พิมพ์ลายนิ้วมือ ........แล้วลงลายชื่อ.......เดินเข้าคูหาเขียนกากบาท........กระดาษที่กา......อาจออกลีลา.....อย่างหนึ่งอย่างใดคาถาข่มขวัญ........กฎหมายลายยันต์........เข้มขลังแค่ไหนเจ้าผีกระดาษ.......อำนาจเกินใคร.......ป้องกันอย่างไร.....อาจอวดลวดลายแม้พร่ำกำราบ.....แม้ห้ามปรามปราบ .........อย่างไรไม่หายอาจล้ำลึกเล่ห์.......หลากเพทุบาย.....ลีลาแยบคาย.....ยิ่งขึ้นทุกทีลายมือชื่อลง......แม้จะประสงค์......กำราบปราบผีออกอาละวาด......ปีศาจถือดี......อาจสรรวิธี....แหกตาคามือยิ่งคนหยามเหยียด.....สังคมรังเกียจ.....เจ้าผีขี้ดื้ออาจยิ่งอดทน......ยิ่งคนเล่าลือ.......ยิ่งเหมือนกระพือ.....ปลุกผีมีไฟยิ่งปราบยิ่งเหลือ.....สืบสายขยายเชื้อ.....แตกแถวแนวใหม่เหมือนคาคู่ดิน.....มิสิ้นหมดไป.....จ้ำจี้จ้ำไช.....ปราบยากปราบเย็นยิ่งหยัดยัดเยียด....เป็นตัวเสนียด....ยิ่งห้ามยิ่งเห็นลงทัณฑ์ฟันฟาด....ถึงขาดกระเด็น.....จะฟื้นคืนเป็น....ต้นหญ้ามหาภัยขุดรากถากถอน......กำจัดตัดตอน.....ตั้งหลักผลักไสยังงอกออกเด่น....เป็นต้นเป็นใบ......ปราบเมื่อยเหนื่อยใจ....อดทนต้นคาคาถิ่นคาทุ่ง....คาไทยทั้งกรุง.....คาแดนแน่นหนาคาดินระแหง....คาแล้งนานา....คาหูคาตา.....คาราคาซังกำราบกี่เที่ยว....หายประเดี๋ยวเดียว....รากเหง้าเจ้าฝังใต้ทุ่งใต้ถิ่น....ใต้ดินแห้งกรัง.....ฤดูเลือกตั้ง.....แตกหน่อกอโต
เธอคือหนึ่งประโยคในโลกฝันที่มิผันจากใจไปเป็นอื่นที่อยู่ยงคงกระพันทุกวันคืนที่ยั่งยืนอยู่กับตัวชั่วเนิ่นนานคือเสียงเพลงนุ่มนวลชวนเพ้อฝันปลุกชีวันสะกิดพาชีวาหวานกล่อมหัวใจไหวอ่อนด้วยกลอนกานท์ที่วิญญาณพะวงคล้ายหลงเมาคือความรู้สึกพิเศษไร้เหตุผลที่มีมนต์ชะงัดคอยปัดเป่าความทุกข์โศกมหันต์นั้นทุเลาให้ใจเราสบายคลายทรมาคือความหวานความขมที่ถมอยู่ให้รับรู้อารมณ์จินต์ถวิลหาให้ทุกข์บ้างสุขบ้างบางเวลาคือวันหน้า ที่รู้ดี ไม่มีวัน
เริ่มรักร้อยถ้อยถักสร้อยรักร้อยด้วยทิพย์ถ้อยอ่อยเหยื่อหวานเหลือหวานคงคมคำค่อยค่อยข่มอ้อยตาลกลายเป็นชานอ้อยชืดรสจืดจางทุกวลีที่ร้อยสร้อยพิเศษอาจซ่อนเลศซ่อนนัยใดมาบ้างเพียงประพายประพิมพอชิมลางเพื่อจะวางเงื่อนงำด้วยคำกลอนระมัดระวังหัวใจในยามอ่านเกรงติดหวานเร็วไปเพราะใจอ่อนหลงลุ่มหลงรสชาติอาจร้าวรอนจนยากถอนตัวตนจากมนตราราวมิเคยเอ่ยคำทำนองฝันเพ้อรำพันปั้นกลอนมาก่อนหน้าสวมสร้อยให้ใครบ้างหว่างมรรคาเหลือใจมาร้อยรัก...