เมื่อราตรีคลี่คลุมทุกมุมบ้านอนธกาลครอบครองในห้องหับเป็นเวลาท่องแดนแสนลึกลับมีแม่คอยกำกับให้รับรู้แม่ประคองตะเกียงวางเคียงข้างห้องสว่างตรงที่มีแม่อยู่แม่กำลังแปลงกายกลายเป็นครูเป็นแม่ปูปลุกปล้ำเดินนำทาง" หยิบหนังสือมาซิหนู" คุณครูสั่งลูกจึงนั่งลงเคียงตะเกียงบ้างโดยประคองหนังสือถือมาวางแล้วค่อยค่อยเปิดวางข้างตะเกียงกออากา ขออาขา ขานอขานแม่ทำงานไปทั้งหูฟังเสียงคอยแก้ไขควบกล้ำเกลาสำเนียงทั้งมองเมียงฝึกหัดคัดลายมืออักษรไทยแต่ละตัวม้วนหัวก่อนบอกขั้นตอนการเรียนเขียนหนังสือถ้าขยันหมั่นฝึกหายยึกยือคัดลายมือสวยแน่แม่รับรองเรื่องที่เคยลึกลับกลับสว่างแม่เปิดทางให้ก้าวเข้าไปท่องทั้งกำกับควบคุมสร้างมุมมองทั้งให้ลองเดินทางบางลีลาถึงเกิดอยู่กลางไพรในป่าลึกแม่คอยหัดคอยฝึกให้ศึกษามิให้ไพรที่กั้นนั้นบังตายามเข้ามาในเมืองที่เรืองรองแสงตะเกียงเพียงดวงช่วงคืนค่ำส่องมืดดำสว่างอยู่กลางห้องแม่อาจเปรียบเทียบเคียงตะเกียงทองที่คอยส่องคืนค่ำนำลูกเดิน
มากับคำชื่นชมคือ อมยิ้มอันเอมอิ่มแอบแอบแนบมาให้ซึ่งส่งผลคนรับประทับใจจนนำไปเอมอิ่มอมยิ้มยาวยิ้มรับคำชมชื่นที่ยื่นฝากซึ่งมาจากภายในหัวใจขาวจากรู้สึกนึกคิดที่ติดดาวสุกสกาวราวเพชรเก็จมณีดุจรางวัลทรงค่ามหาศาลต๋อผลงานที่สร้างอย่างเต็มที่ที่ทุ่มเทความหวังตั้งใจดีให้งานนี้เอิบอาบในภาพรวมเพื่อผู้อ่านมิต้องฝืนหากชื่นชอบเพื่อจะมอบตอบผู้ที่มีส่วนร่วมเป็นแรงหนุนกระตุ้นฝันอันกำกวมจนล้นท่วมหัวใจไหลออกมามานั่งยิ้มสดใส "ในโลกฝัน"ซึ่งกำนัลความสนุกทุกเนื้อหาด้วยเอิบอาบภาพพจน์รจนาด้วยภาษาสร้างสรรค์อันสุนทรคำชื่นชมคืออมยิ้มที่อิ่มค่าก่อศรัทธาบริสุทธิ์มิหยุดหย่อนเป็นคล้ายน้ำคล้ายเนื้อเป็นเชื้อกลอนเพิ่มเป็นพรเพื่อฝัน...วันต่อไป( เพิ่มเป็นพรเพื่อรอ...เล่มต่อไป )
อันอ้อมแขนที่ไม่ต้องร่ำร้องหาทุกเวลาเอื้ออกไว้ปกป้องทั้งยินดีที่จะคอยประคองและสำรองไว้ทุกเมื่อเพื่อพึ่งพิงนั่นก็คืออ้อมแขนแสนล้ำค่าที่ทรงความกรุณาเมตตายิ่งยามหนาวเหน็บเจ็บไข้พึ่งได้จริงยามแอบอิงพิงอ้อมย่อมมั่นคงภายในอาณาเขตวิเศษนั้นสิ่งที่ฝันได้ตามความประสงค์ซึ่งแล้วแต่ประเภทเจตจำนงที่เจาะจงจากผู้ซึ่งเข้าพึ่งพาแด่เจ้าของอ้อมแขนแสนอบอุ่นที่การุญปกปักและรักษาด้วยสำนึกพระคุณกรุณาอ้อมแขนซึ่งพึ่งพามานานยาวเมื่อได้อิงอุ่นไอในอ้อมแขนในดินแดนหัวใจจะไม่หนาวจะฝนตกลมจัดพัดกี่คราวพายุกร้าวหนาวใดก็ไม่กลัวมหิทธานุภาพพร้อมแห่งอ้อมกอดช่วยให้ปลอด