ยิ้มอิ่มแก้มแย้มยั่วทั่วลานบ้านส่งเสียงหวานอ่านกลอนท่อนสั้นสั้นที่เพิ่งแต่งวิบแวบแบบทันควันบทประพันธ์ชื่อ "เคลิ้ม" เริ่มถักทอ"เธออุทธรณ์หรือเปล่า เราฉงนเราเป็นคนจงใจหรือไรหนอใครจะตั้งจุดประสงค์ได้ลงคอทำอี๋อ๋อพอเคลิ้มเริ่มที่ใครหรือว่าเราพลั้งเผลอทำเธอเคลิ้มมิรู้เริ่มคดีนี้ตรงไหนแล้วที่เรานั่งยิ้มอย่างอิ่มใจเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครหนอทำหรือว่าเป็นเพราะเธอเผลอร่วมด้วยหรือเราช่วยคนละครึ่งจึงน่าขำแบ่งเท่าเท่า เจ๊ากันไปไม่ต้องจำแค่ลำนำคำว่า เคลิ้ม เริ่มลีลา "แย้มแก้มอิ่มยิ้มหยอกดอกกล้วยไม้ซึ่งอยู่ใกล้ "พุทธชาด วาสนา""กาซะลอง" มองเห็น แอบเล่นตา"พระเจ้าห้าพระองค์" งงกับเรายิ้มอิ่มแก้มแต้มใจไหวระรื่นเหมือนมีคลื่นกรุ่นกรุ่นไออุ่นเป่าโลกแสนสวยอวยพร่างลมบางเบามิอยากเดาว่า"เคลิ้ม " เพิ่มอีกคน( ขอบคุณ ค่ะ คุณคนกรุงศรี ที่กรุณาคอมเมนต์ว่าเมากับเคลิ้ม ไม่เหมือนกัน ฉันจึงตัดข้อความในวงเล็บออกค่ะ)
"อ่านแล้วก็จะทานอ่านซ้ำอีกจะอ้อมซีกภูเขาก็เหมาอ่านจะคงความเพลิดเพลินอีกเนิ่นนานสมเป็นงานที่อดทนของคนแปล"แม้นิทานจะสนุกก็ฉุกคิดจนค้างติดจิตใจในหลายแง่โชคไม่เคยมาหา ถ้าอ่อนแออย่ายอมแพ้ ถ้ายัง หวังโชคดลการทำนายทายทักด้วยตรรกศาสตร์สร้างบทบาทของเจ้าหญิงอิงเหตุผลมิใช่ใช้วิชามายากลแต่ต้องใช้ความอดทนของคนจริงและต้องมีเวลามาเกี่ยวข้องตามครรลองโลกสร้างวางทุกสิ่งเพราะชีวิตเดินทางต้องอ้างอิงมิหยุดนิ่ง ในมือ คือเวลาการละเลยสัญญา ปัญหาเกิดผู้ละเมิดต้องรับผล จนคุ้มค่าเมื่อตอนจบของนิทานผ่านสายตาส่วนที่เหลือ ค้างคา มาเป็นกลอน
ดูราว "ต้นผูกพัน"มีปัญหาใบโรยราคาต้นจนเฉาหงอยแม้ตั้งใจใส่ปุ๋ย ดินรุ่ยซอยแต่ยังเหมือนเลื่อนลอยมิค่อยโตมีคนติงว่าปลูก "ผูกพัน" ชุ่ยดินฤดีมิมีปุ๋ยอย่างคุยโอ่แม้เป็นคำกล่าวหาเพราะพาโลมิอาจโต้คำค่อนที่หลอนใจมิสามารถอาจหาสาเหตุแน่คงมีแต่พะวงคิดสงสัยและลังเลเทกลับสลับไปทั้งห่วงใยใบผูกพันอันโรยราหรือพื้นดินในฤดีนี้ไม่เหมาะที่จะเพาะ "ผูกพัน" อันมีค่าใบซีดเซียวเหี่ยวหมองฟ้องสายตาจึงกังวลจนล้าคาผูกพันจะต้องทำอย่างไร ถอดใจหรือใจก็ดื้อ จะถนอม มิยอมบั่นจะทนปลอบหัวใจไปวันวันแม้กังวลจนฝัน "ผูกพันฟื้น"แต่ถ้าหากยังคง "ทรงกับทรุด"คงมิหยุดกังวลจนขมขื่นใจยังปลูก "ผูกพัน" ทุกวันคืนแม้ต้องยืนระแวดระวังกับกังวล
สาวตาคมผมยาวผิวขาวนวลร่างสมส่วนธรรมดาประสาหญิงการศึกษาพอมีดีกรีอิงไม่อยู่นิ่งนอกจากตอนนอนและเมาฉันร่าเริงแจ่มใสด้วยวัยฝันสิ่งแต่งปั้นฉันมาคือป่าเขามีทะเลหาดสวยช่วยกล่อมเกลาฉันอ่อนเยาว์ด้วยเหตุนั้นเมื่อวันวานจึงยามตื่นคืนวันสร้างฝันสวยใจร่ำรวยอวยพาสายตาหวานปลื้มดื่มด่ำธรรมชาติวาดวิมานเคียงเงื่อนงำตำนานบ้านป่าดงฟ้าลิขิตชีวิตง่ายกลับกลายวุ่นชะตานำกรรมหนุนบุญเสริมส่งต้องเซซัดพลัดพรากจากไพรพงถิ่นดำรงชีวันพลันเปลี่ยนแปลงเริ่มทำงานครั้งแรกแผกใครเขาคือรับเหมามากมายหลายตำแหน่งด้วยเหตุผลจนถ้อยร้อยชี้แจงแค่แสดงสถานภาพทราบกันดี"เป็นครู ผู้บริหาร ลูกหลานเจ้าของ"มุมการมองจึงมากจากหน้าที่มุมปฏิบัติมากมายหลายเท่าทวีมุมการอ่านยิ่งต้องมีทุกวี่วันเวลาบ้านิทานจึงกว้านซื้อทั้งไทยเทศติดมือซื้อไม่อั้นบทกวีซีไรต์เรียงในชั้นอีกนิยายขายฝันฉันซื้อมาวิชาเกินวิชาการอ่านไปทั่วจนความรู้ท่วมหัวมั่วไปหน้าแต่เป็นความรู้ งูงูปลาปลาใช้ทำยา อะไร มิได้เลย
ท้องทะเลถิ่นเกิดกาย "สาหร่ายน้อย"เธอล่องลอยเขียวขจีมีกิ่งก้านทุกสิ่งเอื้ออำนวยสวยสะคราญประดุจดอกไม้บานตระการตาเหล่ามัจฉาเวียนว่ายด้วยหมายมาดหว่านเสน่ห์เล่ห์สวาทปรารถนาแต่สาหร่ายเมินเลยและเฉยชามินำพาปลาที่เฝ้าพะเน้าพะนอเจ้าหลงใหลใฝ่ปองมองเกลียวคลื่นเผลอชมชื่นคลื่นเห็นจึงเล่นล่อและเมื่อสายสัมพันธ์นั้นมากพอสาหร่ายรอคลอคลื่นทุกคืนวันเกลียวคลื่นห่างร้างไปใจหงอยเหงาคลื่นคลอเพียงเบาเบาเริงร่าฝันจะอยู่คู่คลื่นหล่อคลอนิรันดร์ทะเลแม้นแดนชั้นสวรรค์วังตระหนกตื่นคลื่นจัดซัดถาโถมสาดครืนโครมสาหร่ายน้อยลอยติดฝั่งใจร้ายจริงทิ้งไปไม่อินังรีบไหลลื่นคืนยังทะเลไกลสาหร่ายกองท่าวทบซบชายหาดน้ำตาหยาดครวญคร่ำร่ำโหยไห้อยากคืนยังถิ่นเก่าแต่เยาว์วัยต้องจำใจอยู่ตรงนั้นคลื่นบัญชาคลื่นไม่เคยเหลียวมองแม้ร้องร่ำเจ้าต้องทำหัวใจให้กร้านกล้ารับชายหาดที่อยู่คู่ชีวาแล้วเปลี่ยนสีกายาเป็นน้ำตาลสิ่งแวดล้อมบังคับต้องปรับตัวถึงมืดมัวสู้ต่อไปใจอาจหาญชีพจะอยู่ยืนยาวนานเท่านานอยู่ที่การปกป้องประคองตนทั้งกายใจฝึกฝนให้ทนทานเจ้าก็สวยสะคราญได้อีกหนเป็นกฎเกณฑ์ธรรมดาในสากลการดิ้นรนผจญกรรม ธรรมดาวันนี้เกลียวคลื่นเดิมเริ่มมาใกล้เริ่มลองใช้ลิ้นเล่ห์เสน่หาหากรู้เช่นเห็นชาติ มาดมายาที่ยังคงติดตา คาติดใจจะละทิ้งชายหาด อาจมิง่ายแม้สาหร่ายยังมิลืมปลื้มคลื่นไหลหากชีวีมีแต่ แค่ก้าวไปชีวิตใครใดทวนหวนย้อนรอยเรื่องสาหร่าย เกลียวคลื่น และผืนทรายใช่เขียนเล่นเป็นนิยายให้ละห้อยเราก็คล้ายสาหร่ายได้ล่องลอยเกยชายหาดมิอาจถอย...ลอยทะเล