คนโสมมอย่างฉันช่างมันเถอะมันเปื้อนเปรอะเศษสวะขยะแขยงไหนจะสมกานดาผู้ค่าแพงอย่ามาแสร้งให้ช้ำระกำตรมปล่อยให้มันอกหักกระอักเลือดจึงเฉือนเชือดชีวาให้สาสมทรมานเศษชายที่หมายชมเอื้อมเด็ดดมดอกฟ้าให้สาใจอย่าให้มันลืมตาดูหล้าโลกให้ทุกข์โศกทับถมจมมันไว้โทษของมันไม่เจียมอยากเทียมใครดุจเทพไท้กับหนอนซอนสวะสุดแต่ความปราณีฤดีโปรดจะยกโทษครั้งนี้...ก็ดีนะหากเจ็บแค้นไม่เลือนจะเฉือนฉะคารวะเบื้องบาทชีวาตม์พลีด้วยมันหลงรักดาวสกาวฟ้าเจียนจะบ้าด้วยรักมีศักดิ์ศรีเป็นกำแพงกั้นกลางทางไมตรีแม้กระนี้ยังฝันกระสันดาวมันไม่มีหัวใจให้ใครแล้วหากดวงแก้วยังเมินในเหินหาวจะเก็บเป็นมัมมี่มีเรื่องราวให้เดือนดาวเล่ากัน...นิรันดร(กันยายน ๒๕๒๙)
ยามขาดเธอร่วมเรียงอยู่เคียงข้างสุดอ้างว้างเดียวดายอายอดสูดุจฟากฟ้าไร้เมฆาไม่น่าดูดุจราหูกลืนจันทร์ตะวันเลือนเคยมีเธอเพ้อฝันฉันสูงค่าคราวร้างลาฉันเก้อเสมอเหมือนมีบางสิ่งเธอเอาไปไม่แชเชือนครั้งเยี่ยมเยือนแบ่งปันให้ฉันมาเป็นบางสิ่งที่ใหม่ให้ชีวิตรับรู้พิษเจ็บทรวงให้ห่วงหาพอรู้ว่าเธอใฝ่ควงใครมาเจ็บยิ่งกว่าเคยเจ็บเหน็บในทรวงWith youBeing without youLeaves me empty and hollowLike a sky with no clouds or sun or moonWith you I was someoneMy own special personWhen you left you took something I thoughtwas mineWhat you gave meWas something new to live withAn eternal waiting that hurts inside meBut knowing that you are with someone elseIs hurting me even more.(Catherine Wilkinson)
โอ้ ไทยแลนด์แดนดินถิ่นขวานคล้ายฤๅดี-ร้ายหมายเจตแบ่งเขตขันธ์สปป. ปปส. หนอ งงงันสารพันคำย่อจนท้อใจหากตัดส่วนขวานงามให้ด้ามบิ่นขวานคงสิ้นคุณค่าจะหาไหนตัดทิ้งขวานทั้งเล่มฤๅเต็มใจแบ่งเขตไทยแม้น้อยนิดฤๅคิดควรแต่ต้องแบ่งปันรักทุกฝักฝ่ายรัก เหนือ ใต้ อีสาน ล้วนหว่านสวนรักไทยกลาง ยืนยั้งอยู่ทั้งมวลไทยจึงล้วนควรแบ่งหลัก...ปันรักเอย
เจ้าของร้างลาแล้วเหลือแก้วไว้
ดั่งธารใสไร้เงาจันทร์เป็นวันหมอง
ชุดเคยใส่ไร้คนรับคอยจับจอง
ดั่งรอยร่องจันทร์ผ่านม่านฟ้าครวญ
ทางที่เธอเทียวท่องไร้น้องเที่ยว
ดั่งวันเปลี่ยวคืนเปล่าร้าวกำสรวล
หมอนเคยอิงหญิงหลบหน้าพาซบซวน
รักเรรวนน้ำตาร่วงทวงคืนวัน
ดวงฤทัยไร้นุชสุดอ้างว้าง
คำของนางลางเลือนเคลื่อนห่างหัน
ยามขาดเธอเหม่อไปยิ่งไกลกัน
ดั่งเงากั้นเมฆป่าสบลบผืนนา
Without Her
What of her glass without her? The blank grey
There where the
pool is blind of the moon’s face.
Her dress without her?
The tossed empty space
Of cloud-rack whence the moon has passed away.
Her paths without her? Day’s appointed sway
Usurped by desolate night. Her pillowed place
Without her? Tears, ah me! for love’s good grace,
And cold forgetfulness of night or day.
What of the heart without her? Nay, poor heart,
Of thee what word remains ere speech be still?
A wayfarer by barren ways and chill,
Steep ways and weary, without her thou art,
Where the long cloud, the long wood’s counterpart,
Sheds doubled darkness up the labouring hill.
(Dente Gabriel Rossetti, 12 May 1829 – 9 April 1882)
แสงจันทร์นวลชวนให้หทัยคิด
ยามเพ่งพิศจันทราน้ำตาไหล
นิราศร้างห่างคู่ชู้ทางใจ
แสนอาลัยห่วงหาพะงางาม
หริ่งเรไรหรีดร้องยิ่งหมองหม่น
ดวงกมลหม่นไหม้ใคร่ไถ่ถาม
ใคร่ชี้ชวนยวนเย้าเคล้านงราม
ใคร่ติดตามนงนุชดุจเงานาง
ยิ่งสายลมพรมไล้ไผ่เอนลู่
ดั่งยอดชู้คู่ใจจะไกลร้าง
เมื่อเมฆคล้อยลอยเคลื่อนแสงเลือนราง
คล้ายรักจางห่างเหเสน่ห์คลาย
วอนดวงเดือนเคลื่อนไปดลใจนุช
อย่าสิ้นสุดรักเราที่เฝ้าหมาย
สุกสกาวขาวเด่นเป็นประกาย
จงเฉิดฉายคงอยู่คู่จันทรา
ขอให้รักดำรงซื่อตรงมั่น
ไม่มีวันเสื่อมสิ้นดุจหินผา
ไม่มีวันหม่นหมองนองน้ำตา
สุขอุราเชยชื่นทุกคืนวัน
ครั้นดวงเดือนเคลื่อนลับดับจากฟ้า
ยิ่งเหว่ว้าอาวรณ์นอนหลับฝัน
ถึงยอดชู้คู่ใจยามไกลกัน
เกรงสัมพันธ์ฟั่นเฝือมิเหลือใย
(๓ มีนาคม ๒๕๓๑)