ดั่งสายฝนหล่นโปรยโดยไร้เมฆดั่งเทพเสกเจาะจงส่งมาให้เพื่อลบความแห้งแล้งในแอ่งใจชื่นสดใสกลับมาอีกคราครั้งประหนึ่งได้ของขวัญอันล้ำค่าในเวลาสลดหมดความหวังเป็นดั่งพรช่วยเพิ่มเติมพลังแทนกำลังใจกายที่หายไปคืนนี้ฉันเหงา พึ่งสามีเขา เป็นกำลังใจฉันโทรไปปลุก ลุกขึ้นทันใด บอกไม่เป็นไร อยากโทรเหมือนกันคุยเรื่องเพื่อนเรา คุยเรื่องเก่าเก่า คุยเรื่องของฉันคุยเรื่องความโกรธ อาจลงโทษทัณฑ์ ให้เป็นความดัน เลิกได้ก็ดีรักตัวเราเอง ตื่นมาร้องเพลง พักผ่อนเต็มที่ชีวิตสั้นนัก รักษาชีวี ทำทุกวิธี เพื่อตนพ้นภัยขอบคุณนะคะ ที่ให้ธรรมะ เป็นกำลังใจแต่นอนสมาธิ มิเคยทำได้ แม้หลับตาไว้ จิตหลับมิลงลุกขึ้นบันทึก จากความรู้สึก ก่อนจะลืมหลงเพื่อให้ทุกคำ จดจำมั่นคง หรือเมื่อประสงค์ เปิดทานอ่านทวนเป็นบันทึกซึ่งสงวนมิควรมอบแต่เพื่อตอบแทนบ้างในบางส่วนอาจเขียนได้ไม่ดีเท่าที่ควรแต่ก็ล้วนลื่นไหลจากใจจริง
บนบันไดดาวกวีขั้นที่หกเป็นนักชกหมัดขมังทั้งซ้ายขวายืนยงย่อมซ้อมหมัดอัดวิชาให้ก้าวหน้าเพลงหมัดหัดพลิกแพลงกวีมีโขยงโคลงกลอนกาพย์หลากผังภาพร้อยกรองให้ลองแต่งถ้าฝีมือถึงขั้นรั้นสำแดงปรับเปลี่ยนแปลงนวการงานร้อยกรองเป็นของฝากโลกกวีศรีพิภพเติมแต่งตบสร้างสรรค์ด้วยมันสมองซึ่งมิใช่การไต่บันไดทองยากสยองเปรียบไต่บันไดลิงกวีมีบันได "ไม่รู้จบ"ทอดสมทบให้ก้าวอีกยาวยิ่งยุคสมัย ตำนาน เหตุการณ์จริงก้าวประมาทอาจกลิ้ง "ลิงตกบันได"ไต่บันไดสูงยาวหาวเวิ้งว้างตามทิศทางดาวนำลำแสงใส"ดาวตก" วูบวูบหล่นฉงนใจเงยขึ้นไปดาวรุ่งเร่งประกายจวบแสงสางไขแสงแต่งตะวันออกดาวหลบซอกเมฆเกลื่อนเลือนสลายมองท้องฟ้ายามนี้รวีระบาย"ดาวค้างฟ้า" แม้พ่ายฉายแสงมัวยังเป็นแบบฉบับประดับฟ้าเป็นปรัชญาราตรีที่เย้ยยั่วให้นักปีนบันไดใจเต้นรัวทั้งกล้า-กลัวบนขั้นบันไดดาว
