ครูแม่พิมพ์ชาติไทยวิไลล้ำเคยสอนรำกรีดกรายตั้งหลายท่าช่วยจัดมือจัดแขนแสนระอาตามประสาเด็กซนไม่สนใจแกล้งรำถูกรำผิดจริตถ่อยครูก็พลอยพร่ำบ่นสุดทนไหวเอาไม้เฆี่ยนก้นทีนี่กระไรสอนแล้วไยไม่จำยังทำผิดคุณครูสาวพราวพริ้งสมหญิงนักนักเรียนรักทุกคนเฝ้ายลพิศแต่เราสิไม่เหมือนชอบเบือนบิดแม้เพียงนิดไม่รักเลยสักทีเกลียดไม้เรียวเคี่ยวเข็ญทุกเย็นเช้าเหมือนเร่งเร้าให้ทุกข์ไร้สุขขีฟ้อนรำไปขัดข้องต้องถูกตีนั่นหลายปีเมื่อครั้งที่ยังเรียนแม้บัดนี้คุณครูผู้เลอลักษณ์ยังเน้นหนักตำราไม่พาเหียนสอนเด็กๆคนยากอย่างพากเพียรแต่เราเปลี่ยนความหลังเคยชังครูอยากจะมาคำนับรับเรียวไม้เพราะหัวใจเริ่มซนขาดคนรู้ช่วยกำราบปราบใจให้น่าดูด้วยรักครูเหลือล้น...ผมซนครับ(มิถุนายน ๒๕๒๙)
น็อตรักคุณอุ่นไอมัดใจมั่นซึ้งสัมพันธ์เหลือล้นดุจมนต์ขลังเส้นสายเงินและทองคล้องภวังค์งามเปล่งปลั่งดั่งด้ายถักสายใยสายใจฉันถูกกอดเกี่ยวไว้เหนียวแน่นเกาะแก่นแกนเกี่ยวกันเกินหวั่นไหวมิยอมร้างห่างลาให้อาลัยขันหัวใจติดดักน็อตรักคุณYour love knots are tiedaround my heartHolding me securelyunder their spellThreads of gold and silverhave spun a lovely webAttaching themselves tomy heart stringsrefusing to let goleaving my heart tiedwith your Love Knots.(Heather Burns)
วิสาขบูชา ฟ้าเพ็ญผ่องแสงโสมส่องพสุธาอีกคราหนหวนรำลึกพุทธคุณอุ่นกมลทรงหลุดพ้นแสนประเสริฐเลิกเกิด-ตายแม่ ของลูกผูกพันถึงวันจากปีพลัดพรากห้าหนึ่ง(๒๕๕๑)ไซร้สุดใจหายลูกมาเห็นเพียงร่างแม่วางวายแสนเสียดายมิได้สั่งสุดกังวลลา ลับล่วงห่วงหาน้ำตาอาบลูกก้มกราบขอขมาพากุศลบวชบ่มจิตอุทิศบุญอุ่นกมลส่งแม่พ้นสู่สรวงฟ้านิคาลัยโลก มนุษย์สุดเศร้าคละเคล้าทุกข์ลิ้มเพียงสุขล่อจิตพิสมัยอีกไม่นานกาลเคลื่อนเข้าเตือนใจลูกจักไปตามแม่อย่างแน่นอนป.ล. รำลึกครบรอบ ๖ ปีที่คุณแม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
บอกฉันให้รู้สึกหน่อยหมึกยักษ์เส้นสายหลักหนักแน่น แขน หรือ ขาหากฉันเป็นหมึกยักษ์จักขานมาแทนคำว่า "ฉัน" ผันสะดวก เป็น "พวกเรา"The Octopus :Tell me, Octopus, I begs,Is those things arms, or is they legs?I marvel at thee, Octopus,If I were thou, I'd call me Us.(Ogdden Nash)
พระพายพลิ้วหวิวผ่านลานอโศกนั่งวิโยคจาบัลย์ถึงวันหวานกิ่งอโศกโยกไหวใจสะท้านทรมานเจียนว่าชีวาวายลานอโศกชื่อลานคงหวานชื่นกลับสะอื้นอาลัยน่าใจหายขาดพธูคู่เคียงเหลือเพียงชายนั่งเดียวดายทอดร่างกลางลานดินกามนิตวาสิฎฐีครั้งมีรักยังน้อยนักรักพี่ไม่มีสิ้นบริสุทธิ์สดใสไร้ราคินธรณินทร์ย่อมรู้อยู่แก่ใจทุบทิ้งโยนนั่นไงไยอยู่นิ่งรีบฆ่าทิ้งคนรักให้ตักษัยผลักลงเหวเสียก่อนจึงจรไกลอย่าให้นั่งคลั่งไคล้ไฟรักรุมหาไม่แล้วลานรักจักลือชื่อตรงนี้คือเปลวไฟที่ไหม้สุมกลืนชีวิตพร้อมทุกข์ที่ชุกชุมเหลือร่างหนุ่มแดดิ้นไร้วิญญาณกามนิตวาสิฎฐีคู่ชีวาตม์มิคลาคลาดชั่วกัลปวสานณ สุขาวดีสุขีนานพี่กลับพาลผันพกตกอเวจี(๓๐ เมษายน ๒๕๓๐)