ฟ้าอึมครึมทึมคล้ำดำมืดมิดท้องฟ้าปิดแน่นหนากว่าคราวไหนแม่เงยมองหลายครั้งระวังระไวกังวลใจหนักหน่วงในดวงตาลงมือเก็บมุ้งหมอนที่นอนเสื่อเก็บข้าวสารที่เหลือกับเสื้อผ้าบรรจุถุงกันน้ำตามตำราแหงนมองฟ้าอีกหลายครั้งเพราะกังวลชวนน้องกินมื้อเช้าราวสามครั้งน้องก็เอาแต่นั่งฟังสามหนแม่จึงต้องเก็บคำอย่างจำนนแต่กังวลยังเข้มเต็มหัวใจแม้จะเคยชินชากับหน้าฝนเคยผจญลมกล้าพายุใหญ่มิอาจหมิ่นธรรมชาติประมาทภัยต้องเตรียมใจเตรียมตัวกลัวให้พอแต่น้องยังไม่กลัวจึงมัวประเดี๋ยวลมพัดมาหวือเดียว...คว่ำหมดหม้อจึงรู้ว่าเรื่องด่วนไม่ควรรอเมื่อกลัวพอทุกคนจึงลนลานนั่งกอดต้นมะพร้าวสูงราวหัวมืดครึ้มทึมสลัวทั่วหย่อมย่านลมหมุนหอบใบไม้เป็นสายธารค่อยค่อยคลานเคลื่อนลำดำทะมึนเคลื่อนลำหมุนวุ่นวายอยู่หลายรอบจึงอุ้มหอบหลังคาพาลอยขึ้นตู้เสื้อผ้าเหมือนตึกอันบึกบึนวิ่งจนมึนเซซุนหมุนตามลมพอเห็นลมพังฝาหลังคาโหว่น้องร้องโฮหลายชุดด้วยสุดข่มเรายังนั่งนิ่งนิ่งใจดิ่งจมมะพร้าวล้มเกลื่อนกลาดพาดซ้อนทับชิ้นส่วนบ้านกระเซ็นกระเด็นว่อนต้องหลบซ่อนแข้งขาไม่กล้าขยับไม้เรียวฝนหล่นใส่หลังดังควับควับเกลียวคลื่นยักษ์โถมทับบ้านยับเยินน้้ำเริ่มนองท่วมขาขึ้นมาเข่าพอลมเบาเราโขยกขึ้นโคกเขินหลบภัยน้ำต้องหนีขึ้นที่เนินบุญเหลือเกินหนีทันพ้นอันตรายพายุเกย์เร่กวาดหาดทุ่งโล่งเพียงสองสามชั่วโมงแล้วขยายคืบคลุ้งเกลียวเลี้ยวลำไปทำลายกวาดตามรายทางผ่านบ้านถัดไปแม่ต้องคอยปลอบน้อง...อย่าร้องลูกบ้านพังเราจะปลูกขึ้นมาใหม่เราโชคดีมากมายยังหายใจมิมีใดล้ำค่ากว่าชีวิต
ยามชีวิตติดค้างกลางเพลงโศกน้ำตาโชกช่วยระบายคลายหม่นหมองการคร่ำครวญหวนไห้คล้ายครรลองเพื่อปลดปล่อยพิษผองแผลภายในแต่บาดแผลฉกรรจ์อันบอบช้ำจะครวญคร่ำร่ำนานถึงปานไหนหรือมากมายคำปลอบมอบจากใครช่วยเยียวยาแผลใจไม่ได้เลยมีแต่ตนเท่านั้นต้องฟันฝ่าด้วยปัญญาแห่งตนค้นเฉลยรู้เท่าทันชีวิตรู้คิดเอยอารมณ์เคยหดหู่รู้อดทนจึงจะก้าวพาตนให้พ้นผ่านทรมานก้าวถอยเป็นร้อยหนซึ่งต้องท่อง ซ้ำซ้ำ อย่าจำนนชีวิตคนมีหลายช่วงท่วงทำนองถึงอย่างไรต้องพ้นไปจนได้ทั้งต้องใช้ความกล้ามานำร่องความเข้มแข็งเป็นทุนคอยหนุนรองพ้นพิษผองเพลงโศก...โบกมือลายอมรับสภาพใหม่ใจเปล่าเปลี่ยวอยู่คนเดียวและสู้อย่างผู้กล้าตนเป็นหลักของตนบนมรรคาก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างท้าทาย
เราเป็นคนใช้ชีวิตติดขอบอ่าวจึงหลายคราวหลายคราพายุถล่มบางขณะ ผจญ ฝน คลื่น ลมหัวใจจมหล่มทรายทุรายทุรนยามลมแรงจริงจริงต้องทิ้งบ้านนั่งสะท้านกับทรายกลางสายฝนกอดต้นไม้ต้นเตี้ยเรี่ยหัวตนเป็นกันชนกันผล็อยลอยตามลมพยายามไม่ใกล้ต้นไม้ใหญ่มันล้มไวเวลาพายุขย่มบ้านก็อาจพังยับทับเราจมอยู่กลางลมกลางฝนพ้นอันตรายหลังพายุสงบพบเสมอคือน้ำเอ่อไหลหลากจากหลายสายเพียงชั่วยามน้ำท่วมหัวทั้งวัวควายคนมากมายติดเกาะเพราะจำเป็นถ้าหนีได้มีใครจะไม่หนีแต่บางทีหมดทางอย่างที่เห็นถึงติดแจแช่น้ำใช่ฉ่ำเย็นล้วนยากเข็ญเกินคำจะจำนรรจ์เมื่อมีภัยทุกครั้งหวังเพียงอยู่และจะสู้ต่อไปอย่างไม่หวั่นบ้านจะพังสวนล่มจมช่างมันได้อยู่กันพร้อมหน้าถือว่าดีทางจะถึงซึ่งหวังยังน้อยนิดยามชีวิตตายกับอยู่นั้นสูสีหมู หมา ไก่ ตะกายว่ายวารีสัตว์ยังมีโอกาสอาจลอยคอเราว่ายน้ำไม่เป็นเช่นหมูไก่จะพาตนพ้นภัยอย่างไรหนอจึงประดังกังวลทุรนรอกว่าสัตว์ที่ลอยคอ ทรมานใจระรัวตัวสั่นด้วยหวั่นหวาดไม่สามารถพาตนให้พ้นผ่านทักษะยังติดลบอ่อนประสบการณ์และขาดสัญชาตญาณการช่วยตน
หลัง "ลมเพลมพัด" สงัดนิ่งทะเลจริงวันนี้มีลมคลื่นเลิกนั่งเหงาเจ่าจุกลุกขึ้นยืนรู้สึกชื่นหัวใจกับไอเกลือย่ำทรายนุ่มบุ๋มบู๋ไปสู่แหล่งเก็บดอกแห้งสีชา หญ้าหนวดเสือ*นั่นดอกนี่ก็ดอกออกเหลือเฟือลงหาดเพื่อปล่อยทิ้งกลิ้งตามลมมันเขยกเขยกกลิ้งเราวิ่งแข่งผลัดกันแพ้ผลัดกันแซงสนิทสนมเป็นของเล่นมาตลอดยอดนิยมในสังคมเล็กเล็กเด็กทะเลแต่มีบ้างบางวัน "ปั่นจิ้งหรีด"**ส่งเสียงกรี๊ดเมื่อตัวหนึ่งถึงโผเผบ้างหาความตื่นเต้นเล่นเกเรด้วยการเตร่ไล่แหย่ แย้ลงรูพอมืดค่ำหาช่องย่องค่อยค่อยจับหิ่งห้อย น้อยใหญ่มาใส่ตู้ ***ปิดไฟจนมืดมิดปิดประตูแล้วนั่งดูแสงสลับวับวับวาวย้อนคำนึงถึงห้วงช่วงวัยหนึ่งก่อนวันถึงอ่อนไหวของวัยสาวเปลี่ยนจากของเคยเล่นเป็นดูดาวและเหน็บหนาวกับฝันในวันละเมอ* ชื่อพืชท้องถิ่นชายทะเล อ.ปะทิว จ.ชุมพร** จิ้งหรีดตัวเมียบางชนิดขี้หึงมาก ถ้าได้เกาะหลังคู่แล้วเป็นต้องกัดปีกตัวผู้ให้ขาด เพื่อไม่ให้ส่งเสียงเรียกสาวอื่นได้อีก*** หิ่งห้อยที่บินได้คือตัวผู้เพราะมีปีก ตัวเมียไม่มีปีกแต่มีแสงสว่างมากกว่าตัวผู้
มนุษย์คือผู้ที่มี "ความคิด"แล้วทดลองประดิษฐ์สิ่งแปลกใหม่อาจถูกผิดคิดทำอยู่ร่ำไปพร้อมแก้ไขปรับปรุงมุ่งพัฒนาทั้งเป็นผู้สั่งสม "อุดมคติ"ซึ่งดำริโดยผ่านการศึกษากำหนดเป็นครรลองของชีวาเพื่อตั้งหน้าเร่งรุดสู่จุดนั้นกับมีใจประเภทวิเศษสุดคือมนุษย์มีใจ "ความใฝ่ฝัน"ฝันอยากเป็นอยากได้ไว้ต่างกันหากช่วยเสริมสร้างสรรค์จรรโลงใจและยังมีพลังแฝง "แรงบันดาล "ก่อเกิดการสร้างงานที่ยิ่งใหญ่ทุ่มเทและอดทนจนก้าวไกลแม้เหนื่อยยากเพียงใดสู้ฝ่าฟันนี่คือความพิเศษสี่เหตุผลมีอยู่ในปุถุชนคนเต็มขั้นคนดีใช้คุณสมบัติอัศจรรย์เพื่อสร้างสรรค์ให้มีสิ่งดีงาม(นี่คือความพิเศษสี่เหตุผลมีอยู่ในปุถุชนคนเต็มขั้นคนชั่วใช้คุณสมบัติอัศจรรย์เพื่อเลือกสรรกระทำสิ่งต่ำทราม )เห็นคนดีสูงส่งจงยกย่องแต่ถ้ามองชั่วช้าก็อย่าหยามเพราะชั่วต่างจากดีที่นิยามซึ่งตีความรวนเรตามเวลา