ทุกสิ่งสุดแสนดีที่มีให้ยังเก็บไว้ย้อนนึกระลึกเสมอยังคุ้นคุ้นอุ่นเอยคล้ายเคยเจอตอนละเมอเจอกันในฝันดีอุ่นไอไมตรีจิตสนิทสนมที่ห้อมห่มละมุนอุ่นเต็มที่อุ่นความคิดชิดใกล้ที่ให้ฟรียามนาทีเสียหลักได้พักพิงอุ่นไออ้อมแขนอันฝันประคองเมื่อคราวท่องโลกฝันนั้นอย่างยิ่งอุปถัมภ์ค้ำจุนอบอุ่นจริงให้ทุกสิ่งที่ขอไม่รอทวงอุ่นความเอาใจใส่จนใจอิ่มแอบอมยิ้มอายอายได้บางช่วงอุ่นเอมอิ่มทุกหนกับผลพวงของการล่วงรู้ในหัวใจกันอุ่นยามแวบแอบถนอมออมรู้สึกมิให้นึกฉงนจนใจหวั่นอุ่นถ้อยคำที่ย้ำว่าสำคัญอุ่นกับความมุ่งมั่นจะบันดาลคนเขียนกลอนอ่อนซ้อมให้ยอมเขียนหยุดทำเนียนแถไถไม่เอาถ่านกลับตัวตนจนเฝ้าเอาการ (เอา) งานเปรียบสายป่านตึงตึงดึงว่าวลอยอุ่นอาบใจในถ้อยร้อยปลอบปลุกให้รีบลุกเดินต่อห้ามท้อถอยจนต้องเร่งรีบจ้ำเลิกสำออยอุ่นยามคอยถามทวงอย่างห่วงใย( อุ่นถ้อยมธุรสในบทกลอนเป็นลำนำอำนวยพรตอนเยี่ยมไข้อุ่นพร้อมหอมระรินกลิ่นดอกไม้อุ่นที่ให้ความหวังกำลังใจ )อันเป็นความอบอุ่นทรงคุณค่ายามถวิลจินตนาครั้งคราไหนยังคงความรู้สึกนึกอุ่นไอเหมือนอยู่ในอ้อมอุ่นอันคุ้นเคย
เราร่อแร่แพ้ใจตนจนท้อถอยอารมณ์ร้อยบทกวีหนีหดหายเพื่อนเพื่อนมีคำฝากมามากมายเพื่อเราคลายเหี่ยวห่อท้อทั้งปวง"...กำลังใจให้ตัวเองสำคัญมาก.." (1)ข้อความเพื่อนเตือนฝากจากใจห่วงเป็นแนวทางห่างไกลจากใจลวงเพื่อพ้นช่วงอ่อนแอ...ร่อแร่คลาย"วันนี้ท้อ ใช่พรุ่งนี้ต้องถอย..." (2)เพื่อนเรียงร้อยวจีมีความหมายให้หลุดจากภวังค์ ซังกะตายลุกตะกายหมายฝัน...วันพรุ่งนี้"....ขอให้เข้มแข็ง และรักตัวเอง..." (3)เพื่อนอาจเกรงเรานอนเหมือนก่อนกี้จึงฝากเจตนาปรารถนาดีด้วยวลีคล้ายพรและสอนใจ"ก็แค่...จะหมด ยังไม่หมด.....ฯ " (4)อีกงามงดพจนาเยียวยาให้(คุณกรดมาเป็นกำลังใจห้ายยย....)จนเราอยากพากเพียรเขียนต่อไปเลิกอ่อนแอแพ้ภัยในใจตน"หรือเพราะหมด โปรโมชั่น กันเสียแล้ว...ฯ " (5)อีกหนึ่งแนวเพื่อนติงอิงบ่นบ่นหากคือความเป็นจริงสิ่งต้องทนเพื่อผ่านพ้นความจริงอิงคลุมเครือทุกทุกความห่วงใยใสสะอาดเปรียบทองคำธรรมชาติพิลาสเหลือปราศจากราคินมลทินเจือเอื้อโอบเอื้อกังวลปนอาทรขอบคุณด้วยความเอิบอาบและซาบซึ้งที่หงายตึงร่อแร่มาแต่ก่อนจะหยัดยืนคืนคลายหายแน่นอนด้วยแพ้พรห่วงใยจากใจทุกคน(1) เพียงพลิ้ว(2) เฌอมาลย์(3) แมงกุ๊ดจี่(4 ) กรด(5) มวลภมรและเพื่อนที่มาคอมเมนต์หลังจากเขียนกลอนเสร็จแล้ว ทุกคนรวมทั้งคนที่ให้เลิฟด้วยค่ะ
