เอาเส้นใยเหนียวแน่น "ใยแสนรัก"มาทอถักฟั่นใน "ใยคิดถึง""ใยอาทร"มากมายเป็นด้ายตรึง"ใยห่วงหวง"สุดซึ้งขึงเป็นแกนโอบกอดใครคนหนึ่งซึ่งไกลห่างเป็นเกลียวใจที่สร้างต่างอ้อมแขนวานให้ทุกความหมายโอบไว้แทนกอดเธอไว้แน่นแน่นนานแสนนานให้รู้สึกลึกซึ้งถึงไออุ่นอันละมุนละไมของใจหวานอันนวลนุ่มชุ่มฉ่ำกว่าน้ำตาลอันรวยรื่นชื่นบานปานดอกไม้ลบรอยความอ้างว้างร้างหายลับจนกลายกลับจากหมองเป็นผ่องใสวานกอดนี้เติมหวัง กำลังใจอย่างที่ไม่มีทอนอ่อนพลังขอทุกทุกความประสงค์คนส่งกอดคงค่าควบรวบยอดเป็นกอดขลังยืนยงอยู่คู่ชีวีอย่างจีรังเป็นฐานตั้งหวังที่สร้างอย่างถาวรยามเดินหน้าคว้าหวังทุกครั้งก้าวจงเหิมห้าวแกร่งกล้าไม่ล้าอ่อนสมดั่งคนส่งกอดสอดคำพรซึ่งซุกซ่อนในกอดตลอดกาล
เพราะยังมีเธออยู่เป็นคู่ขวัญจึงไม่เคยสักวันจะขวัญเสียแม้บางครั้งคนไกลทำใจเพลียใช่อ่อนเปลี้ยเสียจนทุรนทุรายเธอยังคอยปลอบขวัญเหมือนวันเก่าความหงอยเหงาเฉาบ้างก็จางหายเธอมิเคยลบหลู่หรือดูดายหากสอดส่ายสายตาเอื้ออาทรมิเคยปล่อยให้ต้องละอองฝนคอยกังวลดูแลแม้ลมอ่อนคอยเป็นร่มคันงามยามแดดร้อนเป็นคำพรคำพระชนะภัยถ้าถึงวันเจ็บช้ำล้มคว่ำหน้าคงจะต้องร้องหาอย่าสงสัยอาจจะขอซุกอก..ถ้าตกใจถ้าคนไกลใจดำ...ทำร้ายกันแต่ตอนนี้อยากขอยืนต่อสู้เพื่อเรียนรู้ทุกสิ่ง..."จริงหรือฝัน"มิอยากออกนอกสนามยามติดพันจึงยืนยันว่าจะอยู่...สู้ต่อไป
ความทุกข์คือไม่สบายกายและใจเป็นเรื่องใหญ่ในชีวีที่ต้องแก้อริยสัจ สี่ของดีแท้ใช้ได้แน่แค่ต้องลองใคร่ครวญแต่ถ้าทุกข์เพราะใจไม่สบายก็ต้องลองคลี่คลายไปตามส่วนหาสาเหตุเภทผลคนก่อกวนทำหัวใจแปรปรวน จวนจะพังอยู่ในอกตนแท้แท้ ทางแก้แรกรีบปลดแอกหัวใจในกรงขังด้วยการคิดว่าชีวิต อนิจจังจะกลัดกลุ้มคลุ้มคลั่ง บ้าหลังไยเลี่ยงเหตุการณ์ที่จุดความหงุดหงิดเลิกยึดติดเกี่ยวข้องขุ่นหมองไหม้กันจิตตนพ้นทาง...วาง ว่าง ไว้ซึ่งต้องใช้ความอดทนห้ามตนเองทุกข์ร้อนอาจผ่อนคลายจนหายขาดหากสามารถหักห้ามด้วยความเคร่งความจริงจังระวังตัวทุกข์กลัวเกรงมิกล้าเบ่งศักดามาบาดใจแต่ถ้าทุกข์เพราะกายมีหลายโรคเป็นทุกข์โศกต้องง้อหมอแก้ไขประคองตัวกินยารักษาไปถ้าหากไม่หายขาด...