ภัยรุม และคุ้มหัวให้พ้นผ่านกร้านคมลมเนียนัวฝนฟ้ารั่วตลอดก็ปลอดภัย
ความห่างเหินเดินมาพอตาเห็นเพียงไอเย็นความห่างจะขว้างถึงหยุดที่ปลายสายสัมพันธ์อันแสนตึงปล่อยเราอึ้งเอ๋อเอ๋อ...เอ้ออ้าอายเกิดอะไรกับเขาหรือเราผิดเฝ้าแต่คิดถามตนฉงนฉงายหรือตัวเขาหรือเรามิอธิบายหรือมุ่งหมายให้ฉงนจนระอาแต่เจ้าความห่างเหินเดินมาแล้วและมีแววห่างเหินจะเดินหน้ากอดกลมเกลียวเหนียวหนับกับเฉยชาเราหลบตาหน้าหมองก้มมองดินไม่อยากมองท่าเมินกับเหินห่างที่ปลายทางสัมพันธ์อันเหม่หมิ่นในนาทีที่ใจยังไม่ชินก้มหน้าน้ำตารินกับกินใจความพันผูกปลูกก่อยังรอผลเพิ่งเป็นต้นเต็มสวนจวนเติบใหญ่ถ้าเขาเมินเหินห่าง...ทำอย่างไรต้นผูกพัน พันใจเราไปแล้วเขายืนอยู่ ณ จุดที่สุดสายสัมพันธ์คลายขยายไกลหัวใจแป้วเมื่อห่างเหินเดินตรงดำรงแนวกระซิบแผ่วกับตนว่า...จนใจ
ความคิดถึงตรึงในหัวใจหนึ่งเพราะความคิด ไม่ถึง เธอซึ่งห่างอุปสรรคผลักไสไกลเส้นทางใจจึงสร้างบางเยื่อเพื่อแสดงคิดถึงมีความจำ ค้ำเป็นฐานกับจินตนาการสานปรุงแต่งอำนาจความคิดถึงจึงรุนแรงตามค่าแห่งจินตนามาพัวพันเมื่อจินตนากับจำนั้นก้ำกึ่งในดวงจิตคิดถึงประหนึ่งฝันประหนึ่งสุขประหนึ่งเศร้าคละเคล้ากันจนเผลอพร่ำรำพันวันรำพึงในยามความสัมพันธ์นั้นวิกฤตใจทุรนทนพิษความคิดถึงสำหรับความสัมพันธ์อันตราตรึงใจซาบซึ้งกึ่งหวานซ่านทั้งดวงคงเพราะเธออยู่ไกลเกินไปหายามสายตาไม่เห็นเฝ้าเป็นห่วงยามไม่มีร่องรอยใจคอยทวงต้องพึ่ง "ดวงกับเดา" บรรเทาไปถ้าหากดวงยังดีมีโชคสรรค์คงนอนฝันว่าเห็นก็เป็นได้หากรู้เธอสุขกายสบายใจความห่วงใยมากมายก็คลายลงถ้ามิฝันทั้งคืนยามตื่นเช้าก็คงเฝ้าคิดเหมาเดาส่งส่งเพื่อให้คลายครุ่นคิดจิตพะวง"เดาว่าคงมีเหตุผลจนลืมเรา"จึงเป็นความคิดถึงซึ่งแพ้พ่ายรอสลายผูกพันตามวันเหงาภายใต้ความพ่ายดวงพ่วงพ่ายเดาหากยังคงเหลือเงาแม้เบาบาง