ศาลากลอนวอนเว้าใคร่เฝ้าพิศหมู่มวลมิตรหลายหลากวิพากษ์ศิลป์ช่วยขับขานหวานเพราะเสนาะยินพจน์ไหลรินเปี่ยมท่าศาลากลอนเป็นศาลาคนเศร้าเพื่อเข้าพักยามอกหักรักหน่ายเกินถ่ายถอนเป็นศาลาคนเหงายามร้าวรอนที่พักร้อนกลอนกล่อมย้อมอุราเป็นศาลาคนชื่นระรื่นสุขซุกซ่อนทุกข์เศร้าโศกแห่งโลกหล้ากลั่นกรองถ้อยร้อยรสพจนาชุบชีวาชื่นฉ่ำฮัมเพลงครวญเป็นศาลาคลายเศร้าไม่เหงาง่วงทุกข์ทั้งปวงเป็นอื่นมิคืนหวนอักษราพาเพลินช่างเชิญชวนดุจลำดวนหวลหอมมิยอมไกลเป็นศาลาบันเทิงรื่นเริงจิตให้ข้อคิดซื่อตรงมิสงสัยดั่งสังคีตดีดเป่าปลุกเร้าใจสุขฤทัยเริงรื่นทุกคืนวันเป็นศาลาคนรักเพื่อพักพึ่งส่งสาส์นซึ้งสื่อรักพิทักษ์ฝันเป็นศาลานานาสารพันศาลาเธอแหละฉันร่วมฝันเอย
เพ็ญผ่องงามยามเดือนขึ้นเยือนฟ้าจันทร์แจ่มจ้าอุราชื่นฉันยืนยิ้มรักจันทรวอนทราบงามภาพพิมพ์รักเอมอิ่มเต็มกมลคือคนรักเพ็ญผ่องงามยามเดือนขึ้นเยือนฟ้าเย้ายวนตาพาใจหวั่นไหวหนักให้ของขวัญทุกคนยามยลทักหารู้จัก รักสุดแสน...โรแมนติกfull moon...full moon in the skyfull moon...full moon with a lightwhen i see you in the dark sky giving off a glowingspark, i stare up and smile with happiness andstart to love you with all my heart but not asmuch as i love my sweetheart.full moon...full moon up in the sky, sparkling up there in thesky showing yourself to everyone in the world thegift that no one knows, the gift of romance.(Joseph Macquarrie)
สินไซแสร้งกล่าวเกี้ยวว่าเปลี่ยวจิตมุ่งหมายมิตรมาไกลกระไรฝืนจงเปิดใจไขประตูใครผู้ยืนอาจงตื่นหลานมารับกลับเวียงวังนางนั้นร่วมตุนาหงันกุมภัณฑ์ยักษ์เห็นหลานรักราวพี่องค์พะวงหลังจงรีบหนีห่างเขียงอย่าเสียงดังยักษ์ไม่ยั้งเจ้าจักดับย่อยยับเยินข้าไม่กริ่งเกรงยักษ์แม้สักนิดศรทรงฤทธิ์แลพระขรรค์สุดสรรเสริญจึงแผลงศรสู่ฟ้ากล้าเผชิญสั่นสะเทิ้นเนินสะท้านยักษ์ซานซมไร้ภักษาล้าอ่อนกลับนอนบ้านแม้ซมซานได้กลิ่นคนยักษ์บ่นขรมสินไซซุกซ่อนตัวกลั้วดอกดมมินานนมยักษ์หลับขยับกายจึงชวนอาหนียักษ์อย่าชักช้าสุมณฑาจะลาไกลสุดใจหายตื่นเสียทีพี่ยักษ์ที่รักชายเขาจะย้ายหมายน้องจำต้องไกลสินไซพาอาที่รักหลบพักถ้ำแล้วย้อนลำซ้ำเดินเนินไศลมาฆ่ายักษ์กุมภัณฑ์ตายทันใดแต่เกิดใหม่เจ็ดตนเข้ารณรอนท้าวแผลงศรหาสีโหเข้าโผช่วยสังข์ทองด้วยช่วยรุมเร่งสุมขอนเหล่ายักษามาช่วยล้วนม้วยมรคืนนครตอนจบสิ้นเรื่องสินไซ
โปรดปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นางผียักษ์ภาระหนักจักเร่งรัดอย่าขัดขวางแต่นางยักษ์รักหลงไม่ปลงวางชีพมล้างต้องพระขรรค์ท้าวบั่นคอถึงดินแดนกาละพฤกษ์นามนึกไม้แขวนสะไบหรูหราภูษาหนอเครื่องเพชรทองเหลืองอร่ามงามละอออินทร์เตรียมรอให้สวมใส่สินไซทรงลุถึงถิ่นกินรีปักษีเทพลงสรงเสพสระใสสุดใหลหลงไฟรักรุมรุ่มร้อนศรอนงค์รักโฉมยงค์ใคร่ร่วมเรียงคู่เคียงนอนเหล่ากินรีปรี่แย่งแข่งชิงคู่หวังเชยชู้สู่ชายมิถ่ายถอนบุพกรรมนำท้าวมิร้าวรอนสบสมรคู่เตียงนาม เจียงคำจึงร่วมอยู่สุขเสพกับเทพนกปริวิตกถึงอาจึงลาล่ำจวบเจ็ดวันจึงจรจากด้วยหากจำเพียงเพ้อพร่ำจำเสียงเจียงคำครวญพร้อมสังข์ทองสองรามุ่งหน้าต่อเจ็ดโยชน์รอจรจรัลมิหันหวนดั้นด้นเดินพะเนินหนาป่าลำดวนแมกหมู่มวลไม้หมากหลายหลากพันธุ์เข้าเขตยักษ์กุมภัณฑ์สมมั่นมุ่งรอวันรุ่งมันออกล่าเวลาฉันจึงเข้าหาอาองค์ตกลงกันทิ้งกุมภัณฑ์ลักลอบหอบอาคืน
ยักษ์อุ้มหญิงกร้ำกรายหลายปีผ่านเสียงสื่อสารช้างฉลาดมิบาดหมางย่อมพบอามิคลาเคลื่อนลับเลือนรางสังข์แปลงร่างเป็นเรือทองท่องนทีเข้าเขตุยักษ์กินคนมันก่นร้องเรียกพวกพ้องมากันขมันขมีเห็นมนุษย์กร้ำกรายหมายชีวีคงเนื้อดียักษ์เปรี้ยวปากมันอยากกินมันต้องศรสินไซก็ไร้ชีพถั่งโถมถีบล้มตายวางวายสิ้นต้องพระขรรค์ฟันตายก่ายกองดินแล้วลุถิ่นยักขิณีทำทีลวงเชิญสินไซพักค่ำหยุดพำนักมือไกวกวักทีท่วงทำห่วงหวงท้าวรู้ทันยักขิณีทำทีทวงรีบเดินล่วงลัดเลี้ยวไม่เหลียวมองเข้าเขตป่านารีผลเยี่ยมยลพิศฟุ้งซ่านจิตมักกะรีใคร่มีสองน้าวเนื้อหนุ่มสุมไฟฤทัยปองเด็ดประคองกอดเกี่ยวด้วยเปลี่ยวใจพิทยาธรหวงหึงทะลึ่งแย่งชายใดแสร้งแย่งนวลควรไฉนเข้าโรมรันฟันสู้ให้รู้ไปถูกสินไซฟันขาดชีวาตม์วายผีเสื้อยักษ์พบสินไซจิตไหวหวั่นนางกระสันรูปร่างมิห่างหายเหาะโอบอุ้มแอบอิงเหินพิงกายหวังเอาชายเคียงคั่วเป็นผัวนาง