ยามเธอยิ้ม ยิ้มดังแสงตะวันส่องยามเธอมองทำให้ฉันฝันไปไกลยามเมื่อเธอสบตาแล้วยิ้มให้ทำให้ใจฉันลอยไปกับเธอเมื่อเธอร้อง ร้องเพลงกับฉันสุขทุกวัน ทุกคืน รื่นฤทัยอยาจะยก ตำแหน่งนางสาวไทยประจำใจ ยอดชายนายทะโมนเธอดูน่ารักเหลือเกินอยากรู้ ว่าบ้านเธออยู่ไหนอยู่บนฟ้า เป็นนางฟ้าใช่ไหมฉันข้องใจว่าทำไมเธอจึงน่ารักเหลือเกิน
อยากเก็บดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟ้าเก็บลงมาร้อยเรียงบนเตียงน้อยเอานภาห่มเป็นผ้าอุ่นอ่อนหนุนจันทร์นอนหลับตาฝันดีค่ำคืนนี้... เธอจะฝันดีหรือเปล่าหากเธอหนาว... จะเอาเมฆปุย... ห่มเธอหากแม้... เธอจะละเมอฉันจะให้ลมกล่อมเธอ... ให้ฝันดี
ตื่นเช้าวันนี้มีความอบอุ่น รอเธออยู่อยากให้เธอรู้ว่าฉันนั้นอยู่ไม่ไกลเธอจะรู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอเพียงใดเธอคงจะไม่ตัดเยื่อใยฉันนะเออตื่นเช้าวันนี้ฉันมีบทเพลงที่ขับขานมีดอกไม้บานและรอยยิ้มรับวันใหม่ให้เธอชื่นใจในความสดใส ของวันที่ดีๆ
เหมยเอยเจ้าดอกเหมย สีเจ้าแดงสะพรั่งทั่วหล้า
ผ่านวสันต์เหมันต์มา ทั้งเย็นเยือกและเหน็บหนาว
เหมยเอยยังกร้าวแกร่ง กลีบเจ้าแดงไม่แปรขาว
ไม่หวั่นหิมะกราว แม้เดือนดาวอับแสงสี
หยัดยืนคู่แผ่นดิน ไม่เคยสิ้นเหมยแดงนี้
รักมั่นสามัคคี ทั่วปฐพีพี่น้องกัน
หิมะที่ร่วงกราว ช่างปวดร้าวราวคำหยัน
เหมยยงคงนิรันดร์ ไม่แปรผันเป็นอื่นใด
หยดเลือดสีแดงข้น คงเปี่ยมล้นด้วยน้ำใจ
ดอกเหมยเผยความนัย ในสายเลือดของชนเรา
ตะวันเช้านำทางสู่บ้าน
คืนถิ่นบูรพามาตุภูมิ
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดหวน
รำลึกอดีตเปี่ยมน้ำตา
ใบพฤกษาหล่นร่วง
เหมือนชีวิตปลิดปลิว
นานปีล่วงพลัดถิ่นเกิด
ฟ้าเปิดให้จึงกลับหวน
อริยวาทพาเห็นแสงชัย
ลมเหมันต์คืบใกล้ไม่หวั่นเกรง
พัดจากอุดรสู่ทักษิณ
ก้าวเท้าย่ำเดินจากประจิมสู่บูรพา
แสงจรัสหล้าโลก