บนบันไดดาวกวีขั้นที่ห้าพัฒนางอกงามตามวิถีฉันทลักษณ์เคร่งครัดสัมผัสดีและเสรีคัดสรรปั้นเรื่องราวมีศัพท์แสงแต่งร้อยทยอยไหลมีความรู้กว้างไกลหัวใจขาวจิตรกรพรสวรรค์ที่ปั้นดาวสุกสกาวพราวฟ้านภาลัยกะพริบแสงแต่งตนบนสวรรค์จนสีสันดาราจ้าแจ่มใสดาวคงสวยไม่ต่างนางสาวไทยถ้าหลงใหลสำรวยสวยเพื่อตนแต่สกาวดาวกวีที่สุกส่องมีตามองจ้องเขตประเทศสถลเห็นพื้นดินน้ำป่ามหาชนเห็นตาคนมองดาราศรัทธาวอนให้ดารานำทางกลางความมืดทางยาวยืดมืดงำทำฉากหลอนเหมือนตาบอดไม่เห็นเส้นทางจรเสียงสะท้อนไม้เท้าดังดาวนำดารกสวรรค์สำคัญฉะนี้ดาวกวีทุกดวงช่วงคืนค่ำควรจะนำประชาฝ่ามืดดำวีรกรรมอันควรมวลดารา
บนบันไดมุ่งมั่นขั้นที่สี่ไม่ควรเป็นกวีมีมือเปล่าเขียนผลงาน "ซังกะบ๊วย" ด้วยการเดาสมมุติเอาไม่กี่ยกตกบันไดควรเปิดหูเปิดตาเปิดหน้าต่างให้กว้างกว้างดูสิ้นดินน้ำใสดูใกล้ตนไกลตัวดูทั่วไปเมื่อตาดูฟังใดใจต้องคิดรู้รอบตนรอบตัวทั่วรอบบ้านเรื่องการงานการเมืองเรื่องเศรษฐกิจเรื่องฝนฟ้าธรรมชาติอากาศพิษยาเสพย์ติดคลุ้มคลั่งเสพสังคมการศึกษาตกต่ำขาดสำนึก"ประชาธิปไตย"เปิดศึกสะอึกถล่มศีลธรรมในมนุษย์หลุดตกตมความขื่นขมเริงร่าโลกาภิวัตน์เป็น "กวีวิวัฒน์" ได้ใช้ตาหูเก็บความรู้ใส่มือคือสมบัติความพอดีมีในวิสัยทัศน์น้อมมนัสศรัทธามหาชนมีความดีความชั่วทั่วภิภพ"บวกบัดซบลบระเบิด" ไม่เกิดผลโลกประเทศบ้านช่องเป็นของคนหนีไม่พ้นรู้อยู่อย่าง "ผู้พอ"พวก "กวีวิบัติ " มักคัดง้างเป็นพวกบ่างช่างยุกุหลอกล่อทุกคำในร้อยกรองจ้องด่าทอคำไม่ก่อสาระ "ขยะกวี"
บนบันไดดาวกวีขั้นที่สามยังต้องใช้พยายามยิ่งยวดยิ่งการร้อยกรองต้องกว้างศัพท์อ้างอิงเพราะเป็นสิ่งจำเป็นอีกเช่นกันรักถักถ้อยร้อยกรองไม่คล่องศัพท์เป็นจุดอับสะดุดยามรุดดั้นความยากเย็นนานาที่ฝ่าฟันถ้ามาตันกับศัพท์น่าอับอายพจนานุกรมงมเปิดอ่านสนุกสนานคำศัพท์กับความหมายยังมีศัพท์ที่ไม่รู้อยู่มากมายอ่านหลายหลายตลบอ่านทบทวนอาจนำศัพท์กับศัพท์จับประสมเป็นศัพท์คมคำใหม่ในกระสวนหรืออาจเป็นชนิดผิดกระบวนเป็นศัพท์กวนศัพท์เก๋ศัพท์เป๋ประท้วงศัพท์โบราณโบร่ำบางคำสลบนอบสงบไม่ฟื้นกลับคืนห้วงอันคำศัพท์ดังดังแทบทั้งปวงดังเป็นช่วงแล้วดับกับข่าวดังมีศัพท์เขียนเลียนคำธรรมชาติเช่นงืดงาดจุ๊บจิ๊บบิบฉึ่งฉั่งใช้ถูกที่มีความหมายได้จริงจังแต่โรคคลั่งคำศัพท์กลับเหลือทนถ้าใช้ศัพท์ใช้แสงแต่งคำพูดศัพท์กระฉูดชนิด "วิกฤตฉงน"พูดง่ายฟังยากลำบากลำบนรีบเดินด้นพ้นได้สบายเรา