"รักเอย...เคยรักประจักษ์จิตรักเป็นพิษฤทธิ์แผ่แย่ไฉนทั้งเคืองขุ่นฉุนเฉียวเปลี่ยวอาลัยมิมีใครซึ้งเท่าที่เรามี "ที่จริงแล้ว รักเอย ไม่เคยผิดบางคนคิดว่ารักมักชิ่งหนีถึงขั้นกล่าวหาหนัก รักไม่ดีมิโทษที่ความคาดหวังตนตั้งมาน่าแปลกที่หัวใจ ไวต่อทุกข์ลืมความสุขได้ง่ายเหมือนไร้ค่าพาชีวิตติดหนับกับน้ำตาแถมไม่กล้าพยายามรับความจริงถ้ารับความจริงได้ทุกข์หายขาดเป็นโอกาสคว้าชัยอันใหญ่ยิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงแหล่งหลักพึงพักพิงอยู่กับสิ่งรอบข้างอย่างเข้าใจรักเคยสวยอย่างไร ใสอย่างนั้นมิเคยผันจนหยาบเป็นภาพใหม่แต่เจ็บ-รัก มักอยู่คู่กันไปห่มหัวใจอุ่น-เย็นเป็นพักพักใครที่เคยมีรักจึงมักเจ็บผ่านมาแล้วก็ยังเก็บมาเจ็บหนักจำเถิดจำ รักเอย ที่เคยรักแต่ต้องพัก ความเจ็บ เก็บแค่จำ( แด่ ปลากัด และผู้เคยรักแล้วเจ็บทุกคน )
คนชอบสร้างนิยายบนชายหาดถือโอกาสกินลมชมยามบ่ายละอองฝนฝอยฝอยหล่นปรอยปรายพรมพื้นทรายพรายแดดทอคลอละอองรำไรไกลลิบลิบฟ้าขลิบน้ำเรือดำดำลำน้อยลอยลำล่องลมไล้เรียวเหนี่ยวนำคลื่นลำยองเป็นเกลียวฟองล่องสาดทบหาดทรายแว่วเสียงเพลงทะเลเห่ ซ่า ซ่ากล่อมน้ำฟ้าชายหาดไม่ขาดหายเป็นจังหวะทยอยลอยลมชายบ่งความหมายแผ่นดินถิ่นลำเนาตะวันบังหลังสนเงาต้นทอดรายตลอดเรียงร่มห่มหาดเหงาเป็นช่วงตอนอ่อนแก่คล้ายแรเงาสีเทาเทาระบายลายเข้มจางต้นมะพร้าวเรียงแถวหลังแนวสนระหว่างต้นจนแถวมีแนวห่างบ้านหนึ่งหลังตั้งซุ่มตะคุ่มรางอยู่ท่ามกลางหว่างพงดงมะพร้าวบ้านที่เคย "เล่นเล่น" อย่างเป็นสุขที่เคยปลุกความฝันวันเริ่มสาวที่ปลุกจิตคิดไต่ "บันไดดาว"เขียนเรื่องราว "ลอยคอทรมาน"แถบสีโค้งเหนือน้ำข้ามหาวห้วงมาตกช่วงกึ่งกลางกั้นทางผ่านเหมือนนิยายอิทธิฤทธิ์พิสดารใจสั่นปานจะหลุด ...หยุดก้าวปั๊บแนวโค้งรุ้งพุ่งลงอยู่ตรงหน้ากลัวรุ้งดูดขึ้นฟ้าไม่กล้าขยับตกใจกลัวร้องจ้า แม่มารับรุ้งลี้ลับ เด็กงี่เง่าไม่เข้าใจ .