ความรู้สึกเหนื่อยหน่ายคล้ายเบื่อเบื่อเหมือนฟืนไฟไม่เหลือเพื่อคิดเขียนจนวันนี้หรี่ซากว่าเปลวเทียนใจเคยอยากพากเพียรแปลงเปลี่ยนไปความรู้สึกเต็มที่กระปรี้กระเปร่าอย่างก่อนเก่าเรามีอยู่ที่ไหนอ่อนเรี่ยวแรงแล้งหวังกำลังใจเป็นอะไรกันหนอ ?...ท้อแท้จังเพียงรู้สึกขาดคนสนใจห่วงไม่เหมือนช่วงไฟแรงแห่งความหลังแรงใจลดถดถอยด้อยพลังสิ้นแรงกายหงายหลัง...ยังที่นอนใจไม่พร้อมยอมลุกปลุกไม่ขึ้นทำหน้ามึนขึ้นเสียงเขียวว่า...เดี๋ยวก่อนความฝันเคยสวยนักชักปอนปอนจะเขียนกลอนให้พริ้งด้วยสิ่งใดกำลังใจไยหายเหมือนตายจากจึงเงียบมากยากเย็นเป็นไฉนหรือเล่นแง่แค่ลวงให้ห่วงใยหรือหัวใจเจตนาเลิกราจริงปล่อยให้เราเหี่ยวแห้งเรี่ยวแรงหายรอวันตายอ่อนแอจนแน่นิ่งอยากจะลุกแต่ใจมิไหวติงจะพึ่งพิง "กำลังใจ" จากใครดี
ลูกชาวสวนพรวนดินเหมือนหินหนักถึงนานสักเท่าใดลอยไม่ได้ถ้าอยากยกขึ้นสูงต้องจูงไปหรือยกขึ้นบันไดไปตามทางจากชนชั้นซึ่งมือต้องถือจอบเหน็ดเหนื่อยหอบลำบากกับถากถางแม่เริ่มทำการค้าหาสตางค์เพื่อจะสร้างปั้นจั่นแทนบันไดยกเอาหินในสวนไปป้วนเปี้ยนแถวโรงเรียนเขยิบจนเติบใหญ่เลยเถิดถึงมหาวิทยาลัยรับใบปริญญาบัตรวัดชั้นชนขั้นสูงสุดในด้านการศึกษาอย่างที่แม่เจตนามาแต่ต้นแม่ปูทางวางบทอย่างอดทนยกลูกขึ้นวางปนชนชั้นกลางลูกชาวสวนพรวนดินสิ้นต่ำต้อยจึงได้ลอยเทียมยูงอยู่สูงบ้างตามความคิดแน่วแน่มือแม่วางจากชั้นล่างยกดันขึ้นชั้นบนยกลูกแต่ละคนข้ามชนชั้นดุจปั้นจั่นชั้นหนึ่งซึ่งแบกขนจนพ้นไร่พ้นสวนถ้วนทุกคนให้เป็นชนชั้น "มือถือปากกา"
อาจประเดิมเริ่มต้นฉงนฉงายอาจมากมายก่ายกองข้องสงสัยอาจหลายสิ่งซึมซับประทับใจอาจกลไกใดสร้างและวางกลให้ความคิดจิตใจไหววูบวาบจนเกิดภาพพิเศษไร้เหตุผลเป็นภาพฝันอันเปลี่ยนวนเวียนวนประหนึ่งมีเวทมนตร์ดลหทัยเธอคือพลังแฝงแรงบันดาลก่อเกิดจินตนาการอันหวานไหวเขียนกวีกี่บทมิหมดไปยังเกิดใหม่แทนที่ทวีคูณมีอำนาจทรงพลังดั่ง ไฟ ฝนที่บางหนรนร้อนนอนเสียศูนย์ที่บางครั้งเปียกปอนนอนอาดูรแม้เกื้อกูลเชื้อใส่จนไฟแดงบนถนนคนฝันฉันเป็นอยู่เธอคือผู้จุดประกายให้ฉายแสงเป็นพลังบันดาลปานลมแรงที่เป่าเถ้ามอดแดงจนลุกโชน