ทอดกายลงหนุนหมอนตอนตีหนึ่งวูบคิดถึงความหลังครั้งเก่าเก่าย้อนคืนช่วงล่วงเลยเคยมีเราคุยเบาเบาอย่างผู้รู้จักใจเอื้ออาทรอ่อนโยนและโอนอ่อนกล่อมให้นอนอย่างอดทนจนหลับใหลแต่ค่ำคืนวันนี้ไม่มีใครจะนอนหลับอย่างไรฉันใดดีแม้ว่าที่ข้างข้างจะว่างเปล่าภาพเก่าเก่าความเคยชินกลิ่นกายพี่ไออุ่นอุ่นกอดเกยอันเคยมีความทรงจำเหล่านี้ไม่มีจางเพราะเป็นพรอ่อนหวานที่ขานขับให้นอนหลับนานจนชนสว่างให้ตอนตื่นชื่นฉ่ำราวน้ำค้างให้รู้สึกโลกกว้างช่างสวยงามคืนนี้อยู่ดายเดียวเปลี่ยวและเหงาภาพเก่าเก่าขับขานยังหวานหวามใจยังอยากละเมอเผลอไผลตามช่วงงดงามยามมีพี่ให้พรจะฝันว่านอนหลับกับอกอุ่นและนอนหนุนท่อนแขนแทนหนุนหมอนทั้งยังมีตัวพี่เป็นที่นอนเพื่อเป็นพรที่พา....นิทรารมณ์
จากบ้านเรือนเพื่อนพ้องและน้องพี่ด้วยฝันที่สวยหรูของผู้หญิงอนาคตเริ่มต้นพึ่งตนจริงและแอบอิงพิงพึ่งเพียงหนึ่งชายชายที่บอกว่ารักอย่างหนักแน่นไม่คลอนแคลนเบาหวิวปลิวสลายเป็นร่มบังแดดฝนไปจนตายให้เราอยู่สุขสบายทั้งกายใจเป็นกระต๊อบไร้ฝาเพิงหมาแหงนมีความรักเหนียวแน่นก็อยู่ได้ขาดฝาหลังคาพรุนก็อุ่นไอเพราะหลังคาฝาหัวใจคือไอรักจะอยู่เย็นเป็นสุขทุกสถานดุจวิมานเทวัญอันทรงศักดิ์หรูหราสง่าสวยด้วยใจภักดิ์คำว่า"บ้าน" ที่รู้จักชักเปลี่ยนนัยความหมายของบ้านเรีอนไม่เหมือนเก่ายามมีเขาข้างกายคล้ายบ้านใหญ่ยามขาดเขานานนานบ้านเหงาไปคำว่าบ้านในใจเหมือนไม่มีคำว่าบ้านจึงไม่ใช่แค่ไม้ฝากับหลังคาประตูมีมู่ลี่บ้านคือที่เราได้ใช้ชีวีฉันสามีภรรยามาด้วยกัน
เมือ่ความรักทักทายมักขายฝันว่าคงมั่นวันไหนก็ไม่เปลี่ยนความโลเลเสแอบไว้แนบเนียนในบทเรียนแรกรักมักสวยงามพอเดินผ่านบานประตูความรู้แรกรักเพิ่มแฉกแรกมองเป็นสองสามให้รู้สึกหลายหลากอยากติดตามตั้งคำถามมากมายเป็นรายวันบางครั้งหวั่นบ่อยครั้งไหวเริ่มไม่เหมือนบ้างก็เจื่อนบ้างก็เจิมเพิ่มสีสันบ้างก็เชื่อนิทานรักหวานนิรันดร์บ้างรู้ทันว่ารักมักร้าวรานช่วงที่รักไม่เปลี่ยนอาจเอียนหน่อยกินหวานบ่อยบ่อยเกินเชิญเบาหวานรักออกรสตรงหมดรสน้ำตาลกลายขมปานยาดำตอนช้ำรักจึงบางคนร้องไห้หลายหลายหนอีกหลายคนเพ้อพกยามอกหักใครที่ขมอมหวานเนิ่นนานนักจะรู้จักรักจริงยิ่งกว่าใครความรักจะคงอยู่คู่กับโลกคู่กับสุขคู่กับโศกอย่าสงสัยรักที่ยังยึดติดเป็นพิษภัยรักที่ให้เรื่อยไปใจสบาย
วันนี้อยากส่งข่าว "อ่าวบางสน"
หลังจากฝนตกปรอยนั้นคล้อยผ่าน
หลัง "ละครยกเมฆ" เขยกคลาน
ไม่นานลมเพลมพัดซัดหัวซุน
นั่งไม่ติดยืนไม่อยู่สู้ไม่ไหว
จึงปล่อยใจกลมกลืนกับคลื่นหมุน
จนหัวทิ่มหัวตำคะมำดุน
ทุกอย่างช่างชุลมุนชุลเก
เจ้าปูเปี้ยวเลี้ยวงงตรงทรายซัด
แต่ปูลมรอบจัดลัดเตร็ดเตร่
หอยแครงแกล้งกลิ้งกับปลิงทะเล
เรือตังเกเล่นตลกไปตกปู
เจ้าปลาหมึกตัวน้อยว่ายถอยหลัง
แต่แมงดาน่าชังเจ้าตัวผู้
ขี่หลังเมียหลิ่วตาให้ปลาทู
ปลากระบอกว่ายอยู่คู่โลมา
แมงกะพรุนหมุนหนวดหวดสาหร่าย
กุ้งแหวกว่ายแถวถิ่นปลาลิ้นหมา
ปูฤาษีซุกทรายส่ายลูกตา
หอยปากอ้าอ้าปากตากคลื่นลม
ลมพัดลมเพทะเลวิปริต
เราเมามายใกล้ชิดสนิทสนม
คล้ายเคยเยือนเหมือนผ่านมานานนม
หรือโลกกลมกลิ้งดุนเราหมุนคืน
ตัวอักษรหลอกตาโตกว่าเก่า
หรือตอนเขียนตัวเรายังเมาคลื่น
ไม่รู้ว่าตนยังนั่งหรือยืน
หรือล้มลื่นไปสะดุดตรงจุดใด
ฉันจะลงไปอ่านนานนานครั้งทวนความหลังครั้งวัยไร้เดียงสาอาจเคยอ่านหรือไม่เคย...เลยค้างคาจึงเอ้อเอ้ออ้าอ้าว่าไม่รู้อยากให้วันหวนย้อนตอนไม่สายวันทรายมีรอยสลักอักษรอยู่และมีฉันบังเอิญเดินอ่านดูอาจรับรู้ทั้งหมดและจดจำความรู้สึกดีดีมีความหมายแต่วันนี้เกินสายบ่ายจนค่ำฉันก็ยังรับปากและอยากทำด้วยรู้สึกลึกล้ำอันจำเป็นเธอบอกว่าเขียนไว้บนชายหาดซึ่งเธอคาดและฝันว่าฉันเห็นฉันจึงเดินหาไปอย่างใจเย็นอยากให้เป็นอย่างคำเธอจำนรรจ์บนชายหาดสีชาฉันหาแล้วเสียงเธอแว่วยังอยู่ในหูฉัน"ความรักยังคงทนจนปัจจุบัน"ข้อความนั้นจึงคงทนอยู่บนทรายคลื่นเวลามาสาดไม่อาจซัดคงคมชัดเรื่อยไปไม่สูญหายยังชัดเจนในหูไม่รู้วายและไม่มีวันสลายจากสายตา