คงมิใช่เพชรพลอยค่าร้อยล้านทำให้ใจเบิกบานหวามหวานได้สิ่งมิอาจตีค่า...ราคาใดก็ยิ่งใหญ่ในรู้สึก...เมื่อทึกทักแค่พูดเล่นนิดนิดว่า...."คิดฮอด"ใจก็กอดไว้ในอ้อมถนอมหนักเหนี่ยวไว้อย่างเหนียวแน่นหวงแหนนักเพื่อพิงพักตักตวงทวงอุ่นไอตวงตักวักเอาอุ่น...กระตุ้นฝันอิงอุ่นตักผลักดันความฝันใฝ่แอบอุ่นค้ำจุนหวัง...กำลังใจอบอุ่นไอเมตตาเกื้อการุญอาจเป็นอุ่นอันชูความรู้สึกก่อนหล่นลึกเพราะใจขาดไออุ่นอาจเป็นไอคิดถึงซึ่งทรงคุณเป็นใบบุญโอบอุ้มคุ้มชีวิตเป็นพลังอุ่นเอื้อเหนือทุกอย่างอุ่นมิเพียงเคียงข้างอย่างสนิทแต่ล้ำค่า ในรู้สึก ความนึกคิดหากในจิต ลึกลึก...รู้สึกรัก
ทำห้าแต้มแถมหน้าแตกแต่แรกเขียนได้ร่ำเรียนจึงรู้พอกู้หน้าพอมีแสงเรืองรองฉายส่องมาช่างเมตตาอุตสาหะเจียระไนแม้จะเป็นเพชรดี...ไม่มีช่างจะสว่างสวยสะได้ไฉนเหมือนเศษหินชิ้นมัวทั่วทั่วไปความสำคัญอันใดย่อมไม่มีถึงเป็นชิ้นหินสี...ช่างดีเลิศก่อให้เกิดหลากหลายประกายสีคุณค่าเปรียบเทียบทันอัญมณีคือความดีแห่งช่างผู้สร้างมาจะจารึกชื่อเสียงอยู่เคียงเพชรเป็นก่องเก็จเลิศเลอเสมอหน้าจะเป็นตราประทับกับศิลาบอกนามาช่างฝีมือคือรางวัลสำคัญเท่าเทียบช่าง...สร้างเพชรหรูปวงกวีมีครูเป็นผู้ปั้นยังมีเพชรมีพลอยอีกร้อยพันรอคอยวันเป็นมณี...มีราคาเรียงร้อยถ้อยคำพูด สูตรสำเร็จในนามเพชร แทนพลอย จากดอยป่าที่กองโต เท่า ภูเขาเลากา*ร้อยเป็นพวงมาลา...บูชาครู* เป็นคำพูดของอาจารย์ว่ามีจดหมายรอให้อาจารย์ตอบกองเป็นภูเขาเลากา ในช่วงที่การติดต่อต้องพึ่งพาจดหมาย
เสมือนความเสรีมิมีขอบใครจึงชอบอิงเสรีแบบจี๋จ๋าเสรีในชีวิต ผิดธรรมดาหรือเสรีใจ ไขว่คว้า ประสาใจเสรี อันเสรี ที่แสนหวานที่ตนปองต้องการประมาณไหนขอบเขตของเสรี อยู่ที่ใดเคยกำหนด หรือไม่ ใดเสรีเสรีในดวงจินต์ บินลับหรือเสรีมือ ใครขึง ตรึงกับที่ความเสรีที่ปาก หากพูดดีคำหวานหอม ย่อมมีเสรีคำคุณค่าแห่งเสรีต้องมีกรอบทุกความชอบมีระดับนับสูงต่ำความเสรีที่คน วันฝนพรำวันพายุ กระหน่ำ ทำต่างกันเปิดเสรีที่ใจ ให้ใหญ่กว้างหาเหตุสิ่งอิงอ้างอย่างสร้างสรรค์เสรีในต่างแง่ ในแต่ละวันมิเหมือนกันในเมืองฟ้ากับป่ารกต้นแบบเสรีในสมัยกรีกเสรีซีกโลกฝันตะวันตกเสรีตรง กับตัวแทนแม้นหยิบยกอาจเถียงถก กันได้หลายประเด็นอันขอบเขตเสรี มีธรรมชาติอีกบทบาทสังคมตรมทุกข์เข็ญสภาพใช้ชีวิต รู้ คิดเป็นเสรีไทยใจเย็นเย็น...คอยเป็นเสรี
เจ้านกน้อยเกาะนิ่งบนกิ่งน้อยจนกิ่งห้อยย้อยก่งลงน้ำหนักแต่ดูเหมือนนกนั้นเชื่อมั่นนักมิกลัวกิ่งไม้หักเลยสักครานกมิได้วางใจในกิ่งไม้แต่นกใช้สองปีกหลีกปัญหาเหมือนเช่นคนเชื่อมั่นในปัญญาเป็นปีกพาป้องตนให้พ้นภัยกิ่งสัมพันธ์ ฉัน-เธอ เสมอก้านถ้าหากเหนี่ยวนานนานทานอยู่ไหมหรือฉันควรริอ่านเชื่อก้านใบหรือติดปีกหัวใจ ในตนเอง........................................"เป็นนกน้อยเคียงคู่ดูไม่จืดแม้ค่ำมืดยังอยู่ดูเหมาะเหม็งตีสามกว่าติดปีกร้องบรรเลงอย่ากริ่งเกรงเรื่องก้านยังทานทน".....ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ในเรื่องของน้ำจิตมิตรสัมพันธ์ความเชื่อมั่นนั้นใจไม่สับสนคือเชื่อในน้ำมิตรแห่งจิตตนดุจปีกคู่อยู่ทนบนหัวใจ
อ่านตำราวิชาใดเข้าใจได้ตำราให้ข้อสังเกตและเหตุผลแต่วิเคราะห์รู้สึกในหัวใจคนมักมืดมนจนเราเกินเข้าใจพยายามศึกษาคว้าน้ำเหลวดังตกเหวดิ่งลงห้วงสงสัยหรือ รู้สึกลึกเร้น เป็นอจินไตยมิควรใครค้นคว้าหาความจริงเพราะมิมีวันใดเข้าใจกระจ่างความแคลงคลางบางที มี แต่นิ่งฟ้ากระจ่างพรางมัวสลัวอิงทุกสิ่งอันปรากฎเช่น บทละครแม้โลหะจะแข็งแกร่งที่สุดหากพรางจุดวัตถุที่ผุกร่อนมิปรากฎแจ้งชัด เหมือนตัดตอนด้วยคำว่า "ถาวร"หลอกหลอนเราซึ่งมีอยู่ คู่มา ธรรมดาโลกทั้ง สุข โศก โชค เคราะห์ เกาะแฝงเฝ้ามีสีสวย สว่าง คล้ำ สีดำ เทาและมีเงารางรางข้างรูปทรงเพื่อเตือนตาผู้ดูให้รู้คิดยามปล่อยจิตติดในความใหลหลงทุกรูปมีเงางำอันดำรงอยู่ข้างเคียงเที่ยงตรงและยงยืนยามอยู่ในวังวนของคนเขลาอาจมัวเมายึดติดชีวิตชื่นแบ่งสักเสี้ยวสุขสันต์ของวันคืน"บนความตื่นรู้หนึ่ง พึงระวัง"