อุ่นไอรักภักดีไม่หนีหน้าชื่นชีวาร่วมอยู่เป็นคู่ขวัญอิงแอบอกกกกอดพลอดรักกันซึ้งสัมพันธ์สายสวาทฤๅขาดรอนความรักหอมดอมดมภิรมย์รื่นมิเป็นอื่นขื่นคายมิถ่ายถอนพยานรักห่วงหาให้อาวรณ์เอื้ออาทรซ้อนบ่วงโซ่ถ่วงใจหากแต่กาลผลาญพร่าถึงคราจากจำพลัดพรากจากรักถูกผลักไสสัจธรรมค้ำโลกโศกอาลัยรักเพียงใดต้องตัดขาดชีวาตวาย
เปรียบเธอกับคิมหันต์แย้มวันแจ่มฟ้าเธอโสภายิ่งกว่าวันฟ้าใสไม่อบอ้าวหนาวเนื้อเอื้ออุ่นไอนุ่มละไมไร้ลมโกรกพัดโบกโบยแต่พระพายพฤษภายังซ่าซัดบ้างร้อนจัดกายแสบสุดแหบโหยแสงสรวงทองส่องหล้ายังลาโรยร้องโอดโอยมิเที่ยงแท้มีแปรปรวนธรรมชาติผกผันทุกวันวี่เธอโสภีคงมั่นมิผันผวนคงความงามคับคั่งไว้ทั้งมวลมรณังยังอายม้วนมิกวนเธอตราบมีลมหายใจในมนุษย์ตาบุรุษยินยลย่อมบ่นเพ้ออมตะโสภินถวิลเจอชีพเสนอแด่เธอนี้ชั่วชีวังShall I compare thee to a summer's day?Thou art more lovely and more temperat:Rough winds do shake the darling buds of May,And summer's lease hath all too short a date:Sometimes too hot the eye of heaven shines,And often is his gold complexion dimm'd;And every fair from fair sometime declines,By chance or nature's changing course untrimm'd;But thy eternal summer shall not fade,Not shall Death brag thou wander'st in his shade,When in eteranl lines to time thou grow'st:So long as men can breathe, or eyes can see,So long lives this, and this gives life to thee.(William Shakespeare, 1564-1616)
สุดสนเท่ห์แดนดินถิ่นโลกหล้าพสุธาคงมั่นยังหวั่นไหวฤๅพิษพักตร์โฉมสะอางแห่งนางใดริคเตอร์ใจไหวสะทกตกสเกลIntegrity of the Earth, I doubted.Earthquake! they shouted,But your worldly beauty with no doubt,It's about excess Richter scale of my heart!(P. Pantasri, 5 May 2014)ป.ล. ขอแสดงความเสียใจต่อภัยพิบัติแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของไทย มา ณ ที่นี้ด้วย
สุดสนเท่ห์ดวงดาวราวไฟฟ้าสุริยาเวียนวงให้สงสัยแม้ความจริงอาจเท็จหมกเม็ดในแต่วางใจไม่ฉงนเพราะตนรักDoubt thou the stars are fire!Doubt that the sun doth move;Doubt truth to be a liar;But, never doubt I love.(William Shakespeare, 1564-1616)
หัทยาภาษาชี้ไยซีโร่เพื่อนเป็นโหลรุมรักสมัครหมายคนรักกลอนนอนเปลี่ยวฤๅเดียวดายย่อมขวนขวายขุดคิดประดิษฐ์คำหฤทัยไมตรีแม้ซีโร่ยังผลุบโผล่เพราะงานเร้ายันเช้าค่ำขอบคุณที่เติมเต็มให้เข้มดำเกริ่นลำนำกลอนกาพย์ซาบซึ้งใจหัวใจศูนย์ ศูนย์กลางระหว่างจิตสร้างสรรคิดมิตรใหม่ทั้งไกลใกล้เริ่มจากศูนย์จงนับหนึ่งถึงหทัยก้าวต่อไป สอง สาม สี่ กวีเดินศูนย์หัวใจไมตรีไม่มีจืดยิ่งยาวยืดโยงใยใคร่สรรเสริญกลอนกล่อมเกลาเขลา-ฉลาดฤๅปราชญ์เมินยิ่งชวนเชิญชนอ่านแต่กานท์กลอนศูนย์ความคิดจิตใจยิ่งใหญ่กว่าคือคุณค่าเยี่ยงคำพระธรรมสอนศูนย์ข้างนอกเกินกล่าวไยร้าวรอนอย่าอาทรศูนย์สถิตอนิจจังหฤทัยใส่หนึ่งซาบซึ้งนักดุจเติมรักอาจิณไม่สิ้นหวังแม้ไม่เติมกลับไปเป็นไอดังแต่เบื้องหลังยังคงเข้มเติมเต็มดวง