ดวงตาเจ้ามิเท่าเทียมดวงอาทิตย์แดงสนิทยิ่งกว่าปากที่ฝากหวังคือแดงแห่งวงศาปะการังหิมะยังขาวนั่นกว่าถันเทียรหากเส้นสายเกลียวกลมคือผมเผ้าสีดำเล่านั้นงามเข้มขึ้นเต็มเศียรกุหลาบชมพู แดง ขาว คราวเพ่งเพียรแต่แก้มเนียนเปล่าสีทาบกุหลาบงามไอประทินกลิ่นฟุ้งจรุงจิตน่าชวนชิดกว่ากลิ่นปากหากเธอถามฉันใคร่ยินสำเนียงเสียงนงรามแต่ก็ตามดนตรีเพราะเหมาะกว่านางเพิ่งได้ยลคนเยื้องย่างดั่งนางฟ้ายามขวัญตาเดินดินถิ่นฟ้าสางโอ สวรรค์รักฉันน้อยถอยละวางน้อยเหมือนอย่างนางขอดค่อนกลอนยียวนMy mistress’s eyes are nothing like the sunMy mistress’s eyes are nothing like the sun;Coral is far more red than her lips’red;If snow is white, why then her breast are dun;If hairs be wires, black wires grow on her head.I have seen roses damasked, red and white,But no such roses see I in her cheeks;And in some perfumes is there more delightThan in the breath that from my mistress reeks.I love to hear her speak; yet well I knowThat music hath a far more pleasing sound:I grant I never saw a goddess go;My mistress, when she walks, treads on the ground.And yet, by heaven, I think my love rareAs any she belied with false compare.(William Shakespeare, 1564-1616)
คฤหาสน์ผงาดเด่นเห็นตระหง่านมีรั้วรอบขอบบ้านปราการหนาล้วนหินอ่อนสลักลายหลายลีลามวลบุปผาแลสล้างตามทางเดินเทพในนิยายรายเรียงเคียงทางเท้าเทพเจ้าเหล่านั้นคนสรรเสริญเทพเหล่านั้นปั้นไว้มากมายเกินมองผิวเผินดุจสวรรค์ชั้นวิมานแสงโคมไฟใสสว่างกระจ่างทั่วจากนอกรั้วมองมาอุราซ่านเห็นคฤหาสน์สวาสดิ์หวั่นทุกวันวารในดวงมานหม่นหมองเฝ้ามองมาแผ่วๆเสียงเปียโนวาโยพัดดังจากยอดคฤหัสน์ฟังชัดว่าโด่ เล มี ซี โด มี ซอล ฟาคือนางฟ้านั่นเองบรรเลงคลออยู่ในชุดสีขาวพราวเสน่ห์พลางกล่อมเห่หวานล้ำลำพระศอคราได้ฟังคลั่งไคล้ใฝ่พะนอแอบยลหอสูงเด่นมิเว้นวายเสียงเปียโนโศกศัลย์รัญจวนจิตว่าขาดคู่ชูชิดมิตรสหายเธอถูกกักซ่อนหลบไม่พบชายสุดเสียดายนางฟ้าของข้าเอย(สิงหาคม ๒๕๒๙)
ครั้งฉันเยาว์สาวสวยรวยเสน่ห์หลายชายเห่ห้อมหอมดมดอมหมายฉันทำเขาสะเทิ้นขวยเขินอายบอกปัดป่าย‘ไปหาอื่นฉันฝืนทน’หลายนัยนาจาบัลย์โศกศัลย์ยิ่งฉันเกินนิ่งถอนหทัยให้ฉงนแต่ศักดิ์ศรีสตรีสูงยิ่งยูงยลไปให้พ้น‘ไปหาใหม่ฉันไม่มอง’กามเทพบุตรวีนัสตรัสอย่างหยิ่งเจ้าเป็นหญิงหยิ่งศักดิ์ไร้รักสองข้าจักถอนศักดิ์สูงแห่งยูงทองจักเลิกร้อง‘ไสส่งคนหลงรัก’พอสิ้นคำตำอกสะทกถันทุกคืนวันหวั่นไหวใจประจักษ์รู้สึกผิดคิดไปกระไรนักพูดผลาญผลัก‘ไปหาใหม่ฉันไม่มอง’When I Was Fair and YoungWhen I was fair and young, then favor graced me.Of many was I sought their mistress for to be,But