หยาดน้ำค้างพร่างพรายเดือนหงายเด่นแสงจันทร์เปล่งทอดเงาเหล่าพฤกษาฟังน้ำเสียงเรไรหริ่งร้องมาบอกเวลาเลยลับควรหลับนอนจะหลับลงอย่างไรเมื่อใจคิดเพราะดวงจิตผูกพันขวัญสมรราตรีนี้เหว่ว้าพี่อาวรณ์สุดร้าวรอนปั่นป่วนจึงครวญมาหากเดือนรับรู้ความที่ขมขื่นโปรดหยุดคืนคอยเธอพร่ำเพ้อหาแต่เดือนเอ๋ยเดือนดับลอยลับตาดั่งน้องยาแรมร้างห่างไกลเอย(๖ พฤษภาคม ๒๕๒๙)
โอ้...บุหลันแจ่มจ้าเยือนฟ้าใหม่หากฉันใคร่มีคู่ร่วมสู่สมคืนนี้ฝันถึงชายที่หมายชมวอนจันทร์เพ็ญเด่นกลมให้สมใจแม้นจักได้แต่งงานแต่นานช้ายินปักษาหม่นหมองมาร้องไห้ยินเสียงโคหากวิวาห์มิช้าไยเสียงเคาะไม้จงหมายหม้ายคู่เคียงNew moon, new moon, true and brightIf I am to take a lover, let me dream of him tonightIf I am to marry far, let me hear a bird cryIf I am to marry near, let me hear a cow lowIf I am to marry never, let me hear a hammer knock.
สะท้อนทรวงสะทกอกสะท้านคนกลอนกานท์ด่าวดิ้นชีวินสูญเหยื่อโมหันต์เข่นฆ่าสุดอาดูรศพเพิ่มพูนสูญค่าปัญญาชนกราบอีกครั้งหนึ่ง ข. คุณที โปรดมีรักใช่ปลาผักจักฆ่าแกงแล้งเหตุผลชีวิตต่างสุดเศร้าเรา เขา คนวัฏวนเวียนกลับต่างรับกรรมไยเล่าคิดสั่งตาย...หมายเข่นฆ่าคนปากกาไร้อาวุธแสนสุดช้ำไยไม่คิดสั่งเป็น...เยือกเย็นธรรมเมตตาค้ำจุนโลกคลายโศกตรมคนปากกาไร้อาวุธสุดสงบกลับพานพบคมปืนสุดขื่นขมช่างบ้าเลือดเชือดกวีศรีนิยมเพียงขวัญข่มขุ่นข้องสนองตนปณิธานกานท์กลอนสะท้อนจิตจักสัมฤทธิ์ให้เห็นได้เป็นผลเพียงอภัยไม่พยาบาทอาฆาตคนย่อมก้าวพ้นสู่สังคมอุดมการณ์กราบอีกครั้งหนึ่ง ข. คุณที โปรดมีรักฆ่าบาปหนักหยุดกระทำกรรมประหารเมตตาไว้ใคร่เห็นให้เป็นทานแด่ วิญญาณ กวี(ไม้)หนึ่ง ก. กุนที
มันเป็นมาอย่างไรเกินไขขานรู้แต่กาลผ่านพบแล้วลบหายไปกับวันแจ่มจรัสลมพัดพายละอ่อนอายอุ่นอบพฤษภเยือน!ดอกป็อปปี้มิทันแซมแกมข้าวโพดนกไม่โดดละคู่ยังอยู่เหมือนไข่ของมันมิทันฟักจักคอยเตือนสุดรางเลือนเอื้อนเอ่ยเผยความในแต่ฉันรู้ว่ามันได้ผันผ่านล่วงกับกาลพฤษภาทิวาใสทุกสิ่งห้อมหอมหวานล้วนผ่านไปทิ้งฉันให้ แก่ หนาวหมอก ผมดอกเลาMayI cannot tell you how it was;But this I know: it came to pass-Upon a bright and breeze dayWhen May was young, ah pleasant May!As yet the poppies were not bornBetween the blades of tender corn;The last eggs had not hatched as yet,Nor any bird forgone its mate.I cannot tell you what it was;But this I know: it did but pass.It passed away with sunny May,With all sweet things it passed away,And left me old, and cold, and grey.(Christina Rossetti, 20 November 1855, 5 Dec. 1830 – 29 Dec. 1894)
บินลับไปเสียแล้วนกแก้วพี่ปล่อยให้กรงฤดีพี่เงียบเหงาคงไม่หวนกลับกรงหลงลำเนาเสียงดุเหว่าดุจเย้ยคู่เชยจรสาลิกาแก้วใจไยพลัดถิ่นเคยถวิลกรงชายมาถ่ายถอนเสียแรงรักถนอมใจให้เป็นคอนกลับตัดรอนไกลลับซับน้ำตากรงนกแก้วแคล้วคลาดนิราศนกกรงหัวอกชลนัยน์ไหลท่วมหล้าแต่วันจากพรากนุชสุดโศกานับเวลากรงเก่ายิ่งเศร้าตรมเฝ้าทบทวนความหลังครั้งเคยสุขเจ้าคอยปลุกปลอบใจไร้ขื่นขมด้วยจริตจริยาน่าชื่นชมโอ้ ตาคมลมไหนพาไหวเอนจึ่งลืมอ้อมอกชายให้ตายนิ่งขาดที่พิงเซโซไร้โล่เขนยอมให้ทิ่มแทงซากดุจกากเดนแล้วประเคนให้แร้งมาแย่งกินกรงหัวใจกรงนี้ไม่มีค่าสาลิกาแก้วใจไม่ถวิลจะปิดกรงอีกหนไม่ยลยินเลิกหลงลิ้นเจ้าแล้วนกแก้วเอย(ธันวาคม ๒๕๒๘)