6 พฤศจิกายน 2555 02:58 น.

สิ่งกระทบใจ

กวีปกรณ์

สรรพสิ่งสวยงามตามที่เห็น
เช้าจรดเย็นกลับต่างอย่างสงสัย
แต่ละช่วงอารมณ์หุ้มห่มใจ
โลกยังหมุนต่อไปอย่างนั้น

แสงแดดอบอุ่นกรุ่นอากาศ
เบญจมาศตื่นรับจากหลับฝัน
หยดน้ำค้างระเหยหายจางพลัน
นกกาก็พากันออกหากิน

สายลมรื่นชื่นโชยยามโพยพัด
ไอน้ำอัดแน่นกลายสายเมฆศิลป์
จินตนาพาใจให้โบยบิน
ฉับพลันเมฆก็รินกลิ่นดินอวล

ฉันเป็นคนอ่านและเธอเขียน
บ้างสับเปลี่ยนมุมมองต้องครบถ้วน
หากขาดตกบกพร่องอาจก่อกวน
ความสัมพันธ์เรรวนชวนผันแปร

ทุกสิ่งย่อมกระทบต่อจิตใจ
โลกหมุนไปตามธารกระแส
หยุดมองตรองดูความจริงแท้
เตือนใจอย่าอ่อนแอแม้คราใด
				
5 พฤศจิกายน 2555 03:27 น.

หาก...

กวีปกรณ์

หากฉันพอหลงเหลือเงินอยู่บ้าง
ฉันจะนับสตางค์ทุกบาทนั่น
แล้วหาซื้อเศษกระดาษดินสอพลัน
เขียนเล่าเรื่องเหล่านั้นที่ผ่านมา

หากความฝันของฉันยังหลงเหลือ
ฉันจะเจือหมึกเขียนอย่างรู้ค่า
ในคำผิดยางลบได้บางครา
หรือบางคำขีดคร่าอย่าอ่านเลย

หากเรี่ยวแรงของฉันยังพอมี
เรื่องวานนี้เล่าไว้ไม่อยู่เฉย
แบ่งเรื่องราวความฝันปันสุขเคย
อาจซ่อนเงื่อนรอเฉลยให้เชยชม

หากโลกคงไว้ด้วยอำนาจ
แต่ละคำที่หยาดอาจขื่มขม
ละไว้ เว้นห่างบ้างซ่อนปม
ในถ้อยคมด้วยศิลป์จนสิ้นคำ

หากเธอคือผู้มีสิทธิ์อ่าน
จงรับรู้คืนวันผ่านอย่างกลืนกล้ำ
ขอจงเขียนเรื่องใหม่อย่าให้ซ้ำ
ขอโลกหมุนด้วยความช้ำเพียงวันวาน
				
2 พฤศจิกายน 2555 01:42 น.

นาฬิกา

กวีปกรณ์

โลกเราหมุนรอบตัวเองช้าช้า
วงโคจรนาฬิกาคำนวณให้
ยี่สิบสี่ชั่วโมงตามกลไก
เข็มสั้นยาวหมุนไปในนาที

ตะวันตื่นปลุกเราแต่เช้าตรู่
โลกยังคงหลับอยู่ในบางที่
กลางวันอาจมืดบ้างก็มี
สิ่งเหล่านี้ชอบกลฉงนฉงาย

ในจักรวาลแห่งความไม่รู้
กาลเวลาที่มีอยู่ไร้ความหมาย
วงโคจรแห่งการเกิดและตาย
ใช่จุดเริ่มหรือสุดท้ายของชีวิต

เมฆเคลื่อนคล้อยลอยปลิวลมพลิ้วพัด
แสงอาจส่องโลกงามชัดชวนวิจิตร
แต่ท่ามกลางหมอกควันอันมืดมิด
แม้ว่าจะรู้ทิศกลับไร้ทาง

นาฬิกาเครื่องชี้วัดเวลาโลก
ปฏิทินอุปโลกตามแต่สร้าง
วันนี้ ปัจจุบัน ฉันเดินทาง
โลกยังคงกว้างอย่างที่เป็น

อนาคตใช่บอกได้ด้วยปฏิทิน
อย่าเชื่อแม้ได้ยินหรือเพียงเห็น
เช้าอาจมืด และสว่างในบางเย็น
นาฬิกาเพียงของเล่นของเวลา
				
1 พฤศจิกายน 2555 04:46 น.

inchan tree

กวีปกรณ์

กิ่งก้านกอดเกี่ยวกระหวัดร้อย
ใบน้อยผลิแซมแย้มดอกหอม
รากลึกลงดินโดยยินยอม
สองต้นต่างถนอมไม่ยอมตาย

ต้นหนึ่งใบงามอร่ามเหลือง
แสงต้องมะลังมะเลืองในยามสาย
ต้นหนึ่งดอกหอมยามลมชาย
กลีบดอกเด่นประกายในสายทอง

โลกเคลื่อนคล้อยบ่ายจนบ่ายคล้อย
เปลี่ยนไปเล็กน้อยต้นทั้งสอง
หลากใบร่วงบ้าง ดอกกรูกอง
คล้ายเวลาจับจ้องจะรานไป

สองต้นยังคงกระหวัดเกี่ยว
ยืนเป็นต้นเดียวรอวันใหม่
แดดร่มลมตกตามกลไก
พรุ่งนี้จะผลิใบพร้อมดอกบาน
				
30 ตุลาคม 2555 16:53 น.

เราพบกันเพราะหนังสือ

กวีปกรณ์

แล้วรักที่จากไปในคิมหันต์
โดยไม่รู้เหมันต์จะมาไหม
ตั้งตารออธิษฐานอยู่เรื่อยไป
ปฏิทินขึ้นหน้าใหม่ในทุกวัน

ความรักคงกำลังเดินทางมา
เส้นทางในบางคราพาหวาดหวั่น
ยังคงคิดถึงสัปดาห์ครานั้น
ช่วงเวลาสั้นสั้นคล้ายฝันไป

แล้วเหมันต์ที่กำลังจะมา
อีกวสันต์ที่หอบลาสายฝนให้
เราได้พบพูดคุยคนคุ้นใจ
สัปดาห์หนังสือในอีกช่วงปี

จนฟ้าจะเปลี่ยนสีให้มีแสง
โลกหมุนด้วยแรงแห่งช้างศรี
สองเหยือกยกหมดไปกำลังดี
คืนล่วงเข้าตีสี่กว่าจึงลากัน

บทสนทนาของเรายังเข้าที
ย้อนเวลาสองปีทั้งยาวสั้น
สองมือจับกอดคอความผูกพัน
โดยไม่รู้สัมพันธ์นั้นเป็นอย่างไร

และแล้วเช้าที่กำลังจะมา
ส่งสัญญาณให้ร่ำลาอย่าหวั่นไหว
อาจเพียงระยะทางที่ห่างไกล
แต่หัวใจจงหยุดไว้หว่างสัมพันธ์

ขอบคุณความรักที่ยังมา
แม้ไม่รู้อีกคราจะยาวสั้น
กลับเติมฟืนเชื้อไฟให้ใจพลัน
โลดแล่นกับทุกฝันทุกวันคืน

โลกสองเราต่างคงดำเนินไป
ปฏิทินพลิกหน้าใหม่ในวันอื่น
ความสัมพันธ์เรานั้นจะยั่งยืน
กว่าสัปดาห์หรือคืนที่พ้นไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์