I did scorn them all and answered them therefore:Go, go, go, seek some other where, importune me no more.How many weeping eyes I made to pine in woe,How many sighing hearts I have not skill to show,But I the prouder grew and still this spake therefore:Go, go, go, seek some other where, importune me no more.Then spake fair Venus’ son, that proud victorious boy,Saying: You dainty dame, for that you be so coy,I will so pluck your plumes as you shall say no more:Go, go, go, seek some other where, importune me no more.As soon as he had said, such change grew in my breastThat neither night nor day I could take any rest.Wherefore I did repent that I had said before:Go, go, go, seek some other where, importune me no more.(Queen Elizabeth I, 1533 – 1603)
มธุรสบทกวีวจีร้อยราวทิพย์ถ้อยคล้อยครวญให้หวนหาลอยลมไกลใฝ่ถึงซึ้งอุราราวมนตราตรึงรัดสัมผัสใจจึ่งร้อยเรียงเคียงรักถักทอสร้อยร่วมล่องลอยชลพจน์พร่ำสดใสร่วมท่องดาวพราวพร่างมิร้างไกลอิงอุ่นไอไขบทลิ้มรสกลอนสุริยันจันทราเยือนฟ้าใหม่ห้วงหทัยปีนป่ายมิถ่ายถอนแม้เหมันต์วสันต์สิ้นยังบินจรแม้หนาว-ร้อนมิอ่อนไหวอุ่นใจเธอราวมิเคยจดจำคืนค่ำเริ่มราวประเดิมเพิ่งพบสบเสมอแต่หน่วงเหนี่ยวเกี่ยวใจใฝ่ละเมอราวฉัน-เธอเคยสรรสร้างแต่ปางบรรพ์รักร้อยกรองตรองรักสมัครมิตรร้อยรักจิตลิขิตเลิศให้เฉิดฉันร่วมเคียงข้างสร้างคำเจิดจำนรรจ์ร่วมรังสรรค์วรรณศิลป์ให้ยินยลส่งสำนวนชวนฝันของขวัญตอบดุจดั่งมอบแพรผ้าป้องฟ้าฝนถักด้วยจิตคิดห่วงดวงกมลร้อยรักล้นท้นดวงแด่ทรวงเธอ
คุณคือ แบบอย่างฉันขวัญชีวิตล้วนลิขิตพิมพ์จริงทุกสิ่งสรรพ์คือปัญญาในอดีตขีดชีวันสารพันสิ่งใหม่ในเวลาคือราตรี ประดับดาวพราวระยับที่เคลื่อนขับเรืองรองท่องเวหาเติมหทัยไม่สิ้นจินตนาปรารถนาถูกฉุดจุดชนวนคือความหมาย ของฉันในวันว่างแต่ฟ้าสางน้ำค้างหยดหยาดรดสวนปรารถนาเกินหยุดสุดรัญจวนคุณคิดครวญสิ่งใดใคร่ยลยินคือความอ่อน และแข็งแฝงฉันอยู่ได้รับรู้ทั้งสุขทุกข์ถวิลทั้งหัวเราะโศกาน้ำตารินคือชีวิน วันวานมุ่งและพรุ่งนี้YouYou are the pattern of my lifeAnd every sign is printed trueYou are the wisdom of the agesAnd all things new.You are my night, my canopy of starsGleaming above me as a tender fireFilling my heart and mind with dreamsAnd my being with desire.And you, you are my daybreakBringing the sunrise and the early dew,All I wish to do, could hope to knowIs within you.You are my strength and my weaknessMy boundless joy and deepest sorrow,You are my tears and my laughterMy yesterday and my tomorrow.(Patricia Samuels)