สักเท่าไรสร้อยรักร้อยน้อยรักมักโหรงเหรงสวมโตงเตงเกรงยามคนถามไถ่หากรักที่ถักร้อยน้อยเกินไปคนจะเย้ยไยไพว่าไม่งามอยากจะรับสร้อยรักเสียนักหนาแต่ปัญหาทั้งผองเกินมองข้ามหากเธอยังตั้งหน้า...พยายามวันสร้อยงามพร้อมสรรพ...รับจริงจริง
ในโลกจริงความฝันฉันแบ่งโลกฝันหนึ่งโชกน้ำตาฝันคราหลับเหมือนอยู่ในโลกหนึ่งเศร้าซึ้งลับไร้กำกับปรับเพิ่มต่อเติมใดเป็นความเศร้าจากโลกจริงที่ดิ่งจับในก้นบึ้งซึ่งขับยามหลับใหลโศกมิอาจประเมินเกินเสียใจเพียงกลไกในฝันเท่านั้นแสดงเหมือนความเศร้าเข้าผสานวิญญาณหมองจึงนอนร้อง ร้อง ร้อง มิต้องแสร้งเป็นความเศร้าที่บังเอิญเกินชี้แจงอารมณ์แห่งคนฝันเท่านั้นรู้หลายครั้งผวาตื่นหน้าชื้นชุ่มฝันยังกุมอยู่ทั้งหมดใจหดหู่น้ำตาจากภายในไหลพรั่งพรูยั้งมิอยู่ ห้ามไม่หยุด ฉุดอยู่นานอีกโลกหนึ่งคล้ายสวรรค์ฝันยามตื่นรักหวานชื่นแสนสุขสนุกสนานมีทุกสิ่งที่สนองความต้องการแต่วิญญาณหัวใจมิไยดีเป็นความสุขภายนอกหลอกคนอื่นเหมือนชีพชื่นรื่นเปรมเกษมศรี"แต่ความขาดอาจอยู่คู่ความมี"จึงฝันดี ฝันโศก ในโลกจริง
หอมกลิ่นกาซะลองล่องลมหวิวใจโลดลิ่วเห็นเงาะเธอเหาะเหินย้อนไปสู่คืนวันฉันรับเชิญยังคิดเขินทุกทีที่มีลมชวนฉันเหาะดูดาวสกาวฟ้าติดปัญหาสำคัญนัดนั้นล่มนุ่งกระโปรงโหวงเหวงเกรงสร้างปมเมื่อยามเหาะทวนลมไปชมดาวยังมิได้ถามท้วงชมดวงไหนหากจะไปทุกดวงในห้วงหาวคงต้องอยู่บนวิมานอีกนานยาวควรเลือกดาวสักคู่ที่ดูดีหากจะดูดาวพุธและดาวศุกร์จะต้องลุกราวตีสามหรือตีสี่ตำแหน่งดาวราวสามสิบแปดดีกรีเยื้องวิถีดวงอาทิตย์ขึ้นนิดเดียวถ้าจะดูหัวค่ำต้องจำไว้ตำแหน่งใกล้เกือบชิดอาทิตย์เหนี่ยวเฉียดยอดไม้ตะวันตกรกเรื้อเชียวสามทุ่มก็จะเลี้ยวตกลับไปสองดาวเคราะห์แสงจ้าตาเปล่าเห็นนอกนั้นเป็นดาวฤกษ์เบิกแสงใสวะวิบวับนับล้านบานตะไทเงาะงี่เง่าเข้าใจฉันใดกันถ้าจะดูดาวเทียมเตรียมตัวง่ายเพียงแค่วาดเส้นสายให้สีสันจะเอากี่มากน้อยถึงร้อยพันวาดสักสองสามวัน...ฉันจะรอ(ดาวพุธโผล่พ้นขอบฟ้าก่อนดวงอาทิตย์และตกหลังดวงอาทิตย์ตกประมาณ 2 ชั่วโมงตำแหน่งสูงสุดประมาณ 28 องศา )(ดาวศุกร์โผล่พ้นขอบฟ้าก่อนดวงอาทิตย์และตกหลังดวงอาทิตย์ตกประมาณ 3 ชั่วโมงตำแหน่งสูงสุดประมาณ 46 องศา )