15 พฤษภาคม 2557 23:25 น.

คิดถึงพี่

Parinya

กดนิ้วบนคีย์  "โดมีเรโด"
ใจไห้โฮโศกซึ้ง คิดถึงพี่
"จากน้องไปไกล" ไหลดนตรี
หนึ่งสองสามสี่จังหวะนับ
ไล่เสียงราวละเมอด้วยเผลอไผล
"อยู่แห่งไหนทำไมไม่หวนคืนกลับ"
เพลงพ้อแผ่ว "พี่ไปแล้วพี่ไปลับ"
"ไม่คืนกลับรับขวัญน้องดั่งคำลา"
"จากลับ นับปี "
"โอ้ป่านนี้ คนดีจะรู้ไหมว่า "
เสียงคนมีความหลังยังพรรณนา
ด้วยภาษาตัวโน้ตเสียงโอดโอย
คลื่นน้ำตามาท้นจนล้นปรี่
เสียงเล่นดนตรีก็แผ่วโหย
แผ่วแผ่วผิวหวิวเพียงเสียงลมโชย
เรี่ยวแรงโรยปานจะหายไปหลายครา
เสียงเพลงแห่งความหลังนั้นยังแผ่ว
แว่วแว่ว "ค่ำคืนน้องเหม่อมองหา "
ระบายความทุกข์ท้อ ทรมา
" ไม่เห็นหน้า น้ำตาน้องจำกล้ำกลืน"
"ยังคิดถึงพี่ "
เสียงดนตรีอ้อนออดสอดสะอื้น
"เพียรสร้างความดีไว้รอคอยพี่กลับคืน "
" เฝ้าคอยเก็บความหวานชื่น " ทุกวัน
นิ้วกดคีย์ยังสั่นด้วยหวั่นไหว
เหมือนเสียงของหัวใจที่โศกศัลย์
หนึ่งนาทีนั่งนับเหมือนกับกัลป์
"เฝ้าเร่งวันและคืนให้ผ่านไวไว"
"ไม่เห็นพี่คืน ข่มใจฝืน "
"บางคืนหม่นหมองร้องไห้"
"สุดที่รัก อยู่แห่งไหน" สุดข้องใจ
"พบคู่ใหม่ หรือไร จึงไม่กลับมา "
จบลงแล้วเพลงซึ้ง "คิดถึงพี่ "
แต่น้ำตาไหลปรี่อาบใบหน้า
ท้นท่วมใจเหมือนทะเลทุกเวลา
ท่วมจนกว่าคนบรรเลงเพลงจะตาย
15 พฤษภาคม 2557 06:49 น.

ปรัชญาถังข้าว

Parinya

แม่มีบ้านโอ่โถงบนโค้งฝั่ง
ห่างไกลทั้งผู้คนจนจับจ่าย
ตั้งอยู่กลางสวนเปลี่ยวอย่างเดียวดาย
มีหาดทรายอยู่หน้าบ้านด้านรับลม
ต้องคำนึงถึงข้าวปลาอาหาร.....
มีติดบ้านทุกขณะต้องสะสม
เป็น "ปรัชญาถังข้าว" ราวคำคม
ที่อบรมบ่มสอนวอนยืนยัน
คนตกน้ำตกท่ามาขึ้นฝั่ง
สายฝนหลั่งน้ำหลากฉากคับขัน
อาจเกิดการฉุกละหุกได้ทุกวัน
ช่วยเหลือกันทันทีต้องมีรอ
"ดูข้าวสารอย่าให้ลดจนหมดถัง
ข้าวสุกยังต้องเหลือเผื่อติดหม้อ
เตรียมที่นั่งตั่งเตียงให้เพียงพอ
แม้ไม่มากหากขอพอประทัง "
ทำให้ครัวทั่วห้องเป็นน้องตลาด
ที่สามารถฝากชีวิตมิผิดหวัง
แม่จึงเปรียบเทียบเคียงเสบียงกรัง
ขนาดจ้อยคอยตั้งอยู่ทั้งปี
การช่วยเหลือเผื่อแผ่แก่คนยาก
ใช่เพียงจากกรุณา...เป็นหน้าที่
ช่วยให้ข้าวให้น้ำตามเกิดมี
แม้ปรัชญาเมธีไม่มีเงิน
(ปรัชญาคือวิชาว่าด้วยหลักแห่งความรู้และความจริง
เมธี แปลว่า นักปราชญ์ )
13 พฤษภาคม 2557 09:24 น.

หลังคาคุ้มหัว

Parinya

ในวันคืนคลื่นคลั่งซัดพังหาด
พายุฝนหล่นสาดลมกราดเกรี้ยว
คนกับหมูอยู่ในคอกซุกซอกเดียว
ใต้ซีกเสี้ยวเรียวฟากตับจากมุง
เพื่อหลบภัยพายุที่ดุโถม
เขย่าโครมดังลั่นสนั่นทุ่ง
มันทั้งโยกทั้งคลอนถอนต้นซุง
ทั้งนังนุงกับบ้านงุ่นง่านงม
"ที่จะคุ้มชีวิตให้ติดร่าง
คือที่กว้างเพียงเกราะแต่เหมาะสม
มิใช่ตึกหลังงามตามนิยม
ตึกถล่มทุกทีคร่าชีวิต"
ลูกง่วงนอนสุดเหวี่ยงไร้เดียงสา
ยังร้องจ้าไม่หยุดเพราะหงุดหงิด
แม่ต้องปลอบต้องขู่ให้รู้คิด
จึงยังมีชีวิตอยู่ติดตัว
เมื่อคลื่นลมหยุดคลั่งฝั่งสงบ
คนอยู่ครบ บ้านไม่พัง หลังคารั่ว
แม่อุ้มคนม่อยหลับกับความกลัว
อำลาที่คุ้มหัวเพียงชั่วคราว
ฉากชีวีที่แม่เพียรให้เรียนรู้
เพื่อได้อยู่จนคุ้มถึงหนุ่มสาว
แม่คือหลังคาคลุมคุ้มยืนยาว
พายุกร้าวกี่ครั้งยังปลอดภัย
11 พฤษภาคม 2557 19:08 น.

ชุบชีวิตคน

Parinya

หลังพายุครืนโครมโถมพ้นผ่าน
เป็นช่วงงานสำรวจตรวจชายฝั่ง
แม่ออกตามหาคนบนเรือพัง
ไม่ว่าเจ็กไทย ฝรั่ง หวังเพียงพบ
ฝืนฝ่าไม้เรียวฝนหล่นกลางหลัง
ด้วยใจหวังสูงไว้....มิใช่ศพ
อวัยวะ  หัว หู ยังอยู่ครบ
โดยระบบแม่มองต้องช่วยกัน
เห็นผลุบผลุบโผล่โผล่โต้คลื่นยักษ์
แม่ชะงักนิดหนึ่ง...จึงถลัน
วิ่งตามคลื่นคว้าหมับ...ปล่อยฉับพลัน
เย็นอย่างนั้น ศพแน่แน่  แม่งงงวย
ร่างนั้นนอนแน่นิ่งกลิ้งตามคลื่น
แม่ต้องฝืนทำใจ...อย่างไรก็ช่วย
เผื่อยังมีบุญนำโชคอำนวย
ถ้าไม่ฉวยโอกาส...อาจสิ้นใจ
ร่างล่อนจ้อนนอนลื่นตามคลื่นซัด
จึงตวัดแขนคว้าขึ้นมาใหม่
ลากหนีคลื่นม้วนกลับอย่างฉับไว
แม่แย่งชัยชนะจากพระยม
"การช่วยเหลือเกื้อกูลไม่สูญเปล่า
ถึงนานเนาผูกจิตสนิทสนม
ซึ่งเป็นความมุ่งหวังของสังคม
ความเกลียวกลมห่มคุ้มกลุ่มแข็งแรง"
อันคุณงามความดีมีคุณค่า
ซึ่งสังคมศรัทธาหอมกว่าแป้ง
ไม่ต้องซื้อต้องหาราคาแพง
หากใช้แต่งครอบครัวตัวตนงาม
11 พฤษภาคม 2557 07:16 น.

กำลังใจอุ่นอุ่น

Parinya

ทุกสิ่งสุดแสนดีที่มีให้
ยังเก็บไว้ย้อนนึกระลึกเสมอ
ยังคุ้นคุ้นอุ่นเอยคล้ายเคยเจอ
ตอนละเมอเจอกันในฝันดี
อุ่นไอไมตรีจิตสนิทสนม
ที่ห้อมห่มละมุนอุ่นเต็มที่
อุ่นความคิดชิดใกล้ที่ให้ฟรี
ยามนาทีเสียหลักได้พักพิง
อุ่นไออ้อมแขนอันฝันประคอง
เมื่อคราวท่องโลกฝันนั้นอย่างยิ่ง
อุปถัมภ์ค้ำจุนอบอุ่นจริง
ให้ทุกสิ่งที่ขอไม่รอทวง
อุ่นความเอาใจใส่จนใจอิ่ม
แอบอมยิ้มอายอายได้บางช่วง
อุ่นเอมอิ่มทุกหนกับผลพวง
ของการล่วงรู้ในหัวใจกัน
อุ่นยามแวบแอบถนอมออมรู้สึก
มิให้นึกฉงนจนใจหวั่น
อุ่นถ้อยคำที่ย้ำว่าสำคัญ
อุ่นกับความมุ่งมั่นจะบันดาล
คนเขียนกลอนอ่อนซ้อมให้ยอมเขียน
หยุดทำเนียนแถไถไม่เอาถ่าน
กลับตัวตนจนเฝ้าเอาการ (เอา) งาน
เปรียบสายป่านตึงตึงดึงว่าวลอย
อุ่นอาบใจในถ้อยร้อยปลอบปลุก
ให้รีบลุกเดินต่อห้ามท้อถอย
จนต้องเร่งรีบจ้ำเลิกสำออย
อุ่นยามคอยถามทวงอย่างห่วงใย
 ( อุ่นถ้อยมธุรสในบทกลอน
เป็นลำนำอำนวยพรตอนเยี่ยมไข้
อุ่นพร้อมหอมระรินกลิ่นดอกไม้
อุ่นที่ให้ความหวังกำลังใจ )
อันเป็นความอบอุ่นทรงคุณค่า
ยามถวิลจินตนาครั้งคราไหน
ยังคงความรู้สึกนึกอุ่นไอ
เหมือนอยู่ในอ้อมอุ่นอันคุ้นเคย
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 0 คน
  Parinya
ไม่มีข้อความส่งถึงParinya