กีฬาไทยในสนามสยามรัฐซึ่งคู่กัดเปิดฉากลากปัญหาใช้อารมณ์ข่มเหตุผลจนมรณาเปิดกีฬาชักเย่อ...อำเภอใจบนแผ่นดินระแหงอันแล้งสุขบนความทุกข์คุกคามลุกลามไหลบนช่วงห้วงระยะฉาตกภัย*เหมือนจงใจเหยียบย่ำและซ้ำเติมฝ่ายหนึ่งลากฝ่ายหนึ่งไหลไปแม้ก้าวแผ่นดินผ่าวหญ้าเผือดเดือดร้อนเพิ่มฝ่ายหนึ่งยั่วอีกฝ่ายเย่อเซ่อกว่าเดิมเหมือนต่างเสริมเติมภัยใส่แผ่นดินถ้าปักหลักชักเย่อเสมอเท่าหญ้าคงเน่าเป็นศพมิจบสิ้นรอให้ฝูงอีแร้งมาแย่งกินผืนแผ่นดินคงเหม็นเช่นอาจมควรคำนึงถึงหญ้าใต้ฝ่าเท้าจะร้อนเร่าเฉาตายสลายล่มที่เย่อมาเย่อไปใครนิยมใช่สังคมชมชื่น...กล้ำกลืนทนโปรดวางเชือกเลือกเปลาะที่เหมาะสมคลายปุ่มปมสมเจตด้วยเหตุผลสุดประเสริฐเลิศเช่นสมเป็นคนภัยจะพ้นแผ่นดิน...หญ้ายินดี*ภัยที่เกิดจากข้าวยากหมากแพง
ตกน้ำปุ๋มบุ๋มบ๋ำยังจำได้จึงตั้งใจมั่นคงต้องลงหัดสระจะลงแหวกว่ายใช่ท่าวัดอายส่วนสัดรัดรูปงามอยู่ครามครันอาบน้ำก่อนลงสระตามระเบียบแล้วเดินเลียบขอบสระระยะสั้นถอดเสื้อคลุมจากร่างวางลงพลันก่อนผลุนผลันกระโดดผลุงพุ่งลงน้ำกลั้นหายใจมุดน้ำตามอย่างเขาทำตัวเบาเหยียดขาเอาหน้าคว่ำตีขาขึ้นลงแบบที่แอบจำแต่เจ้ากรรมน้ำมาอยู่ในหูคนถีบขอบสระพุ่งร่างไปข้างหน้าเป็นลูกหมาตกน้ำสามสี่หนสำลักน้ำสามสี่ครั้งยังอดทนพยายามดิ้นรนจนลอยตัวถึงขั้นตอนต่อไปทำใจกล้าเหวี่ยงแขนขวาแขนซ้ายป่ายข้ามหัวพร่ำท่องอยู่ในใจว่าไม่กลัวรู้สึกตัวเบาเบาเราลอยไกลยังบังคับทิศทางค่อนข้างยากนี่ถ้าหากน้ำที่เล่นเป็นน้ำไหลแล้วเราปล่อยตัวเบาเราลอยไปคงถูกใครคว้าเว็บเก็บเงียบงำ"ของตามน้ำ" น่าฉงนหลายคนชอบเขามักลอบหยิบแวบแอบขม้ำหายวูบวับลับลมอมพะนำยากจะคลำธาราหาร่องรอยรู้กันเพียงนัยนัยใครมุบมิบแอบขยิบสัญญาณลับกับคนปล่อยชิ้นเล็กบ้างใหญ่บ้างมันช่างลอยร้อยทั้งร้อยมือคว้าไปเขาไม่อายอาศัยน้ำอำพรางได้บางส่วนสำนึกกวนอารมณ์ก็ข่มหายเราซ่อนร่างกลางน้ำตามสบายเอ๊ะ ! ความอายน้ำพรางได้อย่างดี
เหมือนเรือนร่างว่างเปล่าเขาไม่เห็นเหมือนกลายเป็นอากาศขาดคุณค่าเหมือนไม่มีความหมายในสายตายามจะไปไม่ลามาไม่ทักยังไม่มีทางออกนอกจากเจ็บแล้วกลืนเก็บอย่างอดทนจนกระอักสะอื้นไห้ในฝันวันหนักนักจนเกินกักเกินเก็บเจ็บทุรนเจ็บครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้หรือร้องไห้เสียน้ำตามากี่หนไม่ว่างเว้นเล่นบทผู้อดทนแต่หัวใจปี้ป่นทุรนทุรายถึงจะเจ็บกี่ครั้งยังเจ็บอีกไม่เคยหลีกหลบแม้ชั่วแผลหายรู้แต่ว่าจะทนจนตัวตายโดยไม่หมายสายตาที่ปรานีเหมือนยืนเป็นเป้านิ่งให้ยิงเล่นไม่หลบเร้นเว้นวรรคสักวันวี่เจ็บก็ร้องโอดโอย...โวยบางทีจนหลายปีผ่านไปใจยับเยินเจ็บเสียให้สาใจในชาตินี้จะเป็นผีก่อนแก่แต่เนิ่นเนิ่นจะได้จบความหลังที่บังเอิญหลงมาเดินร่วมทางอย่างโง่งม