ออกนอกบ้านปานฝันวันชื่นมื่นมาตาตื่นยืนหยอกหมอกฝ้าหนาไอในสวนล้วนหมอกหลอกพามาบังทั้งตาหน้าเย็นเห็นไม่ไกลแย้มแก้มอิ่มยิ้มยั่วทั่วลานบ้านเพลินเดินผ่านลานนอกดอกไม้ใหม่ออกดอกแรกแตกตุ่มพุ่มไฉไลจิตคิดไกลไปทั้งยังจ้องมองอยากฝากภาพซาบซึ้งถึงมือถือฝ่ายซ้ายมือคือเมฆเฉกฟองฟ่องแต่แลซีกอีกฝั่งดั่งกรองทองตาคราจ้องสองฝั่งดั่งดาววาวนานป่านนี้ที่ใจใครหนึ่งซึ่งพร่ำรำพึงถึงใครในคราวหนาวยังนั่งจ้องมองฟ้าตาวาวพราวใจไหวราวคราววันฝันเจอเธอจิดติดบ่วงดวงแดแม้ปรามห้ามไหลไปตามความหลังนั่งเพ้อเจ้อกักหักห้ามความคิดจิตเผอเรอยังพลั้งเผลอเหม่อลอยคอยข่าวคราวตอนร้อนใจไม่ผิดติดคุกทุกข์จินต์สิ้นสุขทุกครั้งนั่งหง่าวหาวกาลผ่านล่วงช่วงสั้นนั้นราวยาวไยไร้ข่าวคราวคนทนท้อรอ........................................กลบท อักษรสังวาสข้อบัญญัติ บังคับพิเศษเพิ่มจากกลอนทั่วไปคือบังคับให้มีสัมผัสสระชิดเสียงเดียวกัน 2 คู่โดยคู่แรกอยู่ที่ต้นวรรค และคู่ที่สองอยู่ปลายวรรคของทุกวรรค
ปลายฝันของนักสู้ยังอยู่ห่างจึงเดินทางอย่างอุทิศพิชิตฝันทุ่มเรี่ยวแรงแต่งเพิ่มเติมทุกวันมองมุ่งมั่นเป้าหมายที่ปลายทางยังคงมีเสบียงให้เสี่ยงก้าวบนความยาวถนนที่ทนย่างอุปสรรคหนักเบาเงาเลือนรางคอยขัดขวางบางวันฝันยังเดินการอดมื้อกินมื้อคือชีวิตหากดวงจิดหวังวาดไม่ขาดเขินแม้ร่างกายผ่ายผอมยอมเผชิญคงไม่เกินพยายามความอดทนเดินมาแล้วหวังจะไปไกลที่สุดจะไม่หยุดความหวังที่ตั้งต้นจะไม่ยอมรีบรื้อด้วยมือตนจะเป็นคนค้ำยันยกฝันชูแต่เมื่อความขาดแคลนแล่นเข้าหาหมดเวลาตั้งตัวแม้ชั่วครู่ทุกอย่างในชีวิตปิดประตูต้องรับรู้ว่าวันนี้ ไม่มีใครจึงยังงงกับชีวิตทิศทางออกแต่ก็บอกกับตัวหากลัวไม่ความขาดอาจมาถึงวันหนึ่งใดเพียงเร็วไปไม่ทัน หันตั้งตัว
ยามชีวิตขาดแคลนแสนโชคร้ายความรักหาย เพื่อนห่าง หวังร้างหวังบนความขาดซ้ำซ้ำเพียงลำพังช่วงชีวังมิรู้อยู่อย่างไรเป็นช่วงที่ชีวาตม์ขาดพี่เลี้ยงคอยอยู่เคียง อาทร วอนถามไถ่ด้วยความรัก ทักท้วงด้วยห่วงใยชีวิตใดก็ต้องอิงพิงสักคนเพราะชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไร้รักคอยเป็นหลักหัวใจในบางหนยามหัวใจแห้งผากยากอดทนรักคือฝนหยาดชุ่มหุ้มหัวใจถ้าหากในชีวียังมีเพื่อนคอยตักเตือนปลอบขวัญวันร้องไห้คอยปลอบปลุกลุกช่วยคอยอวยชัยปัญหาใหญ่ทุกข์หนักจักผ่อนคลายและถ้าหากชีวียังมีหวังการจะยังชีวีมีความหมายคนที่เจตนาฆ่าตัวตายล้วนโชคร้ายที่ชีวาตม์ขาดพร้อมกันคนขาดแคลนคนหนึ่งจึงมองหาพี่เลี้ยงของชีวามาปลอบขวัญ"เมื่อเธอให้พิงพึ่งจึงสำคัญเป็นพี่เลี้ยงชีวันอันขาดแคลน"
หวานถ้อยคำสำนวนหวานชวนเชื่อจนไม่เหลือพะวงหรือสงสัยถ้อยร้อยรุกทุกสิ่งล้วนจริงใจแอบหลงใหลนิดนิดแต่ปิดบังเพราะรู้ว่าเธอกล้าแถมบ้าบิ่นอาจทิ้งถิ่นทิ้งเมืองไว้เบื้องหลังแล้วหอบรักเข้ากรุงพะรุงพะรังมิยอมยั้งนั่งฝันอย่างวันวานถ้าหากบอกเน้นหนักว่ารักมากเหมือนตั้งใจไปลากเธอจากบ้านให้เธอพยายามข้ามสะพานที่ทอดสานสัมพันธ์ในทันทีอยู่ในโลกความจริงยิ่งคิดหนักเพราะความรักมักเดินหน้ามาเต็มที่ไหนจะอดทนรอปีต่อปีด้วยเหตุนี้จึงมิกล้าอ้าปากรับแอบฝันอยู่ในใจมิให้รู้ทั้งที่อยู่ไม่สบายกระส่ายกระสับเป็นอะไรก็เป็นเถิดเปิดความลับแบบปุบปับฉับพลันไม่อั้นแล้วยังหวังว่าอย่างไรคงไม่เชื่อเรื่องที่เหนือนิทานซึ่งหวานแหววอ่านพร้อมยิ้มบางบางอย่างรู้แกว" ฮึ ! ส่งแต่แห้วมาให้กินจนชินชา"
ทุกครั้งที่สิ่งหนึ่งถึง "ตอนจบ"จุดที่พบสิ้นสุดคือจุดเริ่มซึ่งอาจเป็นตอนใหม่ในทางเดิมหรืออาจเพิ่มทางแยกที่แปลกไปจึงมิควรอาวรณ์บทตอนเก่าแต่เก็บเอาประสบการณ์หวานหม่นไหม้เป็นเสบียงชีวิตติดหัวใจเพื่อแก้ไขปัญหาถ้าต้องเจอกระซิบบอกกับหมอนแล้วนอนยิ้มรู้สึกอิ่มอยู่ในใจเสมอเหมือนการก้าวทุกครั้งยังมีเธอคอยชะเง้อตลอดทางอย่างห่วงใยความห่วงหาอาทรคือพรสวรรค์ปลุกความฝันจนตื่นชื่นสดใสดุจเทวัญบันดาลช่วยอวยโชคชัยกำลังใจที่เติมเพิ่มให้มาทำให้ทางสายฝันนั้นไม่หนาวยามต้องก้าวยาวสั้นหรือฟันฝ่าการมีใครสักคนบนมรรคาย่อมดีกว่าเดินทนอยู่คนเดียวกระซิบบอกกับหมอนก่อนจะหลับเรื่องความลับบอกยากอยากขอเบี้ยวแต่บอกว่าคืนนี้ดีจริงเจียวพระจันทร์เสี้ยวในฝันนั้นเต็มดวง