ไดอารี่สีดำค่าล้ำนักบันทึกรักหนักอึ้งซึ้งมิหายอ่านทบทวนความหลังคลั่งเจียนตายเมื่อบั้นปลายรักสิ้นเขาผินพักตร์จะเก็บไว้ทำไมไดอารี่จ่ออัคคีเผาซ้ำระกำหนักอดีตกาลหวานล้ำกับคำรักไฟผลาญผลักเป็นเถ้าอย่างเศร้าใจแล้วรองสายชลนัยน์ที่ไหลย้อยต่างน้ำคอยราดรดเพลิงหมดไหม้บันทึกความขมขื่นกลับคืนไปในกองไฟไดอารี่เปลวสีแดงไม่จดจำอีกแล้วรักแคล้วคลาดลืมรสชาติหวานลวงทรวงแสลงลืมอดีตขมขื่นฝืนเอาแรงรอวันแห่งแสงสว่างนำทางเดินหยิบขึ้นมาเล่มใหม่ไดอารี่เริ่มวันที่ ยังว่างไม่ห่างเหินเดือน อยากพบนิ่มเนื้อนั่นเหลือเกินพ.ศ. เพลินคอยเก้อเธอคนใหม่บันทึกจนบัดนี้ไม่มีเค้าไม่พบเงาใครคนเฝ้าหม่นไหม้จะอีกนานไหมหนอเฝ้ารอใครช่วยขานไขบันทึกเปล่าหายร้าวราน(๒ มิถุนายน ๒๕๓๐)
ปล่อยให้ฝนหล่นลูบลงจูบร่างตกพรายพร่างต้องหัวกลั้วเม็ดฝนหยดเงินยวงร่วงลิ่วแตะผิวคนฟังยินยลฝนพรำเห่ฮัมฮวนน้ำฝนไหลลงลุ่มเติมหลุมบ่อข้างทางหนอน้ำนองราวร่องสวนรางน้ำรินยินเห่ราวเปลยวนหลังคาครวญชวนหลับพัก...รักฝนเอยLet the rain kiss you.Let the rain beat upon your head with silver liquid drops.Let the rain sing you a lullaby.The rain makes still pools on the sidewalk.The rain makes running pools in the gutter.The rain plays a little sleep song on our roof at night -And I love the rain.(Langston Hughes)
เลือกรัก ใจคักคึกจงรักลึกสมนึกรักจริงใจใฝ่สมัครสมใจภักดิ์ที่รักมีเลื่อนรัก ใจมักเศร้าจักหงอยเหงาหากเขาหนีจริงจังชั่งฤดีเลื่อนทุกทีแต่มีใจลวงรัก ใจหักบิ่นรักสูญสิ้นตารินไหลร้างลาจำอาลัยชอกช้ำใจหนอใครลวงหลอกรัก ใจชักเชื่อฟังไม่เบื่อเหลือห่วงหวงหลงไหลใฝ่แดดวงไม่ทักท้วงถูกลวงรักเล่นรัก ใจชักเมื่อยรักไปเรื่อยใจเหนื่อยหนักใจจริงหวังพิงพักอย่าไร้หลักเล่นรักนะ"เลือกตั้ง" ใจหยั่งสิทธิ์ถูกลอนริดอิสระทุ่มโถ รักโมคะ(ฆะ)ไม่เอาน่ะ โมเมครับ
ดวงตาเจ้ามิเท่าเทียมดวงอาทิตย์แดงสนิทยิ่งกว่าปากที่ฝากหวังคือแดงแห่งวงศาปะการังหิมะยังขาวนั่นกว่าถันเทียรหากเส้นสายเกลียวกลมคือผมเผ้าสีดำเล่านั้นงามเข้มขึ้นเต็มเศียรกุหลาบชมพู แดง ขาว คราวเพ่งเพียรแต่แก้มเนียนเปล่าสีทาบกุหลาบงามไอประทินกลิ่นฟุ้งจรุงจิตน่าชวนชิดกว่ากลิ่นปากหากเธอถามฉันใคร่ยินสำเนียงเสียงนงรามแต่ก็ตามดนตรีเพราะเหมาะกว่านางเพิ่งได้ยลคนเยื้องย่างดั่งนางฟ้ายามขวัญตาเดินดินถิ่นฟ้าสางโอ สวรรค์รักฉันน้อยถอยละวางน้อยเหมือนอย่างนางขอดค่อนกลอนยียวนMy mistress’s eyes are nothing like the sunMy mistress’s eyes are nothing like the sun;Coral is far more red than her lips’red;If snow is white, why then her breast are dun;If hairs be wires, black wires grow on her head.I have seen roses damasked, red and white,But no such roses see I in her cheeks;And in some perfumes is there more delightThan in the breath that from my mistress reeks.I love to hear her speak; yet well I knowThat music hath a far more pleasing sound:I grant I never saw a goddess go;My mistress, when she walks, treads on the ground.And yet, by heaven, I think my love rareAs any she belied with false compare.(William Shakespeare, 1564-1616)
คฤหาสน์ผงาดเด่นเห็นตระหง่านมีรั้วรอบขอบบ้านปราการหนาล้วนหินอ่อนสลักลายหลายลีลามวลบุปผาแลสล้างตามทางเดินเทพในนิยายรายเรียงเคียงทางเท้าเทพเจ้าเหล่านั้นคนสรรเสริญเทพเหล่านั้นปั้นไว้มากมายเกินมองผิวเผินดุจสวรรค์ชั้นวิมานแสงโคมไฟใสสว่างกระจ่างทั่วจากนอกรั้วมองมาอุราซ่านเห็นคฤหาสน์สวาสดิ์หวั่นทุกวันวารในดวงมานหม่นหมองเฝ้ามองมาแผ่วๆเสียงเปียโนวาโยพัดดังจากยอดคฤหัสน์ฟังชัดว่าโด่ เล มี ซี โด มี ซอล ฟาคือนางฟ้านั่นเองบรรเลงคลออยู่ในชุดสีขาวพราวเสน่ห์พลางกล่อมเห่หวานล้ำลำพระศอคราได้ฟังคลั่งไคล้ใฝ่พะนอแอบยลหอสูงเด่นมิเว้นวายเสียงเปียโนโศกศัลย์รัญจวนจิตว่าขาดคู่ชูชิดมิตรสหายเธอถูกกักซ่อนหลบไม่พบชายสุดเสียดายนางฟ้าของข้าเอย(สิงหาคม ๒๕๒๙)