ดั้นด้นมาที่นี่กระวีกระวาดเพือโอกาสหัวใจอาจใฝ่อาจฝันมิใช่เพื่อถูกบีบจนตีบจนตันเพราะมิรับสัมพันธ์พิลั่นพิลึกไม่อาจยอมรับรักพิพักพิพ่วนโดยกระบวนรู้จักกระอักกระอึกเห็นเพียงชื่อหรืออกระทกระทึกความรู้สึกของใครปานไฟปานฟืนจะสร้างรักควรยื่นคำชื่นคำชมแทนการใช้อารมณ์มาข่มมาขืนจะคบใครจริงจังให้ยั่งให้ยืนมิควรฝืนจนมิตรระอิดระอาบรรยากาศการพบควรอบควรอุ่นความเมตตาการุญมีคุณมีค่าการหมายปองครองคู่ใช่ปูใช่ปลาอันซื้อหาที่ชอบมาครอบมาครองเขียนกลอนรักจงใจให้ไหวให้หวานให้ผู้อ่านเอมอิ่มชวนยิ้มชวนย่องมิได้แถมแก้มอิ่มให้ลิ้มให้ลองแค่ร้อยกรองสะกิดต้องจิตต้องใจรักเถิดรักบทกวีที่สร้างที่สรรค์แต่อย่าฝันละเมอจนเผลอจนไผลแม้กลอนจะอบอุ่นละมุนละไมแต่มิใช่หัวใจละไมละมุน....................................กลบทสะบัดสะบิ้ง มีข้อบัญญัติเพิ่มจากกลอนทั่วไปคือ1)กำหนดให้ช่วงหลังของกลอนแต่ละวรรคมี 4 คำ2)ใน 4 คำนั้น ให้คำที่ 1 กับ 3 ซ้ำกัน และให้คำที่ 2 กับ 4 เป็นสัมผัสอักษร3)ให้คำท้ายของช่วงกลาง สัมผัสสระกับคำที่ 2 ของช่วงหลัง ในแต่ละวรรคของกลอนอ้างอิง ใน กลบทศิริวิบุลกิตติ์ และ จารึกวัดพระเชตุพนฯ
ก้าวต่อไปข้างหน้าต้องกล้าก้าวได้ทางยาวหรือสั้นนั้นคือได้ใครจะต้านจะติมิว่าใครตนต่างคิดต่างไปตามใจตนมั่นคงในวิถีที่เชื่อมั่นถนนฝันนั้นขวากเข็มเต็มถนนทนฝ่าข้ามหนามเหน็บเจ็บต้องทนการจำนนง่ายนักใช่หลักการรักเรียงถ้อยร้อยคำทำด้วยรักผ่านตะกุกตะกักผลักเพื่อผ่านทานกระแสคำคนอย่างทนทานกลอนรักไม่ดักดานสมกานท์กลอนแน่แน่วในทางฝันอันแน่วแน่อ่อนแล้วแพ้ควรหรือ ใช่มืออ่อนทอนตนเองหรือใครกันมาบั่นทอนคำคนค่อน น้ำลายฟอง ใช่ทองคำคว้ามาจับมาถือเปื้อนมือคว้าต่ำทั้งค่าทั้งคุณต้นทุนต่ำปรำยุแยงตะแคงแหย่แค่ปรักปรำใดกระทำสำคัญกว่าอันใดฝันยังไปไม่ถึงซึ่งจุดฝันไม่มีวันถอยหลังสักครั้งไม่ไกลก็ควรจะรู้ว่าอยู่ไกลวันไหนไหนก็ไม่หนีไม่มีวันกลบท ครอบจักรวาลคำแรกและคำสุดท้ายในแต่ละวรรคเป็นคำเดียวกัน
หญิงเป็นยูงสูงส่งด้วยวงศาใช่ขึ้นฟ้าด้วยใจใฝ่กระสันยังลงมาเดินดินถิ่นเดียวกันมิเคยคิดปิดกั้นยกชั้นตนแม้เกิดมาฐานันดร์นั้นแตกต่างชายชาตรีมีทางสร้างถนนเพื่อเดินขึ้นสวรรค์เทียบชั้นชนใช่ต้องทนต่ำต้อยเป็นร้อยปีใช้ความรู้การงานเป็นฐานเทียบขึ้นไปเหยียบชั้นชนจนสูสีใช้หัวใจงดงามและความดีซึ่งอาจมีมากกว่า...ชี้ค่าคนแม้จะหลงรักยูงซึ่งสูงศักดิ์มิต้องหักใจหนีจนปี้ป่นถ้าหากยูงยังกล้ามาเดินทนแทนการบินอยู่บนเวหนไกลนั่นคือยูงถวิลทิ้งถิ่นที่ลงปฐพีมีจนอดทนได้กระทบกระเทียบเหยียบย่ำอาจช้ำใจมิมีใครเลือกกำเนิด ตอนเกิดมาแม้จะเกิดต่างศักดิ์หากรักมั่นเรื่องการต่างชนชั้นใช่ปัญหามิควรใช้วาที ตีราคาเพราะคุณค่า ความรัก ศักดิ์เท่ากัน
หวานคารมลมลิ้นถวิลถึงหวานคาจนคนซึ้งรำพึงหาหวังเคียงข้างคนหนึ่งซึ่งไกลตาอยากเห็นหน้าคนหนึ่งซึ่งไกลจังมิอาจห้ามความคิดจิตฟุ้งซ่านมิอาจต้านทานท้วงดวงใจหวังใส่ปีกจิตคิดลี้หนีเซซังใจก็ยังร่อนรี่หนีเซมาเพียงได้เห็นอักษรก็นอนฝันเพียงได้ส่งสารกันฝันเริงร่ากามเทพนี่หนอทรมายิงศรบ้ามาพอทรกรรมความรักจักปรานีหามีไม่ความรักมักผลักไสใจร้องร่ำให้ไปตามความรักที่ชักนำให้ยอมทำตามรักที่ชักพาหัวใจเคยทะนงว่าองอาจหัวใจพลาดศรตรึงจึงสิ้นท่าอยากจะลืมคนหนึ่งที่ตรึงตราอยากอำลาคนหนึ่งที่ตรึงใจหลงคำหวานกานท์กลอนจนซ่อนยิ้มหลงคำนิ่มนุ่มนวลชวนหวั่นไหวชังคารมคมคายมีหลายนัยชวนคิดไกลไยวจีมีหลายแนวแต่ความคิดขุ่นใจยังไม่เกิดแต่ความฝันบรรเจิดเกิดแน่แน่วลบรอยร่องหมองหม่นจนสิ้นแววหายหมดแล้วทะนงตนจนสิ้นลาย
ขอโทษค่ะ ขอโทษ โปรดฟังหน่อยขอให้คอยจังหวะชั่วประเดี๋ยวไม่เนิ่นนานแน่แน่แค่แป๊บเดียวหัวยังหมุนเป็นเกลียวเดี๋ยวคงคลายพยายามแล้วพยายามตามใจเสมอยอมให้เธอทุกครั้งไปแม้ไม่ง่ายห้ามทำสิ่งยากยากได้มากมายแต่ห้ามเจ็บทุรนทุรายไม่ได้เลยกำลังหาหนทางอย่างเต็มที่มิได้มีเจตนาจะชาเฉยรู้ว่าเธอประสงค์จะลงเอยเรามิเคยคัดค้านประการใด"ฝืนทรงกายหลายหนจนหน้าคว่ำอย่ากระหน่ำซ้ำรอยคอยได้ไหมขอเวลาที่จะฮึดแค่อึดใจหากจะไปจากกันนิรันดร"ไม่เคยคิดว่าจะต้องเอ่ยร้องขอเพียงแค่รอพอให้ลุกได้ก่อนพอให้มีกำลังนั่งอวยพรกรวดน้ำให้เธอตอนก่อนจะไปเช่นพระเวสสันดรตอนรินหยดหลั่งน้ำรดมือชูชกแทนยกให้ *ทานมเหสี บุตรา มิอาลัยจะกรวดน้ำ ทานมัย ไปเช่นกัน* เป็นที่มาของการกรวดน้ำในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา