มองทุ่งโล่งราบเรียบเงียบสงัดลมเคยพัดผ่านนาซบซาเสียงลานทองไร้ข้าวกองเมื่อมองเมียงเห็นแต่เพียงลานร้างเศษฟางกองโอ้ ลานทองรองธารทานน้ำจิตจากมิ่งมิตรเคยชมประสมสองเจ้าฟูเฟื่องเมืองหลวงทิ้งรวงทองจนห้วยหนองแห้งเหือดเดือดกมลเสียแรงสู้นวดข้าวคอยสาวรักทั้งปลูกผักถักแพรแลสับสนถนอมเนื้อเพื่อเรียมมาเยี่ยมยลตราบเท่าจนบัดนี้ไม่มีแววที่ลานทองก่อนนั้นสัมพันธ์ชื่นรักราบรื่นริกริ้วชมทิวแถวจนคืนค่ำน้ำค้างลงพร่างแพรวยังพร่ำแอ่วสัญญาค่อนราตรีกลิ่นฟางข้าวคาวหื่นไม่ชื่นแล้วหลงเวียงแก้วลืมนาฤๅยาหยีลืมอ้อมแขนแข็งกร้าวราวไม่มีลืมรอยที่จุมพิตสนิทใจเห็นลานรักหักใจให้ลืมรักสุดจะหักรักลาน้ำตาไหลพอสิ้นคำคร่ำครวญรีบด่วนไปเห็นไวๆวับๆ...เธอกลับมา(๑๘ มกราคม ๒๕๓๐)
เงิน-รักมักแตกต่างรัก...ซะอย่างไม่วางขายมิอาจซื้อถือง่ายดายคงความหมายฉายราคาเงิน...มิใช่น้ำผึ้งเพียงส่วนหนึ่งซึ้งหรรษาภาษิตจำติดตาได้เงินมานับว่า...ดีมั่งคั่ง...ดีที่สุดซื้อมิหยุดสุดวิถีเงินหมายไม่ขายมีเว้นกะหรี่ที่ขายตัวDifferentiate moneyAnd loveLove is not salebleWho told you.Again I saidMoney is not honey alwaysMoney is funny for life's sakeThe only message.You earn money- goodPower to make money- bestMoney will not do anythingExcept buying whore.(Gajanan Mishra)
ดอกเอย...ดอกหญ้าประดับหล้ารื่นรมย์ให้ชมชื่นเผยกลีบรับสุริยันทุกวันคืนแต่ไม่ยืนยาวนักจักโรยราหมู่ภมรละเลยเมินเฉยดอกจักช้ำชอกเพียงใดมาลัยหล้าจักสูญเปล่าเสียสิ้นเสื่อมวิญญาณ์โอ้ ดอกหญ้าเตี้ยต่ำระกำตรมต่างกันกับดอกฟ้าทิวาชื่นทุกค่ำคืนโสภาสง่าสมหมู่ภมรหมายกลิ่นถวิลชมมุ่งดอมดมดอกฟ้าสถาพรถึงดอกหญ้าดอกดินดูสิ้นศักดิ์แต่ฉันรักมั่นหมายมิถ่ายถอนแม้ถูกเหยียดถูกหยามนามกรมิอาทรหยามหมิ่นใครนินทาดอกหญ้าต้องลมลู่แล้วชูช่อเหมือนตัดพ้อคำมั่นที่สรรหามิอยากเชื่อลมลิ้นสิ้นสัจจาโถ บุปผาเตี้ยต่ำอย่าทำงอนเจ้ามิรู้ข้าด้อยสุดต้อยต่ำยิ่งกว่าคำเปรียบเปรยเผยสมรแค่สวะโสโครกโศกอาวรณ์หากตัดรอนคงม้วยด้วย...ดอกดิน(เหมันตฤดู ๒๕๒๘)