรุ้มกริ่มกลิ่นละลวย
หอมระทวยรวยรักถักสัมพันธ์
ลมโชยซ้ายดอกหญ้าย้ายทางขวา
โบกโบยมาบรรเลงบทเพลงฝัน
ยามแสงร้อนช้อนพาเมฆมากัน
หวังหญ้าชันชูช่อไม่ฝ่อโรย
ฤดูแล้งแจ้งฟ้ามาหยาดฝน
ดับกระหายคลายปรนร่นความโหย
หวังดอกยุ้ยฉุยกลิ่นรินรักโปรย
สายลมโพยโดยห้อมล้อมดวงใจ
เพียงพ้นวานดอกสิ้นกลิ่นระรื่น
ลมเป็นอื่นให้ฉงนปนสงสัย
ทิ้งดอกหญ้าโรยร่วงไม่ห่วงใย
ปล่อยน้ำตาหญ้าไหลไม่ไยดี
เพลานี้ลมโบยโปรยความหนาว
สั่นทุกคราวเมื่อรักหักขยี้
หญ้าขอลับดับชะตาลาชีวี
เกล็ดน้ำตาดอกหญ้านี้พลีเพื่อลม
19 ธันวาคม 2548 06:01 น.
กวีปกรณ์
หอมละมุนกรุ่นกลิ่นปาริชาติ
สวยสะอาดงามระหงลงสวรรค์
มาลอยล่องโปรยผกามาลีวัลย์
ให้อารมณ์ข้ากระสันครั้นกายา
มาโรยรักอักษรกลอนกวี
ให้ข้านี้ชมชื่นรื่นหรรษา
เป่าคำเพราะเสนาะลอยลมมา
สร้างลีลารสคำล้ำทำนอง
ยื่นไมตรีด้วยรักภักดีจิต
ทั่วทุกทิศชิดใกล้ใจเพื่อนผอง
เป็นดอกเด่นเร้นไว้ในพวงทอง
คือ...ดอกพุด...ชวนมองอันครองใจ
19 ธันวาคม 2548 03:40 น.
กวีปกรณ์
(๑)...
จักไม่เหลือเผื่อใจไว้ให้เจ็บ
หากต้องเก็บซ่อนกมลฝืนทนเหงา
ไม่อาจว้างข้างเคียงแค่เพียงเงา
อยากมีเขาคอยอยู่คู่สรรพางค์
วันคืนผ่านนานเข้าใจเศร้าโศก
ลมหนาวโบกดั่งมีดมากรีดร่าง
เสียงระงมพ่นพล่ามไปตามทาง
ร้องไห้พลางเหลียวลอบคนปลอบทรวง
คงต้องยอมเจ็บบ้างในบางครั้ง
อย่ามัวยั้งรั้งจิตตะขิดตะขวง
ยอมพลาดบ้างมอบใจให้ใครลวง
รักษาดวงแดอุ่นละมุนละไม ฯ
(๒)...
ห่มผ้าอุ่นกลับอุ่นไม่ถึงจิต
คนสนิทเชยชิดจักมีไหม
มาอุ่นทรวงให้ดวงรักพักหทัย
มาจุดไฟคลายหนาวคราวระทม
สักครั้งเถิดเปิดใจให้รักสู่
เฝ้าเรียนรู้ร้อนทุกข์ก่อนสุขสม
ดีกว่าลมหนาวพัดซัดอารมณ์
จนจิตแยกแตกจมตมน้ำตา ฯ