ก็อาจตายซึ่งก็เป็นธรรมดาประสาโลกทั้งคนโศก คนสุข ทุกข์อาจหายเมื่อโรคภัยไกลห่างจากร่างกายแต่จุดปลาย ท้ายสุด...จุดเดียวกัน( แด่ ผู้กำลังทุกข์หนักทุกคน )
ฤดูร้อนหนึ่ง ผึ้งน้อยทำงานปรุงน้ำผึ้งหวาน ลนลานร้อนรนขยันขันแข็ง ทุ่มแรงเข้มข้นเหนื่อยก็อดทน หวังผลต่อไปเจอกับผีเสื้อ เหนือดอกไม้ใหญ่ร้องถามทันใด ทำอะไรอยู่จ๊ะฉันจะเลือกใช้ ดอกไม้สวยสะดอกใดดีนะ จะทำน้ำหวานผึ้งน้อยเข้าใจ กลับไปทำงานหลายวันผันผ่าน พบพานอีกครั้งผึ้งน้อยทักทาน น้ำหวานที่หวังเสร็จแล้วหรือยัง กำลังทำอะไรผีเสื้อตอบว่า จะหาหม้อใหญ่เตรียมไว้สักใบ ค่อยไปลงมือผึ้งน้อยติว่า ไม่ช้าไปหรือผีเสื้อเหลือดื้อ กระพือปีกบินพูดในลำคอ ตอบพอได้ยินเดี๋ยวก็เสร็จสิ้น แล้วบินจากไกลผึ้งน้อยกลับบ้าน ทำงานว่องไวตั้งอกตั้งใจ เสร็จในเวลาลมเย็นวอยวอย ผึ้งน้อยไปหาถาม ผีเสื้อ ว่า ไหลหล่ะ น้ำหวานต้องรอก่อนสิ หาวิธีการคงอีกไม่นาน ได้งานแน่นอนลมหนาวพัดพรู สิ้นฤดูร้อนผึ้งน้อยลอยร่อน บินย้อนพลิกแพลงผีเสื้อจนตรอก ซุกดอกไม้แห้งสิ้นเรี่ยวสิ้นแรง อกแล้งหิวโหยสะท้านทุกคราว ลมหนาวพัดโบยนอนร้องโอดโอย โดยไม่ทำงาน
ใช้กลอนกานท์หวานหอมกล่อมเสมอทั้งที่เธอ นั้นคือมือสวรรค์ซึ่งอาจเสกเมฆขวาง สร้างตะวันสำหรับความสัมพันธ์อันหมายปองหรือประสงค์จงใจให้ไผลเผลอสองมือเธอเท่านั้นปั้นแสงส่องในเส้นทางชีวันฝันลำยองว่าจะครองสุขสมหรือจมน้ำนครินทร์ถิ่นฐานวิมานแก้วจะเพริศแพร้วร่มรื่นและชื่นฉ่ำให้สองเราร้องรับขับลำนำอยู่ที่เธอต้องทำและนำทางในห้วงดวงหทัย ล้วนใจรักซึ่งสลักมั่นคงตรงทุกอย่างความจงรักภักดีไม่มีจางแม้จะหวั่นไหวบ้างระหว่างรอถ้าหากเธอยังวาดปรารถนารีบเข้าหาผู้ใหญ่ไปสู่ขอแค่เขียนกลอนวอนเล่นเช่นชีกอยังไม่พอเชื่อถือหรือวางใจจงทำให้พรุ่งนี้มีความหวังแทนการนั่งอ่านกลอนก่อนดีไหมแล้วมะรืนจะขออ่านต่อไปเมื่อหลักชัยแห่งรัก...ปักมั่นคง