มืดจนไม่เห็นทางจะสร้างสรรค์เอ๊ะ ! ทำไมไฟฝันของฉันหายมืดมิมีหลงเหลือเชื้อประกายหรือกำลังคล้ายคล้ายหยุดหายใจแม้เปลี่ยนอิริยาบถกำหนดจิตพลางหาช่องมองทิศคิดแก้ไขสรรหาทุกวิธีจะมีไฟหาทุกทางช่างกระไร...ไฟยังเย็นมิไหวติงยิ่งคล้าย ไฟตายแล้วยังนอนแซ่วไม่ตื่นแม้ขืนเข็นแม้ลองบังคับใจให้ไฟเป็นยังมิเห็นแสงแปลบสักแวบคืนคงอีกหลายเฮือก "กระเสือกกระสน"ตะเกียกตะกายดิ้นรนทนขัดขืนเพื่อรอลมหายใจไหลยั่งยืนตอนที่ฟื้นจากสลบพบ...แสงทอง"จะเลิกนอนพะงาบอาบความเศร้าจะเลิกกอดความเหงาเมาความหมองจะเลิกคอยน้ำใจใครประคองจะเงยหน้าขึ้นมอง...ลองก้าวไป "จะพยายาม จะพยายามจะก้าวข้ามฝันริบหรี่นี้จนได้แม้มิพบแสงทองผ่องอำไพแต่หัวใจอิสระ...ชนะมาร
มื ด จ น ไ ม่ เ ห็ น ท า ง จ ะ ส ร้ า ง ส ร ร ค์เ อ๊ ะ ! ท ำ ไ ม ไ ฟ ฝั น ข อ ง ฉั น ห า ยมื ด มิ มี ห ล ง เ ห ลื อ เ ชื้ อ ป ร ะ ก า ยก วี ว า ย ชี ว า ต ม์ เ มื่ อ ข า ด ไ ฟ
ท่าองอาจมาดสง่างามผ่าเผยใช่แน่เลยต้องใช่ "ชายในฝัน"จึงเปิดใจไว้รอต่อสัมพันธ์คบหากันฝันเห็นเป็นมิ่งมิตรด้วยตัวเราเยาว์วัยด้วยใจซื่อด้วยเชื่อถือเต็มห้วงแห่งดวงจิตด้วยโอกาสอำนวยด้วยใกล้ชิดเขาจุมพิตหน้าผากฝากตรึงตราและตรงนั้นฝันเขลาเราจึงเริ่มในฝันเคลิ้มว่าเขารักเรานักหนาอาจเป็นโลกสมมุติหยุดเวลาพอลืมตาความฝันนั้นเลือนลดจากไปพร้อมกับสาวไม่กล่าวเกริ่นจากนานเนิ่นเกินจำไร้กำหนดจากไปอยู่แดนไกลคนใจคดเหลือแต่รสจุมพิตติดเป็นรอยแม้รู้ว่าชาตินี้ไม่มีหวังเราก็ยังนั่งฝันเช่นนั้นบ่อยแม้รู้อยู่หนักหนาว่าเลื่อนลอยยังเฝ้าคอยหมายฝันนั้นเป็นจริงแม้เพียงรอยจุมพิตติดหน้าผากคือรอยซากฝังจิตสนิทนิ่งไม่มีวันเกลื่อนกลบลบรอยทิ้งคงเป็นสิ่งประทับใจ...ไปจนตาย
ฟ้าอึมครึมทึมคล้ำสีดำมืดดาวตกวืดจากฟ้าลงมาดับดวงจันทร์เพ็ญเร้นหลบเมฆกลบทับดูปุบปับฉับหายคล้ายตัดเล็บอาจเราเคยก่อเรื่องให้เคืองขัดจึงถึงนัดที่เราเหงาและเจ็บไม่โผล่หน้ามาทักเลยสักเว็บแต่เราเก็บใจรอไม่ขอพักหาเหตุผลเป็นสิบขึ้นหยิบยกพยายามปลงให้ตกว่าอกหักแต่หัวใจใสซื่อก็ดื้อนักยังคงปักหลักคอยคนลอยลับที่ยังเร้นเย็นเยียบเงียบสงบจนทุกข์ทบถั่งโถมเข้าโจมจับทำได้เพียงนั่งร้องอย่างข้องคับตามระดับอารมณ์ที่ขมนักความรู้สึกลึกยิ่ง...ดิ่งนรกดวงดาวตกจากตามาจมปลักฟ้าดำพืดมืดตื๋อ...นี่หรือรักมิรู้จักรักผ่านปานลมพัดห้ามตัวเองกี่ครั้งก็ยังคิดห่วงสุดจิตสุดใจ...ใครอาจตัดสายสัมพันธ์อันปลูกขึ้นผูกมัดจะจำกัดตัดใย....อย่างไรนะ?
มองตามหลังไวไวเขาไปลับเฝ้ารอคอยเขากลับนานนักหนาวันเดือนปีผ่านผินปฏิญญาสักวันหนึ่งเถิดหนา...จะมาเยือนจะยิ้มทั้งน้ำตาถ้าปริ่มสุขถ้าหากทุกข์ยากเข็ญจะเป็นเพื่อนถ้าแววตาว่างเปล่า..เขาลืมเลือนคงคืนเรือนห่มช้ำ..ตอกสำนึกจึงมานั่งตื่นเต้นมือเย็นเฉียบก้มหน้าเงียบหักห้ามความรู้สึกปากคอสั่นหัวใจไหวระทึกในห้วงลึกใฝ่หามานานเนาสู้เดินทางลำบากและยากเย็นความรู้สึกลึกเร้นอยากเห็นเขาอยากมองเขาให้เข้มเต็มตาเรากลับมีเงาบางบางพรางนัยนาเงยหน้าขึ้นเพื่อจะชมให้คมชัดก็ติดขัดคล้ายคล้ายตาพรายพร่าช่างเอ่อออคลอฉ่ำหนอน้ำตาอยากดูหน้าเขาจังอย่าบังเลยขอจ้องมองหน้าเขาที่เรารักเห็นเราจักยิ้มร่าหรือชาเฉยกาลเวลาเปลี่ยนเขาหรือเปล่าเอยอยากฟังเสียงคุ้นเคยเอ่ยสักคำแต่มิอาจสมหวังดังใจคิดม่านน้ำปิดนัยน์ตาจนพร่าฉ่ำอยากจะเก็บภาพใหม่ไปจดจำตาก็ทำเหมือนเช่นไม่เป็นใจรู้ดีว่าหากพลาดโอกาสนี้อาจไม่มีโอกาสหน้ามาเห็นใหม่ยิ่งเพ่งสายตาจ้องมองเท่าใดน้ำตาล้นจนจะไหลเผยใจตนจึงเห็นเพียงใบหน้าพร่าเลือนรางเพราะตาฟางน้ำตาคล้ายห่าฝนยิ่งฝืนกลั้นยิ่งปรี่นี่ชอบกลใจหนอใจทุรนทุกหนทางก้มหน้าลงอีกครั้งตั้งใจหลบเพื่อเกลื่อนกลบน้ำสายที่พรายพร่างใช้แขนเสื้อปาดป้ายให้รอยจางเงยหน้าว่างหลังไวไว..เขาไปแล้วหอบใจยับกลับบ้าน..ซบซานซมโหยไห้ห่มเจ็บช้ำ..ครวญคร่ำแผ่วบนแก้มหมองนองน้ำวามวามแววกี่ครั้งแล้วน้ำตา...อาบหน้าตัว