ก่อนเติบโตสูงใหญ่ให้ดอกผล
ไม้ทุกต้นพ้นผ่านการต่อสู้
เปลวแดดจ้าพายุแรงแล้งฤดู
ฝนพร่างพรูกรูใส่ไม่ยับยั้ง
เด็ดเดี่ยวยืนสู้ทนจนโดดเด่น
รู้หลีกเร้นเอนอ่อนผ่อนปรนหวัง
ยามแล้งร้อนซ่อนช่อรอพลัง
ส่งรากหยั่งลึกหลืบสืบตาน้ำ
คราวฝนมาฟ้าชุ่มพุ่มไสว
ผลิช่อใหม่ยิ้มรื่นรับชื่นฉ่ำ
พายุจัดพัดโหมระทมทำ
กลับลู่ต่ำมิต้านให้รานรอน
สมเป็นยอดนักสู้ผู้เยี่ยมยุทธ
จึงรอดหลุดภัยพาลตระหง่านสอน
ให้คนเห็นเป็นอย่างนำสังวร
ทุกขั้นตอนก่อนยิ่งใหญ่ทำไงกัน
หากดึงดื้อถือดีเป็นศรีศักดิ์
มิยอมหักยอมงอก็สะบั้น
อุปสรรคมากน้อยพลอยรำพัน
ชะงักงันหวั่นไหวไปไม่พ้น
อยากยิ่งใหญ่ยืนเด่นเป็นสง่า
ต้องรู้ค่าความอ่อนน้อมยอมรับผล
หลบเป็นปีกหลีกเป็นหางรู้ทางคน
ฝึกประจญให้ทันทุกชั้นเชิง.
ต่ำเตี้ยอยู่เรี่ยดินถวิลเพียงเลี้ยงชีพชื่นอาศัยไอหมอกชื้นน้ำกลางดื่นพอยืนต้นแดดจ้าพายุแรงร้อนระแหงแล้งฝอยฝนสลดก็อดทนมิย่อย่นประจญไปมิฝันถึงวันพรุ่งมิได้มุ่งสูงโตใหญ่มิเทียบเปรียบเทียมใครแม้ทุกข์ใจไม่ท้อถอยยงหยัดกัดฟันสู้หัดเรียนรู้อยู่รอคอยฟ้าโปร่งหลังฝนปรอยคงค่อยค่อยทยอยย่างเพียงเป็นเช่นหญ้าแพรกก็ไม่แปลกหรือแตกต่างแม้หังยังไกลห่างแต่ไม่สร่างสิ้นศรัทธาชูดอกเด่นไสวยามลมไล้ได้เริงร่าอยู่ต่ำธรรมดาสุขประสาหญ้าพึงมีงามตามธรรมชาติไม่ต้องวาดสาดแสงสีจรรโลงโลกเสรีด้วยชีวีและวิญญาณ...
ลิบลิบลิ่ว ทิวเขา ทอดยาวเหยียดสูงปานเสียด ฟ้าเด่น เป็นทิวแถวอุดมด้วย พฤกษา พนาแนวสรรพสัตว์แซ่ว แว่วเสียง ทั้งเวียงไพรดวงตะวัน คล้อยลับ กับเหลี่ยมเขาดวงจันทร์เจ้า เจิดกระจ่าง สว่างไสวหมู่ดารา กระพริบ อยู่ลิบไกลโลกหลับไหล นิ่งสนิท สู่นิทรามีเพียงฉัน เดียวดาย นอนไม่หลับมานอนนับ ดวงดาว พราวเวหาอยู่เียงทิวเขาแถว แนวพนามีภูผา และดาวเดือน เป็นเพื่อนนอนยิ่งตกดึก น้าค้าง ลงพร่างห่มเย็นสายลม พรมผิว ใจหวิวอ่อนยินเสียงเพลง ชมป่า พนาดรลอยมาอ้อน ผ่อนใจให้เหงาคลายอยากให้ถึง เวลา ที่ฟ้าสางจะเดินทางเร่งรุด สู่จุดหมายข้ามเขาไปในเวียง เขตเชียงรายหวังพบนาย อีกหน....คนเมืองพาน.