เราเป็นคนใช้ชีวิตติดขอบอ่าวจึงหลายคราวหลายคราพายุถล่มบางขณะ ผจญ ฝน คลื่น ลมหัวใจจมหล่มทรายทุรายทุรนยามลมแรงจริงจริงต้องทิ้งบ้านนั่งสะท้านกับทรายกลางสายฝนกอดต้นไม้ต้นเตี้ยเรี่ยหัวตนเป็นกันชนกันผล็อยลอยตามลมพยายามไม่ใกล้ต้นไม้ใหญ่มันล้มไวเวลาพายุขย่มบ้านก็อาจพังยับทับเราจมอยู่กลางลมกลางฝนพ้นอันตรายหลังพายุสงบพบเสมอคือน้ำเอ่อไหลหลากจากหลายสายเพียงชั่วยามน้ำท่วมหัวทั้งวัวควายคนมากมายติดเกาะเพราะจำเป็นถ้าหนีได้มีใครจะไม่หนีแต่บางทีหมดทางอย่างที่เห็นถึงติดแจแช่น้ำใช่ฉ่ำเย็นล้วนยากเข็ญเกินคำจะจำนรรจ์เมื่อมีภัยทุกครั้งหวังเพียงอยู่และจะสู้ต่อไปอย่างไม่หวั่นบ้านจะพังสวนล่มจมช่างมันได้อยู่กันพร้อมหน้าถือว่าดีทางจะถึงซึ่งหวังยังน้อยนิดยามชีวิตตายกับอยู่นั้นสูสีหมู หมา ไก่ ตะกายว่ายวารีสัตว์ยังมีโอกาสอาจลอยคอเราว่ายน้ำไม่เป็นเช่นหมูไก่จะพาตนพ้นภัยอย่างไรหนอจึงประดังกังวลทุรนรอกว่าสัตว์ที่ลอยคอ ทรมานใจระรัวตัวสั่นด้วยหวั่นหวาดไม่สามารถพาตนให้พ้นผ่านทักษะยังติดลบอ่อนประสบการณ์และขาดสัญชาตญาณการช่วยตน
หลัง "ลมเพลมพัด" สงัดนิ่งทะเลจริงวันนี้มีลมคลื่นเลิกนั่งเหงาเจ่าจุกลุกขึ้นยืนรู้สึกชื่นหัวใจกับไอเกลือย่ำทรายนุ่มบุ๋มบู๋ไปสู่แหล่งเก็บดอกแห้งสีชา หญ้าหนวดเสือ*นั่นดอกนี่ก็ดอกออกเหลือเฟือลงหาดเพื่อปล่อยทิ้งกลิ้งตามลมมันเขยกเขยกกลิ้งเราวิ่งแข่งผลัดกันแพ้ผลัดกันแซงสนิทสนมเป็นของเล่นมาตลอดยอดนิยมในสังคมเล็กเล็กเด็กทะเลแต่มีบ้างบางวัน "ปั่นจิ้งหรีด"**ส่งเสียงกรี๊ดเมื่อตัวหนึ่งถึงโผเผบ้างหาความตื่นเต้นเล่นเกเรด้วยการเตร่ไล่แหย่ แย้ลงรูพอมืดค่ำหาช่องย่องค่อยค่อยจับหิ่งห้อย น้อยใหญ่มาใส่ตู้ ***ปิดไฟจนมืดมิดปิดประตูแล้วนั่งดูแสงสลับวับวับวาวย้อนคำนึงถึงห้วงช่วงวัยหนึ่งก่อนวันถึงอ่อนไหวของวัยสาวเปลี่ยนจากของเคยเล่นเป็นดูดาวและเหน็บหนาวกับฝันในวันละเมอ* ชื่อพืชท้องถิ่นชายทะเล อ.ปะทิว จ.ชุมพร** จิ้งหรีดตัวเมียบางชนิดขี้หึงมาก ถ้าได้เกาะหลังคู่แล้วเป็นต้องกัดปีกตัวผู้ให้ขาด เพื่อไม่ให้ส่งเสียงเรียกสาวอื่นได้อีก*** หิ่งห้อยที่บินได้คือตัวผู้เพราะมีปีก ตัวเมียไม่มีปีกแต่มีแสงสว่างมากกว่าตัวผู้
มนุษย์คือผู้ที่มี "ความคิด"แล้วทดลองประดิษฐ์สิ่งแปลกใหม่อาจถูกผิดคิดทำอยู่ร่ำไปพร้อมแก้ไขปรับปรุงมุ่งพัฒนาทั้งเป็นผู้สั่งสม "อุดมคติ"ซึ่งดำริโดยผ่านการศึกษากำหนดเป็นครรลองของชีวาเพื่อตั้งหน้าเร่งรุดสู่จุดนั้นกับมีใจประเภทวิเศษสุดคือมนุษย์มีใจ "ความใฝ่ฝัน"ฝันอยากเป็นอยากได้ไว้ต่างกันหากช่วยเสริมสร้างสรรค์จรรโลงใจและยังมีพลังแฝง "แรงบันดาล "ก่อเกิดการสร้างงานที่ยิ่งใหญ่ทุ่มเทและอดทนจนก้าวไกลแม้เหนื่อยยากเพียงใดสู้ฝ่าฟันนี่คือความพิเศษสี่เหตุผลมีอยู่ในปุถุชนคนเต็มขั้นคนดีใช้คุณสมบัติอัศจรรย์เพื่อสร้างสรรค์ให้มีสิ่งดีงาม(นี่คือความพิเศษสี่เหตุผลมีอยู่ในปุถุชนคนเต็มขั้นคนชั่วใช้คุณสมบัติอัศจรรย์เพื่อเลือกสรรกระทำสิ่งต่ำทราม )เห็นคนดีสูงส่งจงยกย่องแต่ถ้ามองชั่วช้าก็อย่าหยามเพราะชั่วต่างจากดีที่นิยามซึ่งตีความรวนเรตามเวลา
ก้าวมาเป็นน้องใหม่ thaipoemหัวใจเต็มด้วยตั้งหวังและหวั่นหวังจะอยู่ร่วมบ้านสานสัมพันธ์แต่หวั่นหวั่นว่ากลอนจะอ่อนเชิงอาจจะเป็นแกะดำประจำบ้านมาล้มลุกคลุกคลานบ้านยุ่งเหยิงกลัวจะอยู่ไม่กี่วันขวัญกระเจิงจนค้างเติ่งเอิงเอยต้องเอ่ยลาขอบคุณทุกน้ำใจเอื้อไอรักทายทักสม่ำเสมอยามเจอหน้าจนรู้สึกเต็มตื้นชื่นชีวาจะจดจำเมตตาจารึกใจมิรู้จักมักคุ้นแต่อุ่นรักด้วยทายทักทุกคราที่มาใกล้อยากจะฝากกลอนกานท์นี้ผ่านไปว่าซึ้งในน้ำจิตมิตรไมตรีมีมากมายที่น้องใหม่ยังไม่รู้หมายพึ่งครูผู้การุณย์คือรุ่นพี่จะตักเตือนติติงก็ยิ่งดีแต่อย่าตีแรงแรงด้วยแกล้งเมินเพราะจะเจ็บจนไม่กล้าบากหน้าอยู่จะหดหู่อึดอัดและขัดเขินแค่ไม่ทักไม่ทายก็อายเกินถ้าถึงเมินคงสลดหมดเรี่ยวแรง
มีดอกไม้สวยซึ้งเพียงหนึ่งดอกบานเต็มซอกธรณีที่หวงแหนไม่เหลือที่ให้ออกดอกอื่นแทนในดินแดนล้อมรั้วแห่งหัวใจปล้ำปลูกมาเนิ่นนานผ่านหลายหนาวตั้งแต่คราววัยฝันอันอ่อนไหวทั้งพรวนดินรดน้ำมาตามวัยธรณีใจทั้งซอกมีดอกเดียวจะโรยราอย่างไรเต็มใจหอมจะดมดอมเหมือนเดิมแม้เริ่มเหี่ยวยังรู้สึกเคลิ้มเคลิ้มเหมือนเดิมเชียวแต่ผูกพันฟั่นเกลียวแน่นเหนียวนักด้วยอารมณ์ซุกซ่อนอันอ่อนหวานด้วนทนทานแดดฝนจนประจักษ์ด้วยสวยสดงดงามของความรักจึงทึกทัก * ปักใจในดอกไม้จงดำรงทรงศักดิ์และทรงสิทธิ์ **สิงสถิตถือครองอย่างผ่องใสมิอุทธรณ์กล่าวหาฎีกาใดเป็นเจ้าของหัวใจไปนิรันดร์* ถือเอาเป็นจริงเป็นจัง**ให้คงอยู่อย่างมีอำนาจและอำนาจนั้นเป็นอำนาจอันชอบธรรม