3 วัน 2 คืนกับการหลงป่า
คุณคงเคยเห็นข่าวหลายข่าวที่มีคนหลงป่าหลายครั้งในการที่คนหลงป่าหลายวันบางคนก็ไม่ได้กลับมาจากการหลงในส่วนน้อยที่คนจะรอดจากการที่หลงป่าเพราะฉะนั้นก่อนที่จะคิดเข้าไปเดินป่าค่อยจะเตรียมสิ่งของที่จะเป็นเข้า ไปเช่น อาหาร น้ำ ไฟฉาย ไฟแช็ค ยารักษาโรค และที่นอน ควรจะทำไกด์นำทางตลอดเวลาหรือถ้าจะหยุดดูอะไรควรจะบอกคนนำทางก่อนเพื่อจะได้ไม่พลัดหลงกันหรือไม่ ถ้าหลงควรจะนำพลุสัญญาเข้าไปในป่าด้วยก็ดีนะครับ
ปิดเทอมปีนี้ บอล หนึ่งและทาม ได้นัดกันจัดโปรแกรมไปเที่ยวบอลจึงเสนอให้ไปเที่ยวอุทยานแห่งหนึ่งเพราะเขาเคยไปกับ ครอบครัวแล้วที่นั้นสวยงามมากจึงอยากให้เพื่อนไปดู พอทุกคนไปถึงอุทยานก็เข้าไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อที่ติดต่อที่จะเข้าไปเดินป่าในอุทยานขนาดนั้นนักท่องเที่ยวอีก กลุ่มเข้ามาติดต่อพร้อมพวกเขาพอดีเจ้าหน้าที่จึงพาเข้าไปพร้อมกันทั้งหมดโดยมีบอล หนึ่งและทามและนักท่องเที่ยวอีก 5 คนในระหว่างทางที่เดินอยู่นั้นทามก็ไปเห็นนกตัวหนึ่งซึ่งมีสีสันสวยงามจึง หยุดดูและเรียกให้หนึ่งและบอลดู ทุกคนยืนดูจนเพลินพอหันไปอีกทีก็ไม่เจอใครมีแต่พวกเขาแค่ 3 คน ทุกคนตกใจมากด้วยความตกใจพวกเขาจึงสุ่มทางเดินไปอีกทางแต่ พอเดินไปเรื่อยก็ไม่เจอใครเลยพวก เขาจึงรู้เลยว่าคงหลงกลับไกด์นำทางแน่นอนพวกเขาจึงหาทางกลับทางเก่าแต่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้จึง ไม่แน่ใจว่าต้องไปทางไหนบ้างพวกเขาทั้ง 3 จึงนั่งคิดกันว่าจะทำไงต่อ
“ทุกคนลองตรวจดูในกระเป๋าสิว่าเราเตรียมไรกันมาบ้าง” บอลพูดเพื่อให้ดูว่ามีสิ่งของอะไรบ้าง
“เรามีที่นอน อาหาร น้ำ ไฟฉาย เชือกและไฟแช็คนะ” บอลพูดหลังจากเช็คของในกระเป๋าตัวเอง
“เรามีที่นอนเหมือนกัน อาหาร น้ำ ยา ไฟฉายและเรามีนาฬิกาข้อมืออีกด้วย” หนึ่งพูดต่อจากบอล
“ของเรามีที่นอน อาหารนิดหน่อย น้ำ มีดและก็ขนม” ทามพูดเป็นคนต่อมา
“นี้มันก็ประมาณห้าโมงแล้ว..เรามานั่งกินไรก่อนดีกว่า ” หนึ่งพูด
“ก็ดีเหมือนกันแต่อย่าเพิ่งกินเยอะนะเก็บไว้วันอื่นบ้าง เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าจะมีคนมาเจอพวกเราเมื่อไหร่”บอลพูดด้วยน้ำเสียงมีความหวัง
หลังจากที่ทุกคนเอาอาหารที่ตัวเองเตรียมมานั่งกินกันแต่ทามกินอาหารจนเพลินเลยทำให้อาหารของเค้านั้นเหลือน้อยลงกว่าคนอื่นพอทุกคนกินเสร็จ
“ทุกคนเราว่าหาที่นอนบนต้นไม้ดีกว่าแล้วเอาเชือกมัดตัวไว้ จะได้ไม่ตกลงมาแต่หาต้นไม้ใหญ่หน่อยนะรีบๆเร็วเข้าก่อนที่ฟ้าจะมืด” บอลพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
เมื่อบอลพูดจบทุกคนก็เก็บอาหารใส่กระเป๋าแล้วเตรียมตัวหาที่พัก หลังจากที่เดินมาได้สักพัก
“นี้ทุกคน ลองมาดูต้นนี้ น่าจะพอได้นะ” หนึ่งพูดออกมาด้วยความมั่นใจ
“ก็น่าจะโอเคนะ เรารีบปีนขึ้นไปดีกว่า” บอลพูดชวน
“เดี๋ยวเราขอปีนขึ้นไปสำรวจก่อน เผื่อมันมีสัตว์อะไรอยู่ข้างบน” ทามพูดด้วยน้ำเสียงกลัวว่าข้างบนจะมีไรรึเปล่า
ในขณะที่ทามปืนขึ้นไปหนึ่งและบอลก็จัดเตรียมของที่จะนอนไว้เพื่อที่จะขึ้นไปวางแล้วได้นอนเลย
“โอเคทุกคน น่าจะนอนได้ ปีนขึ้นมาเลยๆ” ทามพูดชวน
ทุกคนก็ปืนขึ้นขึ้นไปเอาที่นอนว่างแล้วก็เอาเชือกที่เตรียมมามามัดไว้ที่ขาและตัวก่อนที่จะนอน
“ทุกคน เราว่าน่าจะมีคนผลัดกันนอน แล้วตื่นมาเฝ้าดูอะไรหน่อยนะ เผื่อเวลากลางคืนมีอะไรเกิดขึ้น จะได้ช่วยเตือนกันทัน” หนึ่งพูด ซึ่งทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ของหนึ่ง
หลังจากที่หนึ่งพูดพวกเขาทั้ง 3 จึงแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะเฝ้าก่อนเฝ้าหลัง
“เดี๋ยวเราเฝ้าคนแรกเอง” ทามพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“เดี๋ยวถ้าไม่ไหว่มาปลุกเรานะเดี๋ยวเราเฝ้าต่อเอง” หนึ่งพูด
“งั้นโอเคตามนี้ เราคนสุดท้ายละกัน” บอลพูด
หลังจากที่ตกลงกันเสร็จหนึ่งและบอลก็นอนและก็มีการผลัดการเฝ้าในคืนนี้ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจนถึงเช้าพอพระอาทิตย์เริ่มขึ้นได้สักพักได้เห็นแสงวันใหม่ของการหลงป่า 3 คนนี้
“นี้ทุกคน เช้าแล้วๆตื่นได้แล้ว” บอลพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
พอปลุกทุกคนหนึ่งกับทามก็ค่อยๆลุกและแกะเชือกออกเก็บของและค่อยๆปืนลงจากต้นไม้
“อากาศในป่าตอนเช้าที่ดีจังเลยนะแต่หนาวไปหน่อยน่ะ” ทามพูด
“ทุกคนยังไม่หิวกันใช่ไหม? พวกเราไปหาไม้มาทำฟืนก่อกองไฟกันดีกว่า” บอลพูด
หลังจากนั้นทุกคนก็วางของพิงไว้ที่ต้นไม้แล้วก็แยกย้ายไปหาไม้แห้งแต่ก็ไม่ไปไหนไกลกันนักกลัวที่จะพอทุก คนหาไม้มาก็มาวางกองรวมกันและก็กินอาหารเช้าพร้อมกันและนั่งคุยกันว่าจะหาทางอยู่รอดในป่านี้เมื่ออาหารหมด
“ทุกคนเราน่าจะอยู่ที่นี้ไม่ควรย้ายที่ไปไหน บ้างทีถ้าเรายิ่งเดินอาจยิ่งหลงเข้าไปมากก็ได้” บอลพูดด้วยความคิดว่าอยู่ที่นี้น่าจะปลอดภัยกว่าที่อื่น
“ก็เป็นความคิดที่ดี…แต่อาหารและน้ำของเราจะหมดก่อนก่อนที่จะมีคนมาช่วยละสิ” หนึ่งพูดด้วยความเป็นกังวล
หลังจากได้ตกลงกันแล้วทุกคนก็เอากระเป๋าและของต่างๆของตัวเองย้ายไปบนต้นไม้
“ถ้าอาหารเราหมดก็ย้ายไปอีกที่ก็ได้ ตอนนี้เราก็อยู่ที่นี้ไปก่อนแล้วกัน” ทามพูดอย่างไม่คิด
เมื่อทุกคนจัดของเสร็จก็มานั่งคุยกันกับการอยู่รอดในป่านี้จึงได้ตกลงกันว่าจะไปเดินสำรวจรอบๆนี้เพื่อจะเจออะไร ได้มากมาเป็นเสบียงในวันต่อจึงเริ่มเดินออกจากที่ตรงนั้นโดยที่ทามเดินไปก็เอามีดขีดตามทางที่เดินตลอดเพื่อจะได้ไม่หลงในขากลับ
“ทุกคนเห็นน้ำค้างที่อยู่บนต้นไม้ไหมเอาใส่ขวดไว้” บอลพูดด้วยความเป็นห่วงเผื่อน้ำจะหมด
ทุกคนก็เดินหาน้ำจากใบไม้และเติมใส่ขวดให้เต็มจนผ่านเวลานั้นไปนานจนเลยเที่ยงไป
“ทุกคนนี้มันบ่ายแล้วนะรีบกับที่พักไปกินข้าวกันเถอะ” หนึ่งพูด
ทุกคนจึงรีบกลับที่พักโดยการเดินตามที่ทามได้ขีดไว้จนไปเพิ่งที่พักและนั่งกินอาหารของตัวเองแต่ของทามมี น้อยทามจึงกินหมดเลยทำให้มื้อต่อไปทามจึงไม่มีอะไรกิน
“ทาม ทำไมแบ่งอาหารอย่างนี้? อาหารหมดเลยเห็นไหม?” หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“มื้อต่อไปเราก็แบ่งส่วนหนึ่งให้ทามสิหนึ่ง..เพื่อนกันนะ” บอลพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบเพื่อจะ ไม่ให้เพื่อนทะเลาะ
หลังจากที่คุยกันจบแล้วก็คิดที่จะหาเสบียงที่จะไว้กินในครั้งต่อไปทั้ง 3 คนจึงออกเดินทางตามเส้นทางเก่าที่ขีดไว้เดินทางไปเรื่อยจนเก็บจะเย็นก็ยังหาอาหารไม่ได้เลยทุกคนเลยตัด สินใจรีบกลับไปที่พักก่อนที่จะมืดค่ำ พอมาถึงที่พักทั้ง 3 คนก็เริ่มที่จะกินอาหารบอลและหนึ่งเลยแบ่งอาหารส่วนหนึ่งไปให้ทาม
“ไม่ต้องแบ่งให้เรามากหรอกนะเรามีขนมอยู่น่าจะช่วยให้อยู่ท้องได้ละขอบคุณทุกคนมากนะ”ทามพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจเพื่อน
หลังจากตกลงกันได้ทุกคนก็นั่งรีบกันกินข้าวก่อนที่จะมืดค่ำ หลังจากนั้นทุกคนกินเสร็จจึงรีบขึ้นไปบนต้นไม้และนั่งคุยปรึกษาว่าพรุ่งนี้เราจะทำยังไงกันดีก่อนที่จะแยกย้ายไป นอนโดยได้เฝ้ากันเหมือนเดิมโดยที่ทามเป็นคนแรก เวลาก็ผ่านไปสักชั่วโมงสองชั่วโมงทามก็เห็นเสือเดินผ่านมาทามก็ไม่ได้คิดอะไรแต่มันเดินวนรอบต้นไม้หลายครั้งทามจึงปลุกเพื่อนทั้งสองให้ลุกขึ้นมาดูสักพักเสือตัวนั้นก็มองขึ้นมาเห็นทุกคนมันเลยกระโดดเกาะต้นไม้เพื่อที่จะ ขึ้นมาทั้ง 3 คนตกใจมาก ด้วยความตกใจทำให้ทามพลัดตกจากต้นไม้จึงโดนเสือตะปบและกัดทามจนเสียชีวิตและมันก็ลากทามไปบอลจะกระโดดลงไปช่วยแต่หนึ่งได้ดึงไว้ทามและหนึ่งได้แต่นั่งร้องไห้จนถึงเช้า พระอาทิตย์ในวันใหม่แห่งการเหนื่อยล้าและเสียใจจากการที่เพื่อนรักคนหนึ่งจากพวกเขาไปพอทั้งสองได้สติพวกเขาก็ปีนลงจากต้นไม้และออกเดินทางต่อ
“หนึ่ง..เอ่อ..เราว่าไปอีกทางที่เสือมันเดินไปดีกว่าไหม? รีบไปกันเถอะเดี๋ยวมันกลับ” บอลพูดน้ำเสียงหวาดกลัว
ทุกคนรีบเดินแล้วออกไปจากที่ตรงนั้นเดินไปด้วยความหวาดระแวงจากสิ่งที่ทั้ง 2 คนได้เจอมา เมื่อคืนในระหว่างทางที่เดินไป
“ทุกคนนี้ก็ผ่านมา 3 วันแล้วนะเรายังไม่เจอใครที่จะมาช่วยเราเลยนะ” หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดหวังจากการเดินทางมานาน
ทุกคนก็เดินทางมานานมากตอนนี้ก็ประมาณบ่ายๆสภาพทุกคนเหนื่อยล้าและหิวมากในระหว่างนั้นหนึ่งได้เดินไป เหยียบกับอะไรก็ไม่รู้รูปทรงคล้ายทรงกระบอกสีแดงทามจึงหยิบขึ้นมาดู
“บอลนี้คืออะไร??” หนึ่งถามด้วยความสงสัย
บอลก็หันมาดูแล้วก็หยุดดู เขานึกอยู่สักพัก
“อ่อ อันนี้คือพลุฉุกเฉินที่ไว้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เอามานี้ไว้ที่เราเดี๋ยวเราเก็บไว้เองถ้าเห็นเฮลิคอปเตอร์เรา จะได้จุดเลยพวกเขาจะได้พาพวกเรากลับบ้านสะที” บอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ
หลังจากที่คุยกันจบทุกคนก็เดินต่อไปได้สักพักด้วยความรู้สึกเหนื่อยและล้าพวกเขาจึงหยุดนั่งพักที่ต้นไม้
“ทุกคนเราได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์!! นั้นไงอยู่นั้นบอลรีบจุดพลุเร็ว!!” หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ
บอลจึงหยิบพลุฉุกเฉินขึ้นมาจุดแต่จุดไม่ติดเพราะมันตกมานานมากแล้วกว่าจะจุดได้เฮลิคอปเตอร์ก็ไปไกลแล้วแต่พวกเขาโชคดีที่เฮลิคอปเตอร์บินวนมาจึงทำให้เห็นพลุของพวกเขาที่ส่งสัญญาณเฮลิคอปเตอร์จึงบินมาที่พวกเขาแล้วก็ส่งบันไดลงมาให้ทุกคนปีนขึ้นไปเนื่องจากมีต้นไม้มากทำให้ลงจอดไม่ได้แล้วพากลับไปที่อุทยาน ทันใด นั้นบอลก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัวเขามากเขาจึงรู้ตัวว่าเขาฝันไปซึ่งเป็นฝันร้ายที่เขากลัวมากเนื่องจากเขาหลงป่าแล้วยังเสียเพื่อนรักของเขาไปหนึ่งคน
“เอ่อ..นี้เราฝันไปหรอเนี่ย” บอลพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียเพราะพึ่งตื่น และรู้สึกตกใจมาก
การฝันในครั้งนี้ทำให้บอลตกใจและกลัวกับการที่พรุ่งนี้จะไปเดินป่าที่อุทยานแห่งหนึ่งกับหนึ